in

5 เว็บไซต์รับงาน Freelance หารายได้เสริม ทำแล้วได้เงินจริง (อัปเดต 2024)

การมีรายได้ทางเดียวอาจจะไม่พอ บางคนต้องทำงานเสริมเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย เรามี 5 เว็บไซต์ ใช้ประกาศหางาน Freelance มาแนะนำ!

5 เว็บไซต์รับงาน Freelance หารายได้เสริม ทำแล้วได้เงินจริง

ปัจจุบันมีเว็บไซต์หางาน Freelance ที่น่าสนใจหลาที่ หลายคนใช้เพื่อหารายได้เสริมจากงานประจำ หรือ บางคนรับงาน Freelance แบบเต็มตัว ไม่ว่าจะช่องทางไหน และทำงานแบบใดก็สามารถสร้างรายได้ หาค่าขนมได้ เราได้รวบเราเอาเว็บไซต์หางาน Freelance ที่น่าเชื่อถือที่ทำแล้วได้เงินจริงมาแนะนำ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

1.Fastwork

แหล่งรวมงาน Freelance ที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีงานหลากหลายประเภท ตั้งแต่งานเขียน งานแปล งานออกแบบ ไปจนถึงงานพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

เว็บไซต์: https://fastwork.co/

ดาวน์โหลดแอป: โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android

ข้อดี:

  • มีงานหลากหลายประเภท: Fastwork มีงานให้เลือกทำมากมาย ครอบคลุมทุกสายงาน ตั้งแต่งานเขียน งานแปล งานออกแบบ ไปจนถึงงานพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทำให้ Freelancer มีโอกาสได้ทำงานที่ตรงกับความถนัดและความสนใจของตัวเอง
  • มีระบบคัดกรองผู้ว่าจ้าง: Fastwork มีระบบคัดกรองผู้ว่าจ้าง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ว่าจ้างมีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโกงหรือไม่ได้รับเงินค่าจ้าง
  • มีระบบ Escrow: ระบบ Escrow ช่วยให้ Freelancer มั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินค่าจ้างหลังจากทำงานเสร็จตามข้อตกลง โดย Fastwork จะเป็นตัวกลางในการรับเงินจากผู้ว่าจ้างและจ่ายเงินให้ Freelancer เมื่องานเสร็จสิ้น
  • มีระบบรีวิวและให้คะแนน: ระบบรีวิวและให้คะแนนช่วยให้ Freelancer สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการได้รับงานมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ว่าจ้างยังสามารถดูรีวิวและคะแนนของ Freelancer ก่อนตัดสินใจจ้างงานได้
  • มีชุมชน Freelancer: Fastwork มีชุมชน Freelancer ที่ใหญ่และแข็งแกร่ง ทำให้ Freelancer สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และรับคำแนะนำจาก Freelancer คนอื่น ๆ ได้

ข้อเสีย:

  • การแข่งขันสูง: เนื่องจาก Fastwork เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมาก ทำให้มี Freelancer จำนวนมากที่แข่งขันกันเพื่อรับงาน ซึ่งอาจทำให้ Freelancer มือใหม่หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก ได้รับงานยากขึ้น
  • ค่าธรรมเนียม: Fastwork จะหักค่าธรรมเนียมจาก Freelancer ทุกครั้งที่ได้รับงาน ซึ่งอาจทำให้รายได้ลดลง
  • ระบบการจ่ายเงิน: บางครั้งระบบการจ่ายเงินของ Fastwork อาจล่าช้า หรือมีปัญหาในการถอนเงิน

2. FreelanceBay

เว็บไซต์นี้มีงาน Freelance คุณภาพสูง และมีระบบคัดกรองผู้ว่าจ้างและ Freelancer อย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับมือโปร มีสกิลและประสบการณ์เยอะ

เว็บไซต์: https://www.freelancebay.com/

ข้อดี:

  • คุณภาพงานสูง: FreelanceBay เน้นงานที่มีคุณภาพ โดยมีระบบคัดกรองผู้ว่าจ้างและ Freelancer อย่างเข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ทำงานที่มีคุณภาพและได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม
  • ความปลอดภัย: ระบบ Escrow ช่วยให้มั่นใจว่า Freelancer จะได้รับเงินเมื่อทำงานเสร็จตามข้อตกลง และผู้ว่าจ้างจะได้รับงานที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
  • ความหลากหลายของงาน: มีงานหลากหลายประเภทครอบคลุมหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่งานเขียน งานแปล งานออกแบบ ไปจนถึงงานพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
  • เครื่องมือช่วยทำงาน: มีเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น เช่น ระบบติดตามความคืบหน้าของงาน ระบบแชทสำหรับสื่อสารกับผู้ว่าจ้าง และระบบจัดการเอกสาร

ข้อเสียของ FreelanceBay:

  • ค่าธรรมเนียม: FreelanceBay มีการเก็บค่าธรรมเนียมจาก Freelancer ในแต่ละงานที่ได้รับ ซึ่งอาจทำให้รายได้ลดลงบ้าง
  • การแข่งขันสูง: เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่เน้นงานคุณภาพ ทำให้มี Freelancer ที่มีความสามารถสูงเข้ามาแข่งขันกันมาก อาจทำให้ผู้เริ่มต้นได้รับโอกาสน้อยลง
  • จำนวนงานน้อยกว่า: เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ เช่น Fastwork อาจมีจำนวนงานให้เลือกน้อยกว่า

3. Upwork

Upwork เป็นแพลตฟอร์มระดับโลก มีโอกาสได้ทำงานกับลูกค้าต่างชาติ คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่ง มีการแข่งขันค่อนข้างสูง

เว็บไซต์: https://www.upwork.com/

ดาวน์โหลดแอป: โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android / แอปสำหรับ Desktop คลิก ที่นี่

ข้อดี:

  • โอกาสในการทำงานมากมาย: มีงานหลากหลายประเภทและหลากหลายระดับความสามารถ ตั้งแต่งานเล็ก ๆ ไปจนถึงโปรเจกต์ขนาดใหญ่
  • ลูกค้าคุณภาพ: มีลูกค้าจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ทำให้มีโอกาสได้สร้างผลงานที่มีคุณภาพและได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
  • ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย: Upwork มีระบบ Escrow ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินหลังจากทำงานเสร็จ
  • เครื่องมือที่ช่วยในการทำงาน: มีเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Time Tracker และ Project Management ที่ช่วยให้การทำงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
  • สร้างโปรไฟล์และผลงาน: สามารถสร้างโปรไฟล์ที่น่าสนใจและแสดงผลงานที่ผ่านมา เพื่อดึงดูดลูกค้า

ข้อเสีย:

  • การแข่งขันสูง: มี Freelancer จำนวนมากบนแพลตฟอร์มนี้ ทำให้การแข่งขันเพื่อให้ได้งานค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ค่าธรรมเนียม: Upwork เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจาก Freelancer ในแต่ละโปรเจกต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้
  • ความเสี่ยงในการถูกหลอกลวง: แม้ว่า Upwork จะมีระบบคัดกรองลูกค้า แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเจอลูกค้าที่ไม่ซื่อสัตย์หรือไม่จ่ายเงิน
  • การสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ: เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มระดับโลก การสื่อสารส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน

4. Fiverr

แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นงานบริการขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้นที่ 5 ดอลลาร์ เหมาะสำหรับ Freelancer มือใหม่

เว็บไซต์: https://www.fiverr.com

ดาวน์โหลดแอป: โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android

ข้อดี:

  • เข้าถึงง่าย: ลงทะเบียนและสร้างโปรไฟล์ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • มีงานหลากหลาย: มีงานให้เลือกมากมาย ครอบคลุมหลากหลายสาขา ตั้งแต่งานเขียน งานออกแบบ งานแปล งานผู้ช่วย ไปจนถึงงานพากย์เสียงและงานดนตรี
  • ราคาเริ่มต้นต่ำ: งานส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย และ Freelancer สามารถดึงดูดลูกค้าได้ง่ายขึ้น
  • ระบบจัดการงาน: มีระบบที่ช่วยให้จัดการงานและติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้สะดวก
  • โอกาสสร้างรายได้เสริม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้เสริม หรืองานเล็ก ๆ น้อย ๆ

ข้อเสีย:

  • การแข่งขันสูง: มี Freelancer จำนวนมากบนแพลตฟอร์มนี้ ทำให้การแข่งขันสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ค่าคอมมิชชั่นสูง: Fiverr คิดค่าคอมมิชชั่น 20% จากรายได้ของ Freelancer
  • คุณภาพงานไม่แน่นอน: เนื่องจากมี Freelancer จำนวนมาก คุณภาพงานจึงแตกต่างกันไป ควรตรวจสอบประวัติและผลงานของ Freelancer ก่อนจ้างงาน
  • ปัญหาการสื่อสาร: บางครั้งอาจมีปัญหาในการสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ เนื่องจากความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม
  • งานขนาดเล็ก: งานส่วนใหญ่เป็นงานขนาดเล็ก ทำให้รายได้ต่อชิ้นงานไม่สูงมากนัก

5. Thai Freelance Agency

เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ว่าจ้างและ Freelancer มีทั้งงาน Freelance และงานประจำ เหมาะสำหรับผู้ว่าจ้างในประเทศไทย

เว็บไซต์: https://thaifreelanceagency.com/

ข้อดี:

  • เน้นตลาดไทย: เว็บไซต์นี้เน้นกลุ่มลูกค้าและ Freelancer ในประเทศไทย ทำให้เข้าใจความต้องการของตลาดและวัฒนธรรมการทำงานในไทยได้ดี
  • มีทั้งงาน Freelance และงานประจำ: ไม่ได้มีเพียงงาน Freelance แต่ยังมีงานประจำแบบ Part-time หรือ Full-time ให้เลือกอีกด้วย
  • มีระบบคัดกรอง: มีการคัดกรองทั้ง Freelancer และผู้ว่าจ้าง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของงานและความน่าเชื่อถือ
  • ใช้งานง่าย: เว็บไซต์มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

ข้อเสีย:

  • ฐานผู้ใช้ยังไม่ใหญ่มาก: เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ Freelance ยักษ์ใหญ่อย่าง Fastwork หรือ Upwork ฐานผู้ใช้ของ Thai Freelance Agency อาจยังไม่กว้างขวางเท่า ทำให้มีตัวเลือกงานน้อยกว่า
  • การแข่งขัน: เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่เน้นตลาดไทย การแข่งขันในบางสายงานอาจสูง
  • ค่าบริการ: มีค่าบริการสำหรับ Freelancer ในการสมัครสมาชิกแบบพรีเมียม เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับ Freelancer

  • สร้างโปรไฟล์ให้โดดเด่น: ใส่ข้อมูลประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาให้ครบถ้วน
  • เลือกประเภทงานที่ถนัด: เริ่มต้นจากงานที่คุณมีความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้ทำงานได้ดีและมีโอกาสได้รับงานมากขึ้น
  • ตั้งราคาที่เหมาะสม: ศึกษาเรทราคาในตลาด และตั้งราคาที่เหมาะสมกับความสามารถและประสบการณ์ของคุณ
  • ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างมืออาชีพ: ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว และส่งงานตรงตามกำหนดเวลา

ใครที่กำลังเริ่มทำงาน Freelance อยู่ ลองหาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณ หมั่นพัฒตาสกิล และขอให้ประสบความสำเร็จในการหางาน Freelance นะคะ!

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University