yugioh2500
หลังจากเปิดตัว iPhone SE สเปคเทพเหมือน 6s ในราคาและขนาดเพียง 5s ซึ่งถึงแม้ว่าราคาจะถูกกว่าเดิมไม่มาก แต่เรื่องขนาดและดีไซน์ (เก่า) ได้ใจหลายคนไปเต็ม ๆ ทีนี้เราจะมาดูเหตุผลกันว่า Apple กำลังคิดอะไรอยู่ แล้วทำไมถึงคาดว่า iPhone SE อาจจะขายดีกว่าที่คิด
5 เหตุผลที่จะทำให้ iPhone SE ขายดี (กว่าที่คิด)
ส่วนสเปคและราคาคาดว่าหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการเตือนความจำเราจะมาซ้ำกันอีกสักรอบหนึ่ง iPhone SE มีสเปคภายในเกือบทุกอย่างเหมือนกับ iPhone 6s เว้นเสียแต่เรื่อง กล้องหน้าลดลง 1.2 MP, ไม่รองรับ 3D Touch, ส่วนราคาไทยยังไม่ออกแต่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 16,900 บาท ในรุ่นความจุเริ่มต้น 16 GB
1. ราคาถูกจนหลายคนเอื้อมถึง
ปัจจุบันราคา iPhone 6s เริ่มต้นที่ 26,500 บาท อาจเป็นที่เอื้อมไม่ถึงของใครหลายคน แต่ด้วยราคา iPhone SE ที่ถูกกว่าเกือบหมื่น! แถมมีความเร็วที่เท่ากัน (เป็นใครจะไม่เปลี่ยนใจ) ยิ่งช่วงตอนนี้ Apple เน้นรุกตลาดจีนอย่างหนักด้วย ในมุมมองเราอาจคิดว่าไม่กี่พัน แต่สำหรับประเทศที่มีค่าแรงต่ำอย่างจีน ถือว่าเป็นเงินมหาศาลอยู่เลยล่ะ
2. ขนาดเหมาะกับมือเดียว
ยังมีผู้ใช้อีกมากที่ชอบจอใหญ่ แต่ก็มีผู้ใช้อีกมากที่เคยชินกับหน้าจอเล็ก และการใช้งานมือเดียวกับหน้าจอ 4 นิ้ว + Ecosystem ความสะดวกสบายในการใช้งานมือเดียว ที่ปัจจุบัน Android รุ่น TOP ยังมีตัวเลือกไม่ค่อยมากนัก ข้อดีของขนาดเล็กคือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วไม่ตุง ใช้งานมือเดียวมั่นคงจับง่ายพลิกสะดวก
3. ใช้ร่วมกับเคสเดิมได้
คนที่ถือ iPhone 5 หรือ 5s อยู่ในปัจจุบันด้วยอายุการใช้งาน รวมถึงสเปคที่ตกรุ่นน่าจะได้เวลาแล้วสำหรับการเปลี่ยน (iPhone SE เร็วกว่า 5s ถึงสองเท่าและสามเท่าหากเทียบกราฟิก) เคสเดิมที่ซื้อมาหลายพันช่างน่าเสียดาย รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock หรือ Len จะให้ทิ้งไปก็ทำใจลำบาก แต่ทีเด็ดกว่านั้นคือลำโพงเทพหลายตัวที่เป็น Dock ขนาด iPhone 5 หลายแบรนด์ลดราคาจากหลักหมื่นมาเป็นไม่กี่พัน อันนี้คุ้มมากบอกเลย
4. รองรับ 4G ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
หลังจากประมูลคลื่นความถี่เสร็จในตอนนี้ประเทศไทยมี 4G อย่างเป็นทางการแล้ว หากว่ากันตามเทคนิคเดิมที iPhone 5s ใช้โมเด็ม Qualcomm MDM9615M ซึ่งรองรับเพียง 4G LTE (Category 3) และทำความเร็วได้สูงสุดเพียง 100 Mbps (แต่เทสจริงด้วยข้อจำกัดด้านขนาดย่านความถี่ และสัมปทานส่วนใหญ่จะไม่มีใครได้ถึง 50 Mbps) แต่สำหรับ iPhone SE มาพร้อมกับโมเด็ม Qualcomm MDM9625M ซึ่งรองรับ 4G LTE Advance (Category 4) และทำความเร็วได้สูงสุดเพียง 150 Mbps โดยใช้เทคนิค Carrier Aggregation ในการรวมย่านความถี่ที่ได้สัมปทานเข้าด้วยกัน 2CA ทำให้ได้ความเร็วได้มากกว่า
5. แบตเตอรี่อึดกว่า
ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่จุดขายและ iPhone SE มีแบตเตอรี่ที่เล็ก แต่ความที่มีหน้าจอความความละเอียดที่ต่ำกว่า (1136 x 640 พิกเซล) และมีอัตราส่วนคอนทราสต์ 800:1 โดยตามสเปคหน้าเว็บไซต์ของ Apple ระบุว่ามันสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้นานสูงสุด 12-13 ชั่วโมง นานเสียยิ่งกว่า iPhone 6s Plus เล็กน้อย
