พูดถึงที่ชาร์จแบตฯ สำรองหรือ “Power Bank” แล้วแต่ก่อนเชื่อว่าคงจะไม่มีใครรู้จัก เพราะว่าสมัยยุคก่อน Smart Phone นั้น (ย้อนกลับไปนานหน่อย) โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ล้วนจะสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 สัปดาห์ทั้งนั้น เรียกได้ว่าวางทิ้งไว้จนลืมที่ชาร์จเลยทีเดียว บางรุ่นสแตนบายได้เป็นเดือนเลยนะเอ้อ … !!! รู้สึกจะของ Philips นะ จนกระทั่งยุคมืดได้เริ่มต้นขึ้น (ทำเสียงน่ากลัว – -*) เมื่อ CPU ได้เข้าไปสู่ในมือถือของแต่ละรุ่น ก็ทำให้มือถือนั้นกินพลังงานมากขึ้น จนบางเครื่อง “อยู่ได้ไม่ถึงวัน” ใช่ครับ … มือถือที่อยู่ได้ไม่ถึงวันมันเคยมีแล้วจริง ๆ และบางที iPhone ก็คือหนึ่งในนั้น บางทีเปิด 3G เล่นหนัก ๆ กลายว่าแบตฯ หมดก่อนถึงบ้านไปเลย กลายเป็นมือถือที่ติดต่อไม่ได้ (แล้วจะมีไปทำไมหว่า = =”)
และแล้วโลกก็เปลี่ยนไปเมื่อมียางมิชลิน เว๊ยยย… ไม่ใช่แล้ว เมื่อมี “Power Bank” หรือก็คือแบตฯ สำรอง หรือคนทั่วไปชอบเรียกว่า “Extranal Battery” ต่อไปนี้ผมขอเรียกว่า “Power Tube” ดีกว่าเนอะ เพราะเป็นรุ่นของเจ้าตัวนี้พอดี จะได้ไม่สับสนด้วย
ตัว “MiPow Power Tube” สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปหรือที่ BBiPhone.com จะอยู่ที่ราคา 2,790 บาท
(ก่อนอื่นขอขอบคุณ – BBiPhone.com ผู้สนับสนุนสินค้าในการทดสอบครั้งนี้)
หน้ากล่องเขียนว่าสร้างสำหรับ iPod, iPhone, iPad อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ดีกับอุปกรณ์อื่น ๆ อีกด้วย เช่น มือถือทุกรุ่น, PSP, NDS หรือแม้กระทั่วพัดลม USB *0*
สำหรับเจ้าตัว Power Tube ตัวนี้มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 6600 mAh ซึ่งหลายคนสำหรับมือใหม่ก็คงจะคิดว่า “มันเยอะไหม?” โดยผมจะเปรียบเทียบให้แบบง่าย ๆ สไตล์ iPM พูดง่าย ๆ ก็คือ iPhone 4 ความจุประมาณ 1420 mAh ครับ พอจะเดาได้แล้วนะครับ ว่าเจ้าตัว Power Tube นี้สามารถชาร์จได้กี่ครั้ง?
iPhone 2G มีแบตฯ ความจุประมาณ 1400 mAh
iPhone 3G มีแบตฯ ความจุประมาณ 1150 mAh
iPhone 3GS มีแบตฯ ความจุประมาณ 1219 mAh
iPhone 4 มีแบตฯ ความจุประมาณ 1420 mAh
iPhone 4S มีแบตฯ ความจุประมาณ 1430 mAh
iPod touch Gen 1 มีแบตฯ ความจุประมาณ 900 mAh
iPod touch Gen 2 มีแบตฯ ความจุประมาณ 800 mAh
iPod touch Gen 3 มีแบตฯ ความจุประมาณ 789 mAh
iPod touch Gen 4 มีแบตฯ ความจุประมาณ 930 mAh
iPad 1 มีแบตฯ ความจุประมาณ 6600 mAh
iPad 2 มีแบตฯ ความจุประมาณ 6930 mAh
Samsung P1000 Galaxy Tab มีแบตฯ ความจุประมาณ 4000 mAh
พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าไอ้เจ้าตัว Power Tube นั้นให้พลังงานได้มากหรือน้อย แต่ … ครับ มันมีแต่อยู่ จะเทียบบัญญัติไตรยางศ์คูณเอาตรง ๆ เลยไม่ได้ เพราะเรื่องศาสตร์ของพลังงานมันมีศูนย์เสียระหว่างกว่าถ่ายโอนอยู่ ซึ่งผมจะกล่าวในย่อหน้าถัดไปครับ
ตัว Power Tube นั้นมาพร้อมกับหัวชาร์จอุปกรณ์แบบต่าง ๆ ถึง 9 หัวด้วยกัน ซึ่งไม่เฉพาะ iPhone เท่านั้นยังมีหัวเฉพาะสำหรับรุ่นอื่น ๆ อีกด้วย เอาล่ะครับเมื่อกี้ผมค้างเรื่องการถ่ายเทประจุพลังงานเอาไว้ กล่าวก็คือคนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องพลังงานที่แบตฯ สำรองถ่ายโอนประจุได้และคนขายเขาไม่ค่อยจะบอกกันครับหรือก็คือ ปกติแล้ว Power Bank หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกัน “External battery” สามารถชาร์จแบตฯ ของอุปกรณ์ได้เต็มพอดีจะต้องใช้ Power Bank ที่มี mAh มากกว่าแบตฯ ของอุปกรณ์ที่จะชาร์จประมาณ 1.7 เท่า
เช่น แบตฯ ของ iphone4 ดังที่ผมกล่าวในขั้นต้นคือ 1420 mAh หากจะชาร์จให้เต็มพอดีจะต้องใช้ Power Bank ที่ประมาณ 2414 mAh (เอา 1.7 ไปคูณ) ซึ่งสำหรับเจ้าตัว Power Tube 6600mAh นี่ขอบอกได้เลยว่า “เหลือ ๆ เกือบ 3 เครื่อง”
หมายเหตุ : ตัวเลขเป็นค่าประมาณเท่านั้น ซึ่งใช้งานจริงอาจมีการแตกต่างกันเล็กน้อย ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น แบตฯ ที่อยู่ใน Power Tube, การเปิดใช้งาน 3G ระหว่างชาร์จ, การชาร์จจากเครื่องที่แบตฯ หมดเกลี้ยงจะต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากในการเร่งประจุ, อายุขัยของแบตฯ อุปกรณ์ที่ชาร์จ ฯลฯ
ด้านหลังของกล่องครับ เป็นแบบนี้ครับ
สเปคของอุปกรณ์แบบชัด ๆ เลย
ตัว Power Tube สามารถใช้ชาร์จได้ถึง 500 Cycle หรือให้อธิบายก็คือสามารถชาร์จได้ถึง 500 ครั้ง พูดง่าย ๆ คือชาร์จตัว Power Tube เต็มความจุ 100% วันจันทร์ใช้งานหนักมาก ใช้จนตัว Power Tube หมดเกลี้ยงไม่สามารถจ่ายไฟได้อีก จึงน้ำมาชาร์จไฟบ้านต่อ แบบนี้เขาเรียกว่า “1 Cycle” ครับ ส่วนวันอังคารใช้งานนิดหน่อย ใช้ตัว Power Tube ไปแค่ 50% ของความจุมัน จึงนำกลับบ้านมาชาร์จไฟต่อให้เต็ม แล้ววันพุธนำไปใช้ต่ออีก 50% ซึ่งตอนนี้แบตฯ ของตัว Power Tube ยังไม่หมด แต่ก็ถือว่าใช้ไป “2 Cycle” จากวันจันทร์แล้วครับ
หรือให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือใช้ครบหมดเกลี้ยงนับเป็น 1 Cycle แต่ถ้าใช้ไม่หมด (ใช้แค่นิดเดียว แล้วเอาไปชาร์จไฟบ้าน) ก็นับเป็นเศษไป 0.2 Cycle, 0.8 Cycle … ก็ว่าไปเรื่อย ๆ ตามการใช้งานว่าใช้ มาก-น้อย จนไปถึง 500 Cycle จึงจะเข้าเริ่มคำว่าเสื่อม (ค่าประมาณ) เสื่อมคืออะไร เสื่อมก็คือการที่ไม่สามารถเก็บไฟได้ตามสเปคที่ระบุไว้ เช่น เก็บไฟได้แค่ 90% ของ 6600mAh เป็นต้น จากนั้นพอหลาย ๆ ครั้งก็เก็บได้น้อยลง ๆ จนเก็บไม่ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของแบตฯ ทุกตัวบนโลกใบนี้
จากที่กล่าวในข้างต้นหลาย ๆ คนอาจจะกลัวเรื่องแบตฯ เสื่อม เลยอาจจะทำให้กลัวไม่กล้าใช้กัน ซื้อมาเก็บ (แล้วซื้อมาทำไมฟะ -*-) อยากบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอกครับ “เก็บไว้เฉย ๆ 2-3 ปีมันก็เสื่อม” ไม่ใช่ Power Tube ตัวนี้ไม่ดีครับ แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาของแบตฯ ทุกอย่างบนโลกใบนี้ สิ่งที่ผมจะเตือนก็แค่หากอยู่บ้าน มีที่ชาร์จพร้อมก็ชาร์จอุปกรณ์ของท่านไปเถอะครับ ถ้าปลั๊กอยู่ใกล้ ๆ มือท่าน และสะดวกใช้งานล่ะก็อย่างเอา Power Tube มาชาร์จเล่นให้ Cycle ขึ้นเลย ถนอมเอาไว้ใช้งานดีกว่า (แต่อย่าถนอมเกินเหตุ)
ส่วนขนาดของเจ้า Power Tube อยู่ที่ 23.5 (หนา) x 245 (ยาว) มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 280 กรัม สามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลายหลายชนิด ซึ่งด้านข้างของกล่องได้ระบุตัวอย่างไว้อย่างชัดเจน
เมื่อเปิดมาจะเจอโฆษณาของ MiPow จะเห็นได้ว่าเขาผลิตอุปกรณ์เสริมหลากหลายจริง ๆ ซึ่งในตอนแรกเห็นยี่ห้อแล้วหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จัก (ผมก็หนึ่งในนั้น – – v) แต่ดูจากแผ่นพับแล้วดูเหมือนว่า MiPow จะไม่ใช่บริษัทเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ เลยครับ
หัวชาร์จทั้ง 9 ที่แถมมาพร้อมวิธีต่อ ซึ่งประกอบไปด้วย SAMSUNG, BB, LG, HTC, PSP, SonyEricsson, Apple, USB ซึ่งผมก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่ามันใช้รุ่นไหนไม่ได้บ้าง = =”
บัตรรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยบริษัทผู้นำเข้าครับ แน่นอนว่าไม่ใช่สินค้าที่เสียแล้วทิ้งแน่นอน หากมีปัญหาสามารถส่งเครมได้ครับ ไม่ต้องกังวล ซึ่งอุปกรณ์ Electronic Device นั้นจะไม่เหมือนเคสที่ซื้อที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องเลือกยี่ห้อที่วางใจ และสามารถเครมสินค้าได้เมื่อใช้ไปแล้วเกิดปัญหา
แกะกล่องมาแล้วครับสำหรับตัว Power Tuve วางอยู่อย่างพร้อมสรรพ
มีสติกเกอร์รับประกัน 1 ปี โดยบริษัทผู้นำเข้าเรียบร้อย
ภาพจากมุมด้านหน้า MiPow Power Tube
ที่ชาร์จไฟบ้านแถมให้เรียบร้อย โดยหัวชาร์จเป็นแบบ 3.5 ม.ม. แบบเดียวกับที่ใช้ชาร์จ iPod Shuffle และ Bluetrek Musicall
เมื่อเสียบพร้อมชาร์จจะเป็นแบบนี้ ซึ่งสายที่ให้มายาวใช้ได้เลย ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ให้เมื่อย (ถ้ามีโต๊ะวาง) โดยรูจ่ายไฟและรูชาร์จไฟเข้าจะใช้รู ๆ เดียวกันครับ
เห็นแล้วนึกถึงหนังเรื่อง “คมแฝก” เลยเอามาจับดูปรากฎว่าพอดีมือเลยแฮะ = =” (อันนี้แอบฮา)
ขนาดความยาวของตัว Power Tube นั้นพอ ๆ กับขนาดของ iPad เลยครับ (ยาวกว่านิดหน่อย) เลบทำให้สะดวกเวลาพกพา โดยปกติแล้วถ้ากระเป๋าของเรานั้นสามารถยาวพอที่จะใส่ iPad ได้ นั้นก็หมายความว่าจะต้องแทรกยัด Power Tube ลงไปได้ด้วย
หัวชาร์จ Apple กันแบบชัด ๆ สามารถชาร์จได้ตั้งแต่ iPod, iPhone ยัน iPad ทุกรุ่นเลย
หัวชาร์จ Micro USB สามารถใช้กับ BB (ไม่แน่ใจว่าทุกรุ่นไหม แต่น่าจะหลายรุ่นอยู่) และ Motorola V8
หัวชาร์จ Mini USB สำหรับใช้ชาร์จ Motorola BB HTC รุ่นเก่า ๆ หน่อย รวมถึง BLUETREK Carbon
หัวชาร์จสำหรับ PSP แบบชัด ๆ เรียกว่าตัวเดียวเกินคุ้ม (เล่นยาว ๆ ก็งานนี้ล่ะ)
หัวชาร์จสำหรับ SonyEricsson รุ่นใหม่ ๆ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ายังเป็นแบบนี้อยู่รึปล่าว?
หัวชาร์จสำหรับ LG รุ่นเก่า ๆ พวก ไอ้ติม ฯลฯ แต่เดียวนี้ผมเห็นเปลี่ยนเป็น Micro USB กันหมดแล้วนะ
อะไรนะ NDS ก็มาหรอ *0*
ส่วนอันนี้เป็นหัวที่ผมชอบมากที่สุดคือหัว USB ซึ่งมันอเนกประสงค์มาก ๆ หรือก็คืออะไรก็ตามที่ชาร์จไฟจากคอมได้ จะสามารถชาร์จไฟจากไอ้เจ้า Power Tube ตัวนี้ได้ และที่สำคัญกว่านั้นเอาไว้ “กันหัวชาร์จหาย” ครับ อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีอันนี้ที่ใช้สำรองแทนได้ (ไปหาสายคอมฯ ที่แถมมากับเครื่องต่อแทนไปอีกทีนึง)
เมื่อขณะชาร์จหากไฟยังไม่เต็มจะเป็นสีแดง
เมื่อเต็มแล้วไฟจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครับ ซึ่งนานมาก ๆ ผมชาร์จครั้งแรกจากแบตฯ 0% จนเต็มใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ToT
เมื่อเสียบ iPhone4 แล้วขึ้นชาร์จตามปกติครับ ผมชาร์จจากต่ำกว่า 10% ไปจนถึง 100% ใช้เวลาร่วมประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งชาร์จ iPhone4 นั้นไม่เท่าไหร่ แต่ที่ปราบเซียนคือชาร์จ iPad ครับ ซึ่งอุปกรณ์ Power Bank นับน้อยรายนักที่จะสามารถชาร์จเข้า (ตอนซื้อดูดี ๆ นะครับ ถ้าหากจะนำมาใช้กับ iPad) ถ้ากระแสความแรงมันไม่ถึงก็จะไม่สามารถถ่ายเทพลังงานลง iPad ได้ ซึ่งเราจะมาดูกัน ขอย้ำ เรื่องกระแสไฟไม่มีผลทำให้แบตฯ ทุกชนิดเสื่อมสภาพ
ปรากฎว่าชาร์จเข้าขึ้นสัญลักษณ์ครับ ไม่มีปัญหาใด ๆ เดี๋ยวผมจะซูมให้ใกล้ ๆ ครับ เดี๋ยวจะหาว่าโม้ อิอิ …
สรุป : ตัว Power Tube นั้นเป็น Power Bank ที่จ่ายไฟได้ค่อนข้างมากอยู่ครับ ถึงจะมีน้ำหนักมากแต่ก็พกพาสะดวก เนื่องจากรูปทรงของมัน ถึงแม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่แลกมาด้วยการรับประกันที่เชื่อถือได้ และหัวแปลงอุปกรณ์ที่มากกว่า
ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)
ใหญ่และยาวมาก ไม่เหมาะสำหรับคนไ่ม่มีกระเป๋า = =' ขอพก Enerloop ต่อไป 😉
จะได้ชาร์จยาว ๆ ไงครับ ส่วนตัว 6600mAh ถ้าทำแบบไม่ยาวมันจะเกะกะมาก ๆ เลยครับ เพราะเซลล์แบตฯ มันเยอะอยู่
แบต iPhone 4 1420mAh ครับ ขอบคุณรีวิวดีๆครับ 🙂
ยี่ห้อไว้ใจได้ไหมอะครับ ดูวัสดุแล้วไม่น่าไว้ใจเลย T^T
วัสดุไม่เลวร้ายนะครับ ดีมาก ๆ
อยากเห็น Review Zagg Sparq 2.0 จัง !! ได้ข่าวว่ามันโหดมาก :O
ไว้มีของเมื่อไหร่จะทดสอบให้ดูนะครับ
รู้แต่ว่า Zagg Sparq 2.0 หนักมาก ๆ -0-
ซื้อมา มะวาน ลองชาร์ตแล้ว ไม่มีสัญลักษณ์ไฟสปาร์คขึ้นเลยอะ ตายๆๆ ต้องไปเคลมใหม่ละ ชาร์ตไม่เข้า เวรจริง