Zakura Kim
หลายคนอยากจะพกพา iPad ไปทำงานแทน MacBook และอาจมีความคิดที่จะใช้งาน iPad แทน Mac แต่แน่นอนว่า สำหรับใครที่ใช้ Mac มาก่อน ก็อาจจะไม่คุ้นชินการทำงานบน iPad มากนัก ทีมงานจึงมีคำแนะนำการเริ่มต้นใช้ iPad เพื่อย้ายจากการใช้ Mac มาใช้ iPad แทน ลองพิจารณากันดูนะคะ
5 คำแนะนำ เริ่มใช้งาน iPad แทน Mac สำหรับผู้ที่อยากย้ายจาก Mac มาใช้ iPad
1. สะท้อนหน้าจอ Mac บน iPad
แนะนำให้เราเริ่มใช้หน้าจอ iPad แทนแล็ปท็อป โดยใช้วิธีการสะท้อนหน้าจอจาก Mac บน iPad หรือเรียกว่าฟีเจอร์ Screen Mirroring เพื่อให้เนื้อหาบน Mac มาแสดงบนหน้าจอ iPad และลองใช้งานดู
เปิดใช้งานได้ที่ Control Center > เปิด Screen Mirroring แล้วเลือกอุปกรณ์ที่ iPad หรือ Mac ที่ต้องการสะท้อนหน้าจอได้เลย
2. เชื่อมต่อ iPad กับ Mac
หากเรายังไม่พร้อมที่จะย้ายไปใช้ iPad แทน Mac เราสามารถเชื่อมต่อ iPad กับ Mac เข้าด้วยกัน ด้วยฟีเจอร์ Universal Control ที่ช่วยให้เราสามารถใช้ iPad เป็นหน้าจอเสริมได้ โดยควบคุมด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดได้ทั้งบน iPad และ Mac วิธีนี้อาจจะช่วยให้เราเริ่มคุ้นเคยกับการใช้งานบน iPad มากขึ้น
ฟีเจอร์นี้รองรับบน macOS Monterey 12.4 ขึ้นไป และรองรับบน iPad Pro, iPad Air, iPad mini ที่เปิดตัวในปี 2018 ขึ้นไปเท่านั้น
3. ใช้งานเมาส์และคีย์บอร์ดร่วมกับ iPad
กรณีที่เราไม่อยากจะเชื่อมต่อ Mac กับ iPad หรือสะท้อนหน้าจอระหว่างกัน แนะนำว่าในลองเชื่อมต่อเมาส์ แทร็คแพ็ด และคีย์บอร์ดโดยตรงกับ iPad ผ่านบลูทูธได้เลย
วิธีนี้เป็นวิธีการเริ่มต้นใช้งาน iPad แทน Mac ที่ดี เนื่องจากผู้ใช้สามารถควบคุมและใช้แป้นพิมพ์บน iPad ได้คล้าย ๆ กับการทำงานบน Mac ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์คีย์ลัด การเข้าถึงการทำงานพร้อมกันหลายอย่างได้ ถึงแม้ว่าจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์เท่ากับบน Mac แต่ก็ถือว่าสามารถทำได้ดีเลยทีเดียว
4. ดาวน์โหลดแอปที่จำเป็นมาใช้งาน
แน่นอนว่าการใช้งานหรือการทำงานส่วนใหญ่เรามักจะทำงานผ่านแอปอยู่แล้ว ถ้าหากเราต้องการเปลี่ยนจาก iPad มาใช้งานบน Mac เราก็ควรจะติดตั้งแอปที่จำเป็นมาใช้งานด้วย ปัจจุบันมีแอปมากมายที่เป็น Universal App สามารถทำงานได้ทั้งบน iPad และ Mac การใช้งานก็แทบไม่ต่างกัน และนักพัฒนาแอปส่วนใหญ่ก็พยายามพัฒนาแอปสำหรับ iPad ให้ใช้งานได้เหมือนกับ Mac มากขึ้นด้วย
แต่ถ้าแอปที่เราเคยใช้บน Mac นั้นไม่มีให้ดาวน์โหลดสำหรับ iPad เราก็อาจจะต้องพิจารณาดูว่ามีแอปใดที่เป็นแอประเภทเดียวกันและการทำงานใกล้เคียงกัน สามารถทดแทนกันได้ ก็อาจจะเลือกดาวน์โหลดแอปนั้นมาใช้งานแทาน
5. ใช้งานฟีเจอร์ที่เหมือนกันบน iPad
ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าฟีเจอร์บน macOS มักจะคล้าย ๆ กับ iPadOS มีการทำงานที่เหมือนกัน อย่างเช่น ฟีเจอร์ Stage Manager ที่จัดวางแอปให้อยู่กึ่งกลาง, Quick Note การบันทึกโน้ตอย่างรวดเร็ว โดยการปัดนิ้วจากมุมล่างขวาของ iPad, การเชื่อมต่อกับจอภาพ ด้วยสาย HDMI, Spotlight Search และการแสดงผล Split View และ Slide Over
ฟีเจอร์ที่เหมือนกันนี้จะให้ความรู้สึกคุ้นชินในการใช้งาน iPad แทน Mac มากขึ้น เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ก็จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ iPad ได้คล่องขึ้น
iPad ใช้งานแทน Mac ได้จริงหรือไม่
macOS และ iPadOS มีการทำงานที่แตกต่างกันอยู่ ถ้าจะถามว่าใช้แทนกันได้แบบสมบูรณ์หรือไม่นั้น ก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากบน Mac ก็มีการทำงานที่ซับซ้อนและเป็นลักษณะเฉพาะของ Mac ซึ่ง iPad ก็มีการทำงานที่เป็นลักษณะเฉพาะของ iPad เช่นกัน
จะเห็นได้ว่ามีการทำงานบางส่วนเท่านั้นที่คล้ายกันและสามารถทำงานแทนกันได้ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้พิจารณาได้ว่า จะใช้ iPad แทน Mac ได้หรือไม่ ถ้าหากฟีเจอร์หรือแอปส่วนใหญ่ที่เราใช้เป็นประจำบน Mac นั้นมีอยู่ใน iPad ด้วย ก็อาจจะใช้ทดแทนกันได้ แต่ถ้าฟีเจอร์ที่เราใช้ Mac นั้นยังจำกัดการทำงานบน iPad ก็ยังไม่ควรย้ายไปใช้ iPad แทน Mac
ส่วนผู้ใช้ใหม่ที่ยังไม่มีทั้ง iPad และ Mac ก็อาจจะต้องพิจารณาลักษณะงานและแอปว่าใช้งานได้ดีบน iPad หรือ Mac ก็จะช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าเน้นการวาดรูปและไม่ได้ทำงานอื่น ๆ ซับซ้อนมากนัก ก็อาจจะเลือกซื้อ iPad แต่ถ้าหากเราเป็นนักพัฒนา เขียนโปรแกรม และใช้โปรแกรมที่ซับซ้อน ก็อาจจะต้องเลือกซื้อ Mac ก็ลองตัดสินใจกันดูนะคะ
ที่มา idropnews
