Zakura Kim
มีแอปฟรีมากมายสำหรับ Mac ที่ช่วยให้เราทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ทีมงานก็มีแอปฟรีที่น่าสนใจ มาแนะนำให้ชมกันค่ะ เผื่อว่าผู้ใช้ Mac จะลองนำไปใช้งาน เสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น มีทั้งแอปของ Apple เองและแอปจากนักพัฒนาอื่น ๆ
แนะนำ 12 แอปฟรี เพิ่มการทำงานบน Mac ให้มีประสิทธิภาพ
1. Xcode
Xcode เป็นเครื่องมือพัฒนาแอปสำหรับ iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV ฟรี ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนามืออาชีพหรือนักพัฒนาที่เพิ่งเริ่มต้นเขียนโค้ด ก็สามาถใช้งาน Xcode พัฒนาแอปที่ต้องการได้ สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ ก็สามารถเรียนรู้การเขียนโค้ดด้วยบทเรียนช่วยสอนได้ ถึงแม้ว่าจะยากในช่วงแรก แต่ถ้าหากได้เรียนรู้มากขึ้น เราก็จะสามารถพัฒนาแอปให้ใช้งานบนอุปกรณ์ Apple ได้ [ดาวน์โหลดแอป XCode]
2. Keynote
แอปสร้างพรีเซนต์เทชันที่ยอดเยี่ยมของ Apple โดยพื้นฐานการใช้งานจะคล้าย ๆ กับ PowerPoint ของ Microsoft ที่ให้ผู้ใช้สร้างสไลด์ เพิ่มรูปภาพ กราฟ ทำงานนำเสนอได้แบบมือโปร นอกจากนี้ใน Keynote ยังมีเทมเพลตสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานนำเสนอ แบนเนอร์ โฆษณา ก็สามารถสร้างได้ใน Keynote [ดาวน์โหลดแอป Keynote]
3. Toggl Track
oggl Tracker เป็นแอปติดตามเวลา เพื่อติดตามงานหรือสิ่งที่เราต้องทำ สามารถตั้งให้แอปจับเวลากับสิ่งที่เราทำได้ เพื่อดูว่าเราใช้เวลาไปกับการทำงาน การพัก การผ่อนคลาย ไปเท่าไหร่ แล้วก็นำข้อมูลมาพิจารณาว่าเราจะต้องแบ่งเวลาอย่างไร เพื่อให้การใช้เวลาในแต่ละวันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นแอปที่ช่วยจัดการเวลาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว [ดาวน์โหลดแอป Toggl Track]
หากใช้งานทั่วไปก็สามารถดาวน์โหลดใช้งานฟรี แต่ถ้าหากต้องการใช้ฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ก็ต้องอัปเกรดเป็นสมาชิกที่มีค่าใช้จ่าย
4. Trello
Trello แอปจัดการงานที่สามารถใช้งานแบบส่วนบุคคลหรือใช้งานร่วมกับทีมงานก็ได้ ถือว่าเป็นแอปจัดการโปรเจ็คก์ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย รูปแบบของ Trello นั้นจะเป็นการบอร์ดงาน ผู้ใช้จะต้องสร้างลิสต์เพื่อแบ่งขั้นตอนหรือ Process ไว้ จากนั้นก็สร้างการ์ดงานขึ้นมา แล้วย้ายการ์ดไปยังขั้นตอนต่าง ๆ เพื่ออัปเดตว่างานอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว สามารถติดตามงานของทีมได้ง่าย ๆ ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา [ดาวน์โหลดแอป Trello]
5. Mail
แอป Mail เป็นแอปติดเครื่องบน Mac ที่ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ รับ ส่ง อีเมลของบัญชีทั้งหมดที่เราใช้งาน และใน macOS 13 Ventura ก็ได้มีการปรับปรุงแอป Mail ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาภายในแอปเมล ยกเลิกการส่ง กำหนดเวลาส่งอีเมลล่วงหน้า ติดตามอีเมล เป็นต้น
และถ้าเราใช้งาน Mac ร่วมกับอุปกรณ์อื่นของ Apple อย่าง iPhone, iPad เราก็สามารถทำงานแบบ Ecosystem สามารถทำงานได้ทุกอุปกรณ์อย่างลื่นไหล เช่น เรากำลังเขียนอีเมลบน iPhone แล้วก็สามารถมาทำต่อบน Mac ภายหลังได้
6. Google Sheets
Google Sheets เป็นแอปจัดการเอกสารชีตออนไลน์ของ Google ที่หลายคนที่คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะใช้ Google Sheets แทน Microsoft Excel เนื่องจากเข้าถึงงง่ายและทำงานออนไลน์ได้สะดวก เพียงแค่มีบัญชี Google ก็สามารถใช้งาน Google Sheets ได้บนเว็บไซต์ สามารถสร้าง เข้าถึง แก้ไข และแชร์ไฟล์ชีตได้ และยังบันทึกงานเป็น PDF หรือเอกสาร Excel เพื่อนำไปใช้งานต่อได้อีกด้วย [ใช้งาน Google Sheet]
7. Skitch
Skitch เป็นเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพพื้นฐาน ที่เน้นใช้งานง่ายและรวดเร็ว เช่น การเพิ่มข้อความ รูปภาพ การครอปตัดรูป เป็นต้น แต่สำหรับนักกราฟิกมืออาชีพอาจจะมองดูว่าแอปนี้มือเครื่องมือไม่เยอะมาก แต่สำหรับการปรับแต่งรูปภาพขั้นพื้นฐาน Skitch ถือว่าตอบโจทย์และเพียงพอต่อการใช้งาน [ดาวน์โหลด Skitch]
8. GIMP
GIMP เป็นแอปปรับแต่งรูปภาพคล้าย ๆ กับ Photoshop ใช้งานฟรี มีเครื่องมือปรับแต่งรูปภาพให้เลือกใช้งานมากกว่าแอป Skitch รองรับการปรับแต่งรูปภาพแบบเลเยอร์ มีบรัชให้เลือกตกแต่งภาพ และเครื่องมือระดับมืออาชีพอื่น ๆ อีกมากมาย [ดาวน์โหลด GIMP]
แอปนี้เป็นแอป Open source สร้างขึ้นจากนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ชื่นชอบการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยไม่แสวงหาผลกำไร แต่ผู้ใช้สามารถบริจาคแทนคำขอบคุณได้ นอกจากนี้ยังมีบทเรียนช่วยสอนมากมายที่จะช่วยให้เราใช้งานแอป GIMP ได้คล่องขึ้น
9. iMovies
เราคงจะคุ้นเคยแอป iMovies กันอยู่แล้ว เป็นแอปตัดต่อวิดีโอของ Apple ใช้งานได้ฟรีบนอุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะเป็น Mac, iPhone และ iPad โดย iMovies นั้นเน้นเครื่องมือการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน มีฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งวิดีโอให้ดูมืออาชีพมากขึ้น เช่น การใส่ข้อความ การปรับสีวิดีโอ การตัดเสียง การใส่เอฟเฟกต์ เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะตัดต่อได้ไม่เท่ากับ Final Cut Pro แต่ก็สามารถสร้างผลงานวิดีโอออกมาให้สวยงามได้ [ดาวน์โหลด iMovies]
10. Google Docs
Google Docs ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับจัดการเอกสารออนไลน์ที่ดี ผู้ใช้สามารถพิมพ์งาน จัดการเอกสารได้ทุกที่ทุกเวลา ทำงานคล้ายกับ Pages และ Microsoft Word ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ผ่านบัญชี Google และสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้หลายรูปแบบ เช่น PDF, Word เพื่อส่งต่องานให้กับผู้อื่นไปทำต่อได้ [ใช้งาน Google Docs]
11. Pages
หากเราเป็นผู้ใช้ Mac และถนัดกับเครื่องมือบน Mac แอป Pages ที่เป็นแอปจัดการเอกสารของ Apple ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ดีเลยทีเดียว เครื่องมือจัดการเอกสารก็จะคล้าย ๆ กับ Microsoft Word และ Google Doc จัดการเอกสารได้งาน ใช้งานฟรี มีเทมเพลตสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน และส่งออกไฟล์เป็น PDF, Word ได้ด้วยเช่นกัน [ดาวน์โหลดแอป Pages]
12. Freeform
Freeform มาพร้อมกับ macOS 13 Ventura เป็นแอป “บอร์ดใหญ่” ที่สามารถเพิ่มวางเนื้อหา ภาพ วิดีโอ เสียง PDF ลิงก์เว็บไว้ในหน้าเดียว ให้ผู้ใช้การวางไอเดีย ร่าง Project จบในหน้าเดียว โดยสามารถทำงานร่วมกับผู้ใช้คนอื่น ๆ แบบ Real-Time ในหน้าเดียวได้ด้วย เหมาะสำหรับการทำงานเป็นทีมที่ Brainstorm ร่วมกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแอปฟรีแนะนำสำหรับ Mac ที่จะช่วยให้การทำงานของผู้ใช้มีสิทธิภาพมากขึ้น เน้นการใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่หนักเครื่อง สนใจแอปไหนก็สามารถดาวน์โหลดหรือเลือกใช้งานกันได้เลยนะคะ
ที่มา idropnews
