Thitirath Kinaret
Pokémon Go เป็นเกมบน Smartphone ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สร้างกระแสนิยมการเล่นเกมแบบเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคนทั่วโลกโดยมี Niantic Labs เป็นผู้พัฒนา แต่ผู้อยู่เบื้องหลังความประสบความสำเร็จนี้ที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้คือ John Hanke CEO ของ Niantic Labs
5 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ John Hanke ผู้สร้าง Pokémon Go
1. จบสายบริหารจากมหาวิทยาลัย California, Berkeley
John Hanke โตใน Texas จบปริญาตรีจากมหาวิทยาลัย Texas ที่เมือง Austin หลังจากนั้นเขาได้เรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัย California, Berkeley และสำเร็จการศึกษาสาขา MBA ในปี 1996 จากนั้นในปี 2008 เขาก็ได้ดำรงตำแหน่ง Haas School Executive Fellow (ที่ปรึกษา / อาารย์ชั่วคราว) ที่มหาวิทยาลัยแห่งเดิม
2. เป็นผู้ช่วยสร้าง Google Earth
ไอเดียของ Pokémon Go ส่วนหนึ่งอาจได้แรงบันดาลใจมากจาก Google ในวัน April Fool’s Day ที่เป็นมุกตลกว่า ผู้เล่นสามารถใช้ Google Map, Google Earth มาจับ Pokemon ได้
ในปี 2001 John Hanke ได้ก่อตั้งบริษัท Startup ชื่อ Keyhole ขึ้นมาเพื่อพัฒนาโปรแกรม Earth Viewer ที่ให้ผู้ใช้สามารถดูโลกในรูปแบบดาวเทียมและเทคโนโลยี 3 มิติ ต่อมาในปี 2004 Google ก็ได้ซื้อกิจการบริษัทเป็นมูลค่า 35 ล้านดอลล่าร์ แล้วเอา Earth Viewer มาปรับปรุงเป็น Google Earth
3. เคยเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเกมแบบ MMORPG ตัวแรก
Pokémon Go ไม่ได้เป็นเกมออนไลน์เกมแรกที่ John Hanke พัฒนา โดยเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมพัฒนาเกม Meridan 59 ซึ่งเป็นเกมรูปแบบ MMORPG เกมแรก
MMORPG ย่อมาจาก Massive Multiplayer Online Role-Playing Game คือ เกมที่ให้ผู้เล่นเข้ามารวมเล่นพร้อมกันหลายคนในเวลาเดียวกัน โดยผู้เล่นแต่ละคนจะสวมบทบาทเสมือนจริงและสื่อสารกันผ่านตัวละครนั้นๆ ที่เห็นได้ชัดและเป็นที่นิยมกันคือเกม Ragnarok Online, World of Warcraft เป็นต้น
โดย John Hanke ก็นำไอเดียจากเกมจำพวก MMORPG มาใช้เช่นเดียวกัน โดยใน Pokémon Go ก็มีการแบ่งทีมเป็น 3 ทีม Mystic, Instinct และ Valor เพื่อให้ปะทะหรือต่อสู้เช่นเดียวกัน
4. เป็นผู้สร้างเกม Ingress และรูปแบบการเล่นเกมในโลกจริง
Pokémon Go มีจุดเริ่มต้นจากการต่อยอดเกมอื่น คือ เกม Ingress ที่ John Hanke สร้างในปี 2012 โดยลักษณะของเกมจะเป็นการแบ่งเป็น 2 ฝ่ายแล้วแข่งกันยึดฐานในแต่ละจุด (Portal) ให้ได้มากที่สุด แผนที่ในเกมที่ใช้จะเป็นแผนที่จริง
แนวคิดนี้ได้ถูกพัฒนาต่อยอดมาใช้ใน Pokémon Go โดย Portal ถูกพัฒนาเป็น Poke Stops และเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ที่น่าสนใจเข้าไป เช่น เป็นจุดรับไอเทมต่างๆ และ Pokemon Egg เป็นต้น
5. เขาบอกว่า Pokémon Go “อนาคตจะมีความสมจริง ไม่ใช่เสมือนจริง”
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Sony พยายามอย่างหนักที่จะสร้างระบบเสมือนจริง แต่ John Hanke เชื่อมันใน Pokémon Go ว่า ในอนาคตจะไม่ใช่ เป็นแค่เกมเสมือนจริง แต่จะ เป็นเกมแบบสมจริงกับโลกความจริง
โดยเขาได้กล่าวในบทสัมภาษณ์และให้ความเห็นผ่าน Twitter ว่า “ผู้คนไม่ได้ถูกสร้างมาให้อยู่ในห้องมืดๆกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้คนจะต้องออกมาข้างนอกและพบปะกับคนอื่นๆ”
Pokémon Go Will Make You Crave Augmented Reality https://t.co/UNuU0mk4I3 via @newyorker
— John Hanke (@johnhanke) July 13, 2016
ยังกล่าวต่อไปว่าการใช้ VR จะมาทดแทนการเล่นเกมแบบโลกความเป็นจริง แต่ให้เพียงประสบการณ์แค่โลกเสมือนจริงเท่านั้น (ไม่ได้ออกไปสัมผัสกับโลกภายนอกอย่างแท้จริง)
“มันไม่ใช่แค่เกมที่ทดแทนประสบการณ์ผู้เล่นด้วยระบบเสมือนจริง คุณเห็นจากเกม Pokémon Go ไหม ถึงแม้มันเป็นเกมที่ถูกสร้างมาให้เป็นโลกเสมือนจริง แต่มันก็ช่วยให้ผู้เล่นได้เดิน ได้พบปะกับเพื่อนๆ ด้วยนะ” – John Hanke กล่าว
เห็นได้ว่า John Hanke เป็นบุคคลที่น่ายกย่องอีกคนหนึ่ง ด้วยการสะสมประสบการณ์ การเรียนรู้เพิ่ม บวกกับความกล้าคิดกล้าทำ และประยุกต์เอาองค์ความรู้ต่างๆ ที่มีมาพัฒนาเกม Pokémon Go ที่ส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมบนโลกความเป็นจริงได้อย่างยอดเยี่ยม
ใช้เวลาถึง 20 ปี ที่จะให้สำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน
เราหวังว่า Pokémon Go จะเป็นเกมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและ John Hanke ต้องมีทีเด็ดที่จะผลักดันเกมนี้ให้เป็นเกมที่คนมี Smartphone ต้องมีติดเครื่องไว้แน่นอน
ขอบคุณ – heavy
