สำหรับผู้ใช้ iPhone ที่พบปัญหาเครื่องรีสตาร์ตเองบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทีมงานมี 11 ขั้นตอนแก้ไขปัญหานี้มาแนะนำให้ชมกันค่ะ ลองทำตามทีละขั้นตอนนะคะ
สาเหตุที่อาจทำให้ iPhone รีสตาร์ตเครื่องเอง
ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนว่า สาเหตุที่เป็นไปได้ที่ทำให้ iPhone รีสตาร์ตเครื่องเองมีอะไรบ้าง
- ไม่ได้ปิดเครื่องมาเป็นเวลานาน ไม่เคยรีสตาร์ตเครื่องด้วยตนเองเลย
- อาจจะมีการดาวน์โหลดแอปที่ส่งผลต่อการบังคับรีสตาร์ตเครื่อง
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเหลือน้อยมาก ๆ
- บางแอปที่เราใช้งานอยู่ อาจจะใช้ทรัพยากรเครื่องบน iPhone มากเกินไป โดยเฉพาะ iPhone รุ่นเก่า ๆ ที่ไม่รองรับแอปเวอร์ชันใหม่
- บางแอปที่ติดตั้ง อาจจะทำงานพร้อมกันมากเกินไป ทำให้ iOS ไม่สามารถจัดการ RAM ได้
- iOS มีข้อบกพร่องหรือมีปัญหาที่ทำให้เครื่องรีสตาร์ตเอง
- แบตเตอรี่เก่าเกินไป อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่
- iPhone อาจจะได้รับความเสียหายภายใน เนื่องจากผู้ใช้ทำเครื่องตกหรือโดนกระแทก
- หลังจากที่พอจะทราบสาเหตุกันแล้ว เรามาชมวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกัน
11 ขั้นตอนแก้ไขปัญหา iPhone รีสตาร์ตเครื่องเอง โดยไม่ทราบสาเหตุ
1. ชาร์จ iPhone 30 นาที
หากแบตเตอรี่ iPhone เก่าแล้ว หรือแบตมีข้อบกพร่องเกิดขึ้น เครื่องอาจจะปิดเอง เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย เช่น 5%, 10% แล้วเครื่องก็จะรีสตาร์ตเองอัตโนมัติ แนะนำว่าให้ชาร์จ iPhone เป็นเวลาประมาณ 30 นาที แล้วดูว่าเครื่องยังรีสตาร์ตเองอยู่หรือไม่
2. เช็คดูว่า iPhone ร้อนหรือไม่
ถ้าหาก iPhone ของเราร้อนเกินไป ระบบอาจจะบล๊อคไม่ให้อุปกรณ์ โดยหยุดทำงานหรือรีสตาร์ตเองหลย ๆ รอบ เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ โดยปล่อยให้ iPhone เย็นลง หยุดเล่น หลีกเลี่ยงการนำไปวางในที่ร้อน และถ้าหากสวมใส่เคสอยู่ แนะนำให้ถอดเคสออกด้วย
3. ออกจากแอปทั้งหมด และเปิดไม่กี่แอป
บางครั้ง iPhone อาจจะจัดการบางแอปได้ไม่ดีมากนัก จึงทำให้เกิดการรีสตาร์ตเครื่องเองหลายครั้ง แนะนำว่าให้เราบันทึกข้อมูลจากงานที่กำลังทำอยู่ภายในแอปทั้งหมด จากนั้นก็ออกจากแอป (Quit App) โดยปัดขอบด้านล่างขึ้น แล้วปัดแอปขึ้นไปด้านบนเพื่อออกจากแอป
หลังจากที่ออกจากแอปทั้งหมดแล้ว แนะนำให้เราเปิดแอปที่จำเป็นจะต้องใช้งานเท่านั้น ไม่ต้องเปิดแอปทิ้งไว้เยอะจนเกินไป
4. บังคับรีสตาร์ต iPhone
อีกหนึ่งวิธีที่อาจจะแก้ไขปัญหาเครื่องรีสตาร์ตตนเองอัตโนมัติก็คือ การบังคับรีสตาร์ต iPhone (Force Restart) โดยแต่ละรุ่นมีวิธีการบังคับรีสตาร์ตแตกต่างกันดังนี้
- การบังคับการรีสตาร์ท สำหรับ iPhone รุ่น Face ID (iPhone X, iPhone XS, iPhone XR, iPhone 11, iPhone 12, iPhone 13 หรือ iPhone 14) กดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้ง จากนั้นกดปุ่มลดเสียงแล้ว 1 ครั้ง จากนั้นให้กดค้างไว้ที่ปุ่มด้านข้าง จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาแล้วค่อยปล่อย
- การบังคับรีสตาร์ท สำหรับ iPhone 8 หรือ iPhone SE (รุ่นที่ 2)กดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้ง จากนั้นกดปุ่มลดเสียงแล้ว 1 ครั้ง จากนั้นให้กดค้างไว้ที่ปุ่มด้านข้าง จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาแล้วค่อยปล่อย
- การบังคับรีสตาร์ท สำหรับ iPhone 7 กดทั้งปุ่มลดเสียงและปุ่มพัก/ปลุก ค้างไว้พร้อมกัน จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาแล้วค่อยปล่อยทั้งสองปุ่ม
- การบังคับรีสตาร์ท สำหรับ iPhone 6s หรือ iPhone SE (รุ่นที่ 1) กดทั้งปุ่มพัก/ปลุก และปุ่มโฮมค้างไว้พร้อมกัน จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาแล้วให้ปล่อยทั้งสองปุ่ม
5. อัปเดตซอฟต์แวร์ iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
ถ้าหาก iPhone รีสตาร์ตเองอยู่เรื่อย ๆ แนะนำว่าให้เช็คและอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากบางครั้งข้อผิดพลาดที่ทำให้ iPhone รีสตาร์ตเครื่องเองอาจมีสาเหตุมาจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์
6. อัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
บางครั้ง เราอาจจะใช้งาน iPhone ปกติดี แต่เมื่อเปิดแอปใดแอปหนึ่งขึ้นมา หรือใช้งานแอปเหล่านั้นไปสักระยะ เครื่องเกิดค้างและรีสตาร์ตเอง ก็เป็นไปได้ว่าปัญหาอาจจะมาจากข้อผิดพลาดของแอป ดังนั้นแนะนำว่าให้เราอัปเดตแอปทั้งหมดที่ติดตั้งบน iPhone ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
เนื่องจากแอปเวอร์ชันใหม่ ๆ ก็จะมาพร้อมกับการแก้ไขข้อผิดพลาด รวมถึงการอัปเดตแอปให้สอดคล้องกับการทำงานร่วมกับ iOS เวอร์ชันใหม่ ๆ
7. จัดการพื้นที่ในเครื่องให้มีเยอะขึ้น
บางครั้งการรีสตาร์ตเครื่องเอง อาจจะมาจากพื้นที่ในเครื่องเหลือน้อยเกินไป แนะนำว่าให้เราจัดการเครื่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับ iPhone เช่น การลบแอป ลบวิดีโอ ลบรูปภาพ เพลงที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วออก รวมถึงลบเอกสารหรือไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออก
8. ถอดซิมและใส่เข้าไปใหม่
ถ้าหากเราลองทำตามวิธีด้านบนมาทั้งหมดแล้ว แต่ iPhone ของเรายังไม่หยุดรีสตาร์ตเครื่องเอง ให้ลองถอดซิมออกจาก iPhone และรอประมาณ 30 วินาที แนะนำให้เช็ดซิมการ์ตอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็นำซิมใส่กลับเข้าไปใหม่ สังเกตดูว่าเครื่องหยุดรีสตาร์ตหรือไม่
9. สังเกตดูว่า iPhone รีสตาร์ตตอนชาร์จหรือไม่
แนะนำให้สังเกตดูว่า iPhone ของเรารีสตาร์ตเครื่องเองอัตโนมัติ เมื่อเราเสียบสายชาร์จหรือไม่ เช่น เสียบชาร์จกับอะแดปเตอร์ เสียบชาร์จกับแบตสำรอง ถ้าหากเครื่องรีสตาร์ตระหว่างที่เสียบสายชาร์จ เป็นไปได้ว่าสายชาร์จ อะแดปเตอร์ หรือแบตเตอรี่สำรองอาจจะเสียหรือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก Apple
แนะนำให้เราลองเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จแท้ อะแดปเตอร์แท้ ของ Apple หรืออุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองจาก Apple ที่มีเครื่องหมาย Made for iPhone/iPad
10. รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด
บางครั้งการใช้ iPhone ไปนาน ๆ และมีการปรับการตั้งค่าหลาย ๆ อย่าง อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือข้อขัดแย้งในระบบได้ แนะนำว่าให้ลองรีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Settings) เพื่อคืนค่าการตั้งค่าให้เป็นแบบโรงงานใหม่ วิธีนี้ข้อมูลไม่หายนะคะ แต่เราอาจจะต้องตั้งค่าบางอย่างใหม่ อย่างเช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi, การเชื่อมต่อบลูทูธ เป็นต้น
11. เช็คสุขภาพของแบตเตอรี่
แนะนำให้เราลองเช็คสุขภาพของแบตเตอรี่ด้วยว่า % ของสุขภาพแบตเตอรี่ต่ำเกินไปหรือไม่ ปกติแล้วถ้าหากต่ำกว่า 80% จะถือว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ดังนั้นควรเช็คสุขภาพของแบตเตอรี่ด้วย เพราะอาจจะเป็นสาเหตุที่ให้เครื่องรีสตาร์ตเครื่องเอง [เช็คราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่]
ถ้าหากลองทำตามทุกขั้นตอนแล้ว แต่อาการเครื่องรีสตาร์ตเองยังไม่หาย แนะนำให้ลองติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple (Apple Support) เนื่องจากบางครั้งปัญหาอาจจะเกิดจากฮาร์ดแวร์
ที่มา idownloadblog