สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ iPhone XR หรือขยับไปเล่น iPhone XS ที่ราคาสูงกว่าประมาณ 10,000 บาท วันนี้ทีมงานมี 10 จุดแตกต่างหลักๆ ของ iPhone XR ที่ไม่มีใน iPhone XS มาแนะนำให้ชมกันก่อน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจค่ะ
10 จุดแตกต่างหลักๆ ของ iPhone XR ที่ไม่มีใน iPhone XS
1. ใช้หน้าจอ LCD
iPhone XR ใช้จอ LCD ที่เรียกว่า Liquid Retina ที่มีการเปล่งแสงสีขาวและควบคุมการแสดงสีด้วย Backlight ซึ่งต่างจากหน้าจอ OLED เป็น Backlight สามารถเปล่งแสงและสีได้ด้วยตนเองและควบคุมความสว่างได้ ข้อได้เปรียบคือความชัด สีสด และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่า
แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone 5S, 5SE, 6, 6S หรือ 7 มาก่อน ก็จะไม่เห็นความแตกต่างจากหน้าจอรุ่นเดิมมากเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่เคยใช้ iPhone X ที่มีหน้าจอ OLED ก็อาจจะเห็นความแตกต่างได้ชัดมากกว่า
ถึงแม้ว่า iPhone XR จะใช้หน้าจอ LCD แต่ก็มีคุณสมบัติที่รองรับ Tap to wake (แตะเพื่อปลุก) ที่มีใน OLED และรองรับท่าทางการปัดหน้าจอเหมือน iPhone XS
2. ความละเอียดของหน้าจอ
หน้าจอแสดงผลของ iPhone XR ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซลที่ 326 ppi บนหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งน้อยกว่า iPhone XS ที่มีความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi บนหน้าจอ 5.8 นิ้ว มีความหนาแน่นในการแสดงผลและให้ความคมชัดมากกว่า
ถึงแม้ว่า iPhone XR จะมีความละเอียดน้อยกว่า แต่จอ Liquid Retina HD ของ iPhone XR มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูง
3. ไม่มี 3D Touch
ระบบ 3D Touch มีประโยชน์มากในการเข้าถึงเมนูบน iPhone ซึ่งมีมาตั้งแต่ iPhone 6S แต่ใน iPhone XR ไม่มีฟีเจอร์ 3D Touch แต่จะมีระบบ Haptic Touch ที่สามารถใช้งานบน Control Center ได้คล้ายๆ กับ 3D Touch ที่แตะค้างบนไอคอนไฟฉาย การเชื่อมต่อ ความสว่างหน้าจอ และเมนูอื่นๆ ก็จะมีการตอบสนองการสั่นและเปิดเมนูเหล่านั้นขึ้นมา ให้อารมณ์คล้ายๆ กับ 3D Touch เพียงแต่กดไอคอนแอปพลิเคชันไม่ได้เท่านั้นเอง
4. ความหนาของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องของ iPhone XR มีความหนา 8.3 มม. ส่วน iPhone XS และ iPhone XS Max มีความหนา 7.7 มม. ซึ่ง iPhone XR มีความหนากว่า iPhone XS ประมาณ 0.6 มม.
จากภาพเรียงจากบนลงล่าง iPhone XS > iPhone XR > iPhone XS Max
5. ขอบหน้าจอหนากว่า
เรื่องของขอบหน้าจอก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนพูดถึง ถึงแม้ว่า iPhone XR และ iPhone XS จะเป็นหน้าจอเต็มขอบและไร้ปุ่มโฮมเหมือนกัน แต่จุดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือขอบหน้าจอของ iPhone XR ใหญ่กว่า iPhone XS ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่ขัดตาหลายๆ คน แต่ถ้าได้ลองใช้งานจริงๆ แล้ว จุดเด่นที่หน้าจอใหญ่จะทำให้คุณลืมขอบไปเลย
iPhone XR อยู่ตรงกลาง
6. มีกล้องหลังตัวเดียว
iPhone XR มาพร้อมกับกล้อง 1 ตัวที่เป็นเลนส์ Wide ที่เป็นการซูมแบบดิจิตอล ไม่สามารถซูม 2 เท่าได้ เหมือนกับเลนส์ Tele ที่เป็นกล้อง 2 ที่อยู่ใน iPhone XS
คุณสมบัติการถ่ายภาพโหมดบุคคล (Portriat Mode) หรือหน้าชัดหลังเบลอด จะถ่ายได้แค่บุคคลจริงๆ เท่านั้น ไม่สามารถถ่ายวัตถุได้เหมือนกับ iPhone XS แต่ก็สามารถถ่ายคนแบบหน้าชัดหลังเบลอได้สวยงามเลยทีเดียว และยังสามารถปรับค่า f ด้วยฟีเจอร์ Dept Control ได้อีกด้วย
ส่วนกล้องหน้า iPhone XS และ iPhone XR ใช้กล้อง TrueDepth ที่สามารถถ่ายภาพบุคคลได้เหมือนกัน
7. วัสดุกระจกด้านหลัง
วัสดุกระจกด้านและด้านหน้าของ iPhone XS เป็นวัสดุกระจกที่ทนทานพิเศษ ซึ่งวัสดุกระจกด้านหน้าของ iPhone XR ก็มีความทนทานพิเศษเช่นเดียวกัน แต่กระจกด้านหลังของ iPhone XR เป็นวัสดุกระจกที่ให้ความทนทานเท่ากับกระจกที่อยู่ด้านหลังของ iPhone 8 ซึ่งความทนทานจะน้อยกว่าวัสดุกระจกด้านหลังของ iPhone XS
8. ใช้ขอบอะลูมีเนียม
ขอบด้านข้างที่ห่อหุ้มตัวเครื่อง iPhone XR เป็นวัสดุอะลูมิเนียมที่อาจจะทำให้ลื่นง่ายกว่าขอบสแตนเลสของ iPhone XS (ถ้าไม่ได้ใส่เคส) และในเรื่องความสวยงามแน่นอนว่าขอบสแตนเลสของ iPhone XS มีความสวยงามหรูหรามากกว่า แต่สำหรับคนที่ชอบสีสันของ iPhone XR ขอบอะลูมิเนียมก็ทำสีออกมาให้เหมาะกับตัวเครื่องด้านหลังได้สวยงามเลยทีเดียว
9. ยังไม่มีเคสจาก Apple ขาย
Apple ได้เปิดขายเคสสำหรับ iPhone XS และ iPhone XS Max เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของเคสสำหรับ iPhone XR ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Apple จะเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR เพื่อความสวยงามในการโชว์สีสันของตัวเครื่องที่มีหลากสี (แต่เคส iPhone XR จากผู้จำหน่ายอื่นๆ ก็เริ่มวางขายแล้ว)
10. การกันน้ำ IP67
iPhone XR มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP67 ที่สามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาทีเท่ากับ iPhone X ส่วน iPhone XS และ iPhone XS Max มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP68 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 2 เมตรเป็นเวลา 30 นาที
ชมวิดีโอ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแตกต่างของ iPhone XR ที่ไม่มีใน iPhone XS ซึ่งแน่นอนว่าบางข้อก็อาจจะไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้งานมากสักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามราคาของ iPhone XS ก็แพงกว่า iPhone XR ประมาณ 10,000 บาท ดังนั้นการเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนและขึ้นอยู่การใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีมาให้พร้อมกับเครื่อง แนะนำว่าพิจารณาตามความเหมาะสมในการใช้งานจริงนะคะ
ขอบคุณ 9to5mac