หลายคนในที่นี้ (เชื่อว่าคงเกิน 90% แหล่ะ) ที่เลือกติดฟิล์มกันรอยกับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ iPhone หรือ iPad ก็ตาม เนื่องจากค่าเปลี่ยนจอใหม่ไม่ใช่ถูก ๆ และเมื่อจอเป็นรอยแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ในตลาดนั้นก็มีฟิล์มกันรอยมากมายเหลือเกิน เลือกกันไม่ถูกจะให้จับ ๆ ลอง ๆ ดูเอาก็ไม่รู้ถึงคุณภาพ ในวันนี้ผมจึงอยากจะมารีวิวฟิล์มกันรอยของ USG ให้ทุกท่านได้ชมกัน ซึ่งมีหลากหลายรุ่นเหมาะกับลูกค้าทุกกลุ่มมากครับ
“USG Film Series” สามารถสั่งซื้อได้ที่ Mr.Caseman By Rajah Phoenix หรือดูสถานที่ซื้อได้ ที่นี่
ซึ่งราคาจะมีดังนี้ (ราคาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามโปรโมชั่น)
iPhone 4/4S
USG Film (Orange old version) 450.-
USG Lite Film (Orange new version) 280.-
USG Film (Pink) 540.-
USG Plus Film (Blue Full-Body) 980.-
USG Temper Glass Film 1,150.-
iPad
USG Film (Orange) 780.-
USG Film (Pink) 870.-
USG Plus Film (Blue Full-Body) 1,590.-
โดยในวันนี้เราจะมาทดสอบฟิล๋มทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ฟิล์มกันรอยรอบตัว iPhone 4/4S USG Plus Film (Blue Full-Body) และ ฟิล์มกันรอยหน้าจอ iPhone 4/4S USG Film (Pink) และ กระจกกันรอยหน้าจอ iPhone 4/4S USG Temper Glass Film
หลายคนอาจจะสงสัยว่าฟิล์มแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร? (บางคนก็ฟันธงเอาเองว่ามันก็เหมือน ๆ กัน) ทาง USG ก็ได้สรุปมาให้คร่าว ๆ กังนี้ครับ ของประสิทธิภาพฟิล์มแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกความหนาของฟิล์ม ความใส คุณสมบัติกันรอยนิ้วมือ กันแสงสะท้อน กันรุ้งสะท้อน ฯลฯ ตามตารางเลยครับ โดยส่วนที่เป็นเน้นสีแดงจะเป็นฟิล๋มที่ทางผมนำมารีวิวนั่นเอง
ขอเปิดที่ตัวแรกกันเลย ฟิล์มกันรอย iPad รุ่น USG Film (Orange) 780.-
โฆษณาของตัวนี้ที่คุยไว้ก็คือ All-in-1 Screen Protector ซึ่งน่าจะเป็นการรวมคุณสมบัติหลาย ๆ อย่างไว้ในหนึ่งเดียว
ฟีเจอร์ทั้ง 5 ประการของกันรอยตัวนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า Anti-Fingerprint (กันรอยนิ้วมือ) ได้ยังไงในเมื่อมันเป็นฟิล์มใสไม่ใช่ฟิล์มด้าน อันนี้ต้องติดตามกันครับ
โปรดระวังของลอกเลียนแบบ แนะนำให้สังเกตจากสติกเกอร์โฮโรแกรมครับ แบบนี้แท้แน่นอน
ย้ำกันเรื่องฟีเจอร์อีกครั้งที่ USG คุยว่าเหนือคู่แข่งมากมายยิ่งนัก
ด้านในเป็นฟิล์มแผ่นเดียวล้วน ๆ ครับ ใช้สำหรับกันรอยด้านหน้าครับ
นอกจากกันรอยแล้วยังแถมผ้าเช็ดหน้าจอแบบละเอียดอีกด้วย ส่วน Dust Remover ก็แถมมาเช่นกันครับ เอาไว้ดึงฝุ่นออกจากหน้าจอก่อนติดกันรอย
อันนี้เป็นฟิล์มใสราคาถูกจาก Focus ครับ (ขอพูดกันตามตรงเลยแล้วกัน ผมขออยู่ข้างผู้บริโภคครับ) ติดมาจากห้าง MBK ราคาประมาณ 190-290 บาท ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว ติดได้ไม่ถึงเดือนก็มีรอยบนหน้าจอซะแล้ว
ทดสอบติด USG Film (Orange) ลงไปซึ่งเนื้อฟิล๋มแตกต่างกันมากครับ มันไม่รู้สึกเหมือนจับแผ่นใสเวลาทำรายงาน ทั้ง ๆ ที่เป็นพลาสติกเหมือนกัน สัมผัสแล้วลื่นพอสมควรแต่ก็ยังมีความฝืดอยู่นิด ๆ ทำให้เข้าใจได้เลยว่า “ฟิล์มตัวนี้ก็เหนียวเหมือนกันนะ น่าจะยืดได้บ้างเล็กน้อย”
ภาพที่ได้ก็ดูสดใสดีครับ ไม่ค่อยดรอปจากหน้าจอเดิม ๆ มาก ตรงนี้คงวัดไม่ได้จริง ๆ ต้องสังเกตด้วยตัวเองและตั้งใจมอง แต่ที่แน่ ๆ คือรู้สึกว่าภาพใสกว่าฟิล์มตัวเก่าเยอะมาก
ขอเปิดตัวที่สองกันเลย ฟิล์มกันรอย iPhone 4/4S รุ่น USG Film (Pink) 540.-
สำหรับฟิล์มตัวนี้มาตรฐานการกันรอยความแข็งของฟิล์ม (Surface Hardness) อยู่ที่ 4H ความหนาของฟิล์มอยู่ที่ 0.125 มิลลิเมตร
โปรดระวังของลอกเลียนแบบ แนะนำให้สังเกตจากสติกเกอร์โฮโรแกรมครับ แบบนี้แท้แน่นอน
จุดเด่นของฟิล์มตัวนี้คือมีราคาถูก คุณภาพอยู่ระดับกลาง ๆ เรียกได้ว่ารุ่น “คุ้มค่า” ก็ว่าได้ เนื่องจากตัวนี้มีฟิล์มหน้าแถมมาให้ถึง 2 แผ่นด้วยกัน (จะเก็บไว้เป็นอะไหล่หรือหารกับเพื่อนซื้อก็ได้นะ)
ความสดใสของฟิล์มก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว การกันรอยหน้าจอไม่ถึงกับกันได้สนิท 100% เหมือนตอนติดฟิล์มด้าน แต่ก็รู้สึกว่ามันลดลงกว่าตอนใช้ฟิล์มจีนไร้นามครับ (อันนั้นมันเหมือนฟิล์มเพิ่มรอยนิ้วมือยังไงก็ไม่รู้ – -*)
ขอเปิดตัวที่สามกันเลย ฟิล์มกันรอยรอบตัว iPhone 4/4S รุ่น USG Plus Film (Blue Full-Body) 980.-
ตัวนี้มาแปลกกว่าตัวอื่น ๆ หน่อยครับ ตรงที่ว่ามันสามารถกันรอยได้รอบตัวเครื่อง ไม่จำกัดแค่เพียงด้านหน้าและด้านหลัง แต่ยังรวมถึงด้านข้าง ด้านบนด้านล่างและปุ่ม Home ด้วย
โปรดระวังของลอกเลียนแบบ แนะนำให้สังเกตจากสติกเกอร์โฮโรแกรมครับ แบบนี้แท้แน่นอน
สามารถใช้ได้กับทั้ง iPhone 4 และ iPhone 4S วัสดุเนื้อฟิล์มทำจากญี่ปุ่นและประกอบสำเร็จพร้อมบรรจุที่เกาหลี ถ้าจะติดตัวนี้ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะแต่ละส่วนใส่มาแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น (ไม่มีอะไหล่สำรอง)
ความหนาของฟิล์มอยู่ที่ 0.150 มิลลิเมตร แต่ตัวนี้ความหนาจะมากกว่ารุ่น USG Film (Pink) เล็กน้อย และมีความใสน้อยกว่าเล็กน้อยเช่นกัน แต่แลกกับความที่แข็งแรงกว่าและเหนียวกว่า
ฟิล์มด้านข้างจะค่อนข้างเหนียวกว่ามาก ๆ มีแรงยืดหยุ่นสูง (ลองดึงดูแล้ว) ซึ่งการติดตั้งขอบอกว่ายากมาก ๆ ขนาดพยายามแล้วยังมีฟองอากาศอยู่เลย (แต่ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ เพราะมันมองไม่ค่อยเห็น)
ทดสอบแสงและความใสของฟิล์มจะน้อยกว่ารุ่น USG Film (Pink) เล็กน้อย แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าแล้วสังเกตแทบไม่รู้เลย อย่าไปซีเรียสมากครับ ผมเพ่งตั้งนานกว่าจะเจอจุดต่าง
ขอเปิดตัวสุดท้ายกันเลย กระจกกันรอย iPhone 4/4S รุ่น USG Temper Glass Film 1,150.-
ตัวนี้เป็นตัว TOP และตัวที่ดีที่สุดของ USG ซึ่งยากที่จะหาแบรนด์ใดมาเลียนแบบได้ ด้วยวัสดุและสเปคขั้นเทพของมัน ผมขอยกให้เป็นที่หนึ่งในใจเลยตัวนี้ (ตอนนี้ก็ใช้อยู่)
สำหรับฟิล์มตัวนี้มาตรฐานการกันรอยความแข็งของฟิล์ม (Surface Hardness) อยู่ที่ 9H ความหนาของฟิล์มอยู่ที่ 0.55 มิลลิเมตร
โปรดระวังของลอกเลียนแบบ แนะนำให้สังเกตจากสติกเกอร์โฮโรแกรมครับ แบบนี้แท้แน่นอน
แกะกล่องภายในจะมีรหัส S/N ประจำสินค้าให้ด้วย สามารถใช้ยืนยันได้ที่เว็บไซต์ในการ์ดเลย สมกับราคาดีครับ
สำหรับตัวนี้นั้นจะไม่เป็นฟิล์มครับ น่าจะเรียกว่ากระจกมากกว่า เนื่องจากแข็งและหนากว่า (แต่ก็ใส่เคสได้นะ) สำหรับวิธีติดตั้งนั้นง่ายมาก ๆ เพียงแค่วางจากตรงกลาง ก็สามารถไล่ฟองอากาศได้เลย ติดแล้วเรียบสนิทง่ายกว่าแบบฟิล์มเสียอีก
มองความหนาจากด้านข้าง ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่เยอะจนใส่เคสไม่ได้ (หนาประมาณครึ่งมิลลิเมตรเอง)
ภาพที่ได้นั้นสุดยอดและสุดยอดไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหน้ากล่องถึงได้เน้นคำว่า “HD” ยิ่งนัก ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ แถมสัมผัสยังลื่นเหมือนกับกระจก iPhone จริง ๆ อีกด้วย
ลองกับอีกภาพหนึ่งครับ ดูสวยงามและสดใสจริง ๆ ครับ อยากให้ทุกคนได้ลองซักครั้ง ผมไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้เลย ความใสอยู่ที่ 99% เยอะกว่ารุ่นอื่น ๆ ในตลาดมาก (รวมถึงรุ่นของ USG ด้วยกัน)
ทดสอบกับความแข็งแรงไม่ว่าจะเอากุญแจขูดหรือว่าคัตเตอร์กรีดก็ไม่มีปัญหา ถ้าได้เคสแจ่ม ๆ หน่อยล่ะก็ ต่อให้โยนใส่กระเป๋าสุดรกของคุณผู้หญิงก็ไม่หวั่น
สรุป : เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความสนใจมากทีเดียวสำหรับเรื่องฟิล์มกันรอย อันนี้ก็แล้วแต่คนครับว่าอยากติดถูก ๆ แล้วเปลี่ยนบ่อย ๆ หรือว่าใช้ของมีคุณภาพแล้วติดยาว ๆ โดยหากชั่งน้ำหนักกันแล้วดูเหมือนแบบแรกจะคุ้มค่ามากกว่า แต่อย่าลืมว่ากันรอยที่ดีต้องไม่ใช่แค่กันรอย มันต้องไปคู่กับคุณภาพด้านอื่น ๆ ด้วย อย่างน้อย ๆ ก็กันแสงสะท้อน กันรอยนิ้วมือ (ได้บ้างซักนิด) สำหรับผมแล้วมือถือเครื่องละสองหมื่นจะหาฟิล์มดี ๆ มาใช้หน่อยก็คงจะไม่เสียหาย
ขอขอบคุณ : Mr.Caseman By Rajah Phoenix ที่เอิ้อเฟื้อฟิล์มคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถดูสถานที่ซื้อได้ ที่นี่