อุปกรณ์ USB ที่ว่ากันว่าเข้าใจง่ายแสนง่าย โดยสมัยก่อนจะมีเพียงแค่ USB ธรรมดา และ USB 2.0 เท่านั้น (ตามความเข้าใจของผู้ใช้งาน) ซึ่งพอร์ตและอุปกรณ์ทั้งหมดก็สามารถใช้ร่วมกันได้จนถึง USB 3.0 ในปัจจุบัน แน่นอนว่าหากมองเผินผู้ใช้งานก็คิดว่า “ต่างกันแค่ความเร็ว”
และเมื่อไม่กี่เดือนโลกก็ได้รู้จัก USB Type-C จากการเปิดตัว MacBook 12″ ของ Apple (ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้เป็นคนคิดค้นก็ตาม) และเนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก ทางหน่วยงานด้านมาตรฐาน USB-IF (USB Implementers Forum) จึงจำเป็นต้องออกมาให้ความรู้ในเรื่องนี้
หากว่ากันตามชื่อ USB 1.0 จะมีชื่อกำกับว่า Low Speed และ Full Speed, USB 2.0 จะใช้คำว่า High Speed, USB 3.0 จึงเป็นคำว่า SuperSpeed และ SuperSpeed+ ตามลำดับย่อยของเวอร์ชั่น ดังนั้นอย่าไปจำมันเลยดีกว่า ขอให้ยึดตามสัญลักษณ์ดังนี้
- USB : สัญลักษณ์เป็นเหมือนเดิมที่เราเคยรู้จักกัน
- USB SS : อันนี้ไม่ได้ย่อมาจาก “Samsung Galaxy” แต่อย่างใดแต่หมายถึง SuperSpeed ที่เป็น USB 3.0 และส่งความเร็วได้สูงสุด 5Gbps
- USB SS 10 : หรือก็คือ USB Superspeed+ ใช้หมายเลข 10 แทนความหมายว่าสามารถส่งความเร็วได้สูงสุด 10Gbps หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการก็คือ USB 3.1 Gen 1
- USB Battery : เป็นการระบุเพิ่มเติมว่าสามารถใช้ฟีเจอร์ USB Power Delivery ส่วนความเร็วนั้นก็ขึ้นอยู่กับสัญลักษณ์ “SS” หรือ “SS 10” ดั้งเช่นด้านบน
- USB DisplayPort : หมายความว่าสามารถใช้ในการส่งสัญญาณภาพ DisplayPort ได้ด้วย หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการก็คือ USB 3.1 Gen 2
หากว่ากันตามความเร็วจะเป็นดังต่อไปนี้
- Low-Speed ความเร็วสูงสุด 1.5Mbps USB 1.x
- Full-Speed ความเร็วสูงสุด 12Mbps USB 1.x
- Hi-Speed ความเร็วสูงสุด 480Mbps USB 2.0
- Superspeed ความเร็วสูงสุด 5Gbps USB 3.1
- Superspeed+ ความเร็วสูงสุด 10Gbps USB 3.1
ทั้งนี้ทาง USB-IF ไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ผู้ผลิตติดสัญลักษณ์ดังกล่าวลงไปในอุปกรณ์ (โดยเฉพาะอุปกรณ์ OEM หรือขนาดเล็ก) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจเช่นเดียวกับ HDMI ในเวอร์ชั่นต่าง ๆ