หลังจากที่ทีมงานได้สอนวิธีการค้นหา iPhone ที่สูญหายและวิธีป้องกันข้อมูล iPhone ให้ปลอดภัยกันแล้ว เรามาดูกันว่าเมื่อโจรขโมย iPhone ของเราไปแล้ว จะสามารถทำอะไรกับเครื่องของเราได้บ้าง
5 สิ่งที่โจรสามารถทำได้บน iPhone ที่ขโมยมา
1. ปลดล็อคเครื่อง iPhone
ในทางเทคนิคแล้ว การเข้าถึง iPhone เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ถึงแม้ว่าโจรจะสามารถปลดล็อคเครื่องของเราได้ แต่ก็ต้องใช้การเข้าสู่ระบบหรือยืนยันผ่าน Apple ID เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น การลบข้อมูลและเนื้อหาให้ iPhone เป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่
แต่ถ้าหากโจรมีรหัสปลดล็อคเครื่อง iPhone ก็สามารถเข้าถึง Apple ID ของเราได้ ถ้าหากว่าเราเก็บข้อมูลบัญชีและรหัสผ่าน Apple ID ไว้ใน iCloud Keychain รวมถึงข้อมูลของบัญชีอื่น ๆ ที่เราเก็บไว้ใน iCloud Keychain ด้วย
แต่ถ้าหากเราโจรไม่ทราบหรือไม่สามารเข้าถึง Apple ID ของเราได้ ก็มีวิธีอื่น ๆ ที่โจรพยายามจะเข้าถึง ด้วยการฟิชชิ่ง เมื่อโจรมีชื่อหรือข้อมูลติดต่อของเรา พร้อมกับโทรศัพท์ที่ขโมยมา เช่น ถ้าโจรขโมย iPhone พร้อมกับกระเป๋าตังค์เราด้วย โจรก็จะปลอมอีเมลหรือข้อความส่งมาถึงเรา โดยปลอมเป็น Apple หรือบริการให้ความปลอดภัย เพื่อล่อลวงให้เราระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบ Apple ID หรือ iCloud พร้อมรหัสผ่าน [ชมวิธีเช็คอีเมลปลอม รู้ทันโจร]
อย่างที่สองคือ การถอดซิมออกจาก iPhone และนำซิมไปใส่ iPhone เครื่องใหม่ โดยที่เครื่องใหม่ โจรจะไม่ต้องใช้รหัสผ่านเข้าถึงเครื่อง จากนั้นก็จะพยายามหาอีเมลของเราผ่านโซเชียลมีเดียหรือข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ และพยายามรับรหัสผ่านบัญชี iCloud ของเรา เพื่อนำไปล็อกอินเข้าสู่ Apple ID
เห็นได้ว่า ถ้าหากโจรสามารถปลดล็อกรหัสผ่าน iPhone ได้แล้ว อาจจะเป็ฯเรื่องง่ายที่จะทำอย่างอื่นภายในเครื่องได้ต่อ ดังนั้นอย่างแรกเราควรตั้งค่าผ่านปลดล็อกเครื่องให้คาดเดายาก รวมถึงรหัสผ่าน Apple ก็ควรตั้งให้คาดเดายากเช่นกัน อย่างที่สองให้เปิดการยืนยันตัวตนสองชั้นไว้ด้วย และอย่างที่สามที่แนะนำคือเลือกใช้งาน eSIM แทนการใช้ซิมจริง ซึ่งจะทำให้โจรเข้าถึง iPhone และบัญชี iCloud ได้ยากขึ้น
2. ใช้งาน Siri
หากเราเปิดใช้งาน Siri บน iPhone โดยตั้งให้สามารถ “หวัดดี Siri” หรือ “Hey Siri” ได้ ก็มีโอกาสที่โจรจะสามารถพูดคุยกับ Siri โดยการเรียกแบบนี้ได้ หากโจรสามารถหวัดดี Siri ได้แล้ว แสดงว่าโจรจะสามารถสนทนากับ Siri ได้ พร้อมกับขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรา อย่างเช่นชื่อของเรา หรือจะใช้คำสั่งโทรหาแม่ของฉัน โทรหาพ่อของฉัน เพื่อใช้กลอุบายหลอกลวงคนใกลัตัวของเราได้
แต่ถ้าหากโจรถามถึงข้อมูลส่วนตัวของเราตรง ๆ เช่น เบอร์โทรของเรา อีเมลของเรา iPhone จะให้ทำการปลดล็อเครื่องด้วยรหัสผ่านก่อน
3. ใช้งาน Control Center
นอกจากนี้ ถ้าหากเราเปิดใช้งานให้เข้าถึง Cotrol Center ได้ขณะล็อกหน้าอยู่ โจรก็จะสามารถเข้าถึง Control Center หรือศูนย์ควบคุมทั้งหมดของเราได้ ซึ่งสิ่งที่อันตรายก็ก็คือ ถ้าหากเราเปิดแสดงตัวควบคุมบ้าน โจรก็จะสามารถควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะบางตัวที่เชื่อมต่อกับบ้านของเรา เช่น อุปกรณ์ล็อคอัจฉริยะ
การแสดงตัวควบคุมบ้าน สำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฮมที่ Control Center อาจจะทำให้การใช้งานทำได้ง่าย แต่ก็อาจจะเสี่ยงต่อการโจรกรรมเช่นกัน
4. นำเครื่องไปเปลี่ยนเป็นเครื่อง Replacement
กรณีที่โจรขโมยโทรศัพท์ไปแล้ว และทำให้เครื่องเสียหาย อย่างเช่น หน้าจอแตก ฝาหลังแตก จากนั้นพวกเขาก็จะใช้หมายเลขเครื่องจากด้านหลัง iPhone หรือถอดใส่ซิม เพื่อติดต่อขอเคลมกับ Apple และขอเปลี่ยนเครื่อง แต่วิธีนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากฝ่ายสนับสนุนของ Apple จะต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมอยู่แล้ว
แต่ถ้าหากเรามีแผน AppleCare+ โจรก็อาจจะส่งรายการเปลี่ยนเครื่องภายใต้บริการการเปลี่ยนด่วน ซึ่งไม่ต้องส่ง iPhone ไปยังฝ่ายสนับสนุนก่อน ซึ่งวิธีนี้จะทำได้ เมื่อโจรทราบชื่อของเรา และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ อาจจะเป็นโจรใกล้ตัวที่สามารถทำได้
5. แยกอะไหล่ขาย
แน่นอนการขาย iPhone ที่ถูกขโมยมาทั้งเครื่องไปยังร้านรับซ่อมหรือร้านขายมือถือมือสองอาจจะขายได้ยาก เนื่องจากร้านอาจจะไม่รับซื้อ แต่แน่นอนว่าเพื่อเงิน โจรก็มักจะแยกชิ้นส่วนหรืออะไหล่ของ iPhone ออก เพื่อพยายามขายเฉพาะส่วนประกอบบางส่วนที่ใช้งานได้ให้กับร้านซ่อมมือถือ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่โจรสามารถทำได้บน iPhone ที่ขโมยมา สิ่งที่เราป้องกันการขโมยเบื้องต้นได้ดีที่สุดคือการตั้งรหัสผ่านให้คาดเดายาก อย่าใช้ 123456 หรือรหัสผ่านที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา อย่างเช่น เบอร์โทร วันเดือนปีเเกิด และสิ่งที่ต้องทำเมื่อซื้อเครื่องมาเลยก็คือการเปิดใช้งาน Find My iPhone ไว้ สามารถอ่านรายละเอียดการปกป้องข้อมูล iPhone และการค้นหา iPhone ได้ที่
- 16 ทริค ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลบน iPhone ให้ปลอดภัยมากขึ้น
- iPhone หาย ต้องทำอะไรบ้าง ชมสิ่งที่ต้องทำทุกขั้นตอนที่นี่
ที่มา idropnews