ผลสำรวจจาก EY Mobility Consumer Index (MCI) เผย มีผู้บริโภคเกินครึ่งสนใจที่จะซื้อรถ EV มาใช้งาน สว่นใหญ่ยอมจ่ายเงินเพิ่ม ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจ
52% ของผู้ซื้อรถยนต์ทั่วโลกต้องการซื้อรถ EV
ข้อมูลล่าสุดของ EY Mobility Consumer Index (MCI) ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการในการซื้อรถ EV ทั่วโลกสูงถึง 52% และเป็นครั้งแรกที่ความต้องการซื้อรถ EV แตะถึง 50% จากข้อมูลยังพบว่า ในระยะเวลา 2 ปีมานี้มีจำนวนผู้ที่ต้องการซื้อรถ EV เพิ่มขึ้น 22% เลยทีเดียว
จำนวนผู้ที่ต้องการซื้อรถ EV กำลังเพิ่มสูงขึ้น จากการสำรวจของ MCI ที่ได้ติดตามรูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้บริโภคและความตั้งใจในการซื้อตั้งแต่มีการเริ่มต้นการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในปี 2020 ได้ข้อมูลออกมาว่า
ตัวเลขการเดินทางทั่วโลกโดยรวมนั้นลดลงเพราะการแพร่ระบาด แต่จำนวนผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมองเห็นว่ารถยนต์ส่วนบุคคลมีความสำคัญต่อพวกเขาในตอนนี้
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ 52 % ที่ตั้งใจจะซื้อรถบอกว่า สนใจจะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 100% รวมถึงรถ plug-in hybrid และรถยนต์ Hybrid ด้วย
ในการสำรวจจากคนจำนวน 13,000 คนใน 18 ประเทศ ผู้ซื้อรถยนต์ในอิตาลี (73%) จีน (69%) และเกาหลีใต้ (63%) มีความสนใจที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด ส่วนผู้บริโภคในออสเตรเลีย (38%) และสหรัฐอเมริกา (29%) มีความสนใจน้อยกว่า
ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ตอบแบบสอบถามตัดสินใจที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (38%) และการที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานก็ส่งผลกระทบต่อความกังวลของผู้ต้องการซื้อรถยนต์เช่นกัน (34%)
การสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคกว่า 88% เต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และ 35% เต็มใจที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัย 20% ขึ้นไปเพื่อให้สอดคล้องกับผลการสำรวจของ MCI 2021 นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้ใช้รถ EV อีก ดังนี้
- เจ้าของรถ EV ไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับระยะทางที่วิ่งได้หรือที่ชาร์จ EV
- แรงจูงใจอันดับต้น ๆ สำหรับการซื้อ EV มาใช้เป็นคนที่สองคือ รถ EV ในตอนนี้สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น
- 36% ของผู้ที่ไม่มีรถ EV ในปัจจุบันกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ ส่วน 27% ของเจ้าของที่มีรถ EV อยู่แล้วก็มีความกังวลในเรื่องนี้เช่นกัน แต่ถือว่าเป็นตัวเลขที่เล็กน้อย
ด้านผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ปัญหาเก่าของความกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและช่วงระยะทางการวิ่งของ EV จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า เนื่องจากการเดินทางส่วนใหญ่ของผู้คนนั้นค่อนข้างเป็นระยะทางที่สั้น และโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จยังคงเติบโตและคุณภาพของการผลิตแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความกังวลเหล่านี้จะลดลง และเจ้าของรถ EV ก็น่าจะทราบเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ
ที่มา – electrek