Pitak
3 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่า iPhone ของคุณอาจถูกแฮ็ก พร้อมวิธีการตรวจสอบและป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกละเมิด
3 สัญญาณบอกว่า iPhone ของคุณอาจถูกแฮ็ก!!
ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญแม้ว่า iPhone จะมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กได้ การตระหนักรู้ถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่ามือถือของคุณอาจถูกแฮ็ก จะสามารถช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณได้
1. แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ
หนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ที่ชี้ว่า iPhone ของคุณอาจถูกแฮ็กคือแบตเตอรี่หมดเร็วโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน อาจมาจากมัลแวร์หรือแอปที่เป็นอันตรายที่ทำงานอยู่เบื้องหลังแอบใช้พลังงานแบตเตอรี่อยู่ หากคุณสังเกตว่าแบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วขึ้นกว่าปกติ คุณต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
ไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ เพื่อดูการใช้แบตเตอรี่โดยรวม คุณสามารถดูแบตเตอรี่ที่ใช้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและ 10 วันที่ผ่านมาได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถดูการใช้แบตเตอรี่จากแต่ละแอปได้อีกด้วย หากคุณแตะที่แอป มันจะแสดงทั้งเวลาที่ใช้งานบนหน้าจอและเวลาที่ทำงานเบื้องหลัง หากคุณสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น แอปที่ไม่รู้จักใช้พลังงานแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก ให้ลบออกทันที
2. เจอแอปที่ไม่รู้จักในเครื่อง
อีกหนึ่งสัญญาณคือ การพบเจอแอปที่เราไม่ได้คุ้นหน้าคุ้นตาหรือเป็นคนติดตั้งเอง หรือในอีกบางกรณีก็คือมาจากคนใกล้ตัวเช่นแอปบอกตำแหน่งต่าง ๆ ที่คนในครอบครัวติดตั้งให้ก็อาจหมายความว่าแฮ็กเกอร์สามารถติดตั้งแอปจากระยะไกลได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะทำแต่ก็มีโอกาศเกิดขึ้นได้
หากคุณเห็นแอปที่ไม่รู้จัก ให้ลบออก อย่าลืมตรวจสอบการใช้แบตเตอรี่และการอนุญาตของแอปผ่านการตั้งค่า สิ่งนี้จะทำให้คุณทราบว่าแอปนั้นอาจถูกใช้งานอย่างไร
3. Apple ID แจ้งเตือนถูกบุกรุก
อีกหนึ่งสัญญาณบอกเหตุว่าคุณถูกแฮ็กคือกิจกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวกับ Apple ID ของคุณ คุณได้รับอีเมลแจ้งเตือนว่า Apple ID ของคุณถูกใช้ในการลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ที่คุณไม่คุ้นเคยหรือใช้สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ที่คุณไม่รู้จัก เช่น รายการที่ถูกลบที่คุณไม่ได้ลบ ข้อความที่ส่งที่คุณไม่ได้ส่ง หรือการซื้อที่คุณไม่ได้ทำ นี่ก็เป็นข้อบ่งชี้ทั้งหมดว่า iPhone หรือบัญชี iCloud ของคุณถูกแฮ็ก
โดยหากเจอสถานการณ์ในแบบข้อนี้คำแนะนำคือ การรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณ อัปเดตข้อมูลความปลอดภัยของคุณ และเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น
แหล่งที่มา- idropnews
