Zakura Kim
สำหรับใครที่มี Apple Watch แต่ไม่ค่อยได้ใช้งานฟีเจอร์ด้านสุขภาพเลย เรามาเตือนความจำกันหน่อยว่า 10 ฟีเจอร์บน Apple Watch ไหนบ้างที่จะช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้บ้าง
10 ฟีเจอร์ที่ Apple Watch จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
1. ออกกำลังกาย พร้อมปิดวงแหวนกิจกรรม
เริ่มต้นออกกำลังกายด้วยแอปออกกำลังกาย (Workout) ที่มีประเภทการออกกำลังกายให้เลือกมากมาย Apple Watch จะช่วยติดตามข้อมูลกำลังกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ พลังงานที่ร่างกายเผาผลาญ ถ้าหากเป็นการวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ก็จะมีการติดตามระยะทางรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้ออื่น ๆ ด้วย
ข้อมูลสุขภาพของเราก็จะถูกบันทึกในแอปสุขภาพ (Health) และข้อมูลการออกกำลังกายก็จะถูกบันทึกในแอปกิจกรรม (Activity) ที่ให้เราได้เห็นข้อมูลในแต่ละวัน เพื่อนำไปปรับปรุงการออกกำลังกายให้ดีขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ระยะเวลาการออกกำลังกายและพลังงานการเคลื่อนไหว ยังถูกบันทึกในวงแหวนกิจกรรมอัตโนมัติด้วย ถ้าหากเราทำบรรลุเป้าหมาย วงแหวนการออกกำลังกายและวงแหวนการเคลื่อนไหวก็จะถูกปิด อย่าลืมปิดวงแหวนการยืนด้วยนะ
2. วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ
ฟีเจอร์ ECG นั้นมาพร้อมกับ Apple Watch Series 4 ที่ช่วยให้เราสามารถทดสอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ด้วยการวางนิ้วที่ปุ่ม Digital Crown และให้แอป ECG วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่ติดตั้งมาในเครื่อง [ชมวิธี]
ซึ่งเซ็นเซอร์นี้ยังสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ (Irregular Heart Rate Notification) ด้วย เมื่อผู้ใช้เปิดการแจ้งเตือนนี้ Apple Watch จะคอยตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ หากพบว่าหัวใจเต้นผิดปกติหรือมีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว Apple Watch ก็จะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบ เพื่อพบแพทย์ทันที
ฟีเจอร์นี้ได้รับการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมถึงผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อนหลายคนแล้ว สามารถใช้งานได้บน Apple Watch Series 4, Series 5, Series 6 และ Series 7
3. วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) ปกติดีหรือไม่?
การวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) สามารถใช้งานได้บน Apple Watch Series 6 และ Series 7 ที่มีเซ็นเซอร์สำหรับการวัดติดเครื่องมา โดยวัดผ่านแอป Blood Oxygen ขณะวัดจะมีไฟ LED สีแดงและอินฟราเรดที่ส่องแสงไปยังเส้นเลือดบนข้อมือ และใช้โฟโตไดโอดวัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมา
คนที่มีสุขภาพดีปกตินั้นจะมีค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 95% – 100% ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปอดหรือปอดอักเสบจากโคดวิด 19 อาจจะมีเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยที่ต่ำกว่าปกติ การวัดและติดตามค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) อยู่เสมอ ก็จะช่วยให้เราติดตามปัญหาหรือความผิดปกติของสุขภาพได้
4. ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
Apple Watch ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจของเราอยู่เสมอขณะสวมใส่และสามารถแจ้งเตือนหัวใจเต้นช้าหรือหัวใจเต้นเร็วเมื่อพบความผิดปกติได้ [ชมวิธีตั้งค่าเปิดใช้งาน] มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพหัวใจ
ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้บน Apple Watch Series 3 และใหม่กว่า เคยช่วยเหลือชีวิตผู้ใช้หลายคนที่มีปัญหาสุขภาพหัวใจ รวมถึงผู้ที่ไม่เคยรู้ตัวว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจด้วย
5. ล้างมือให้ครบ 20 วินาที ป้องกันโรคได้
ในยุคของโรคระบาด COVID-19 ทาง Apple ก็ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรักษาสุขอนามัยด้วยเช่นกัน จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ตรวจจับการล้างมือขึ้นมาบน Apple Watch เพื่อให้ผู้ใช้ล้างมือได้อย่างถูกวิธีและสะอาด [ชมวิธี]
Apple Watch จะตรวจจับการล้างมือจากการเคลื่อนไหวบนข้อมือและฟังเสียงน้ำไหลหรือฟองสบู่ และแจ้งเตือนให้เราล้างมือเป็นเวลา 20 วินาที เนื่องจากจะช่วยทำลสายเชื้อโรคบางอย่างหรือทำให้เชื้อโรคนั้นไม่เป็นอันตราย เช่น ไวรัส COVID-19 มีชั้นไขมันบาง ๆ ที่ปกป้องอนุภาพของเชื้อแต่ละตัวอยู่ การถูมือด้วยฟองสบู่เป็นเวลานาน 20 วินาทีขึ้น จะช่วยละลายชั้นไขมันและทำลายเชื้อไวรัสได้
นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าให้ Apple Watch แจ้งเตือนให้ล้างมือเมื่อเรากับมาถึงบ้านได้อีกด้วย
6. ติดตามการนอนหลับ พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ
ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับมาพร้อมกับ watchOS 7 ให้ผู้ใช้สวมใส่ Apple Watch นอน เครื่องจะติดตามการนอนของเราว่านอนไปกี่ชั่วโมง ซึ่งฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับการตั้งเวลาเข้านอนและปลุกให้ตื่นนอนตอนเช้าแบบไม่รบกวนผู้ใช้จนเกินไป
นอกจากนี้ก่อนเข้านอนเรายังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนเพื่อเตรียมความพร้อมหรือผ่อนคลายก่อนเข้านอนได้ เมื่อตื่นนอนแล้ว เราก็สามารถดูรายงานการนอนหลับว่าคุณภาพการนอนของเราดีแค่ไหน
7. แจ้งเตือนเสียงดังและเสียงรบกวน
หลายคนอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องมลภาวะทางเสียงกันมากเท่าไหร่ แต่การที่เราได้รับเสียงดังเป็นเวลานานก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพการได้ยินของเราเช่นกัน
Apple Watch มีฟีเจอร์การตรวจจับเสียงรบกวน ที่สามารถตรวจจับเสียงรอบข้างของเราและแจ้งเตือนได้หากเสียงนั้นดังเป็นเวลานาน (ตามที่เราเลือกตั้งค่าเดซิเบลไว้ [ชมวิธีตั้งค่า]) เพื่อให้เราย้ายหรือหลีกเลี่ยมตนเองจากเสียงที่รบกวนและมีผลกระทบต่อการได้ยิน
8. ฝึกทำสมาธิ จิตสงบขึ้น
การใช้ชีวิตที่วุ่นวายหรือทำงานมาตลอดทั้งวันทั้งสัปดาห์อาจจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า แต่เราสามารถทำให้จิตในของเราสงบนิ่งและมีสมาธิมากขึ้น ด้วยการฝึกสมาธิและการหายใจช้า ๆ ด้วยแอปทำสมาธิบน Apple Watch
เราสามารถเลือกได้ว่าจะสะท้อนความคิดด้วยการโฟกัสความสนใจไปที่ตนเองหรือฝึกหายใจลึก ๆ วันละ 1 นาที โดยไร้การรบกวนจากสิ่งรอบข้าง เพื่อรักษาตนเองให้สงบ มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ลดการตื่นตระหนกได้ [หายใจเพื่อสุขภาพที่ดี]
9. ติดตามรอบประจำเดือน สำหรับผู้หญิง
เรื่องประจำเดือนถือว่าสำคัญต่อสุขภาพสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก หากเราติดตามประจำเดือนอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยติดตามช่วงวันไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ [ชมการใช้งาน]
นอกจากนี้ยังช่วยสังเกตความผิดปกติของประจำเดือน จากอาการหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างมีรอบเดือนหรือไม่มีรอบเดือน และยังช่วยให้ผู้ใช้เตรียมพร้อมสำหรับรอบเดือนถัดไปด้วย
10. ตรวจจับการล้มรุนแรง
เราไม่มีทางทราบได้ว่าอุบัติเหตุจะขึ้นเมื่อไหร่ แต่จะดีกว่าหากอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว เราได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที Apple Watch ก็เป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ได้ [ชมวิธีตั้งค่า]
เมื่อพบว่าเราล้มรุนแรง แลไม่มีการตอบสนอง เครื่องก็จะโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยทันที และส่งข้อความไปยังคนในรายชื่อติดต่อฉุกเฉิน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่ยกมาแนะนำให้ผู้ใช้ Apple Watch ได้ใช้งานกัน เพื่อหันมาดูแลสุขภาพของตนเอง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่มีประโยชน์ก็ลองไปใช้งานกันดูนะคะ
ที่มา iDropNews
