in , ,

6 เคล็ดลับ การชาร์จ iPhone อย่างถูกวิธี ป้องกันแบตเสื่อมเร็ว

การชาร์จ iPhone ดูเหมือนจะเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรมาก แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถชาร์จให้ถูกวิธี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุของแบตเตอรี่ได้ มาชมเคล็ดลับกันเลย

6 เคล็ดลับ การชาร์จ iPhone อย่างถูกวิธี ป้องกันแบตเสื่อมเร็ว

1. ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ เราควรเลือกใช้อะแดปเตอร์ แท่นชาร์จ และสายชาร์จที่มีมาตรฐาน ซึ่งสายชาร์จ iPhone นั้นจะมาพร้อมกับในกล่องอยู่แล้ว แต่อะแดปเตอร์หรือแท่นชาร์จที่ต้องเลือกซื้อเอง ก็สามารถเลือกซื้อของ Apple หรือถ้าหากต้องการเลือกซื้อแบรนด์อื่น ๆ ก็ควรตรวจสอบด้วยว่ามีเครื่องหมาย MFi (Made for iPhone) หรือไม่

การที่อุปกรณ์ชาร์จมีเครื่องหมาย MFi นั้นหมายความว่า อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการรับรองจาก Apple เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยกับ iPhone

Apple Mfi Logo Old

2. เปิดการชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่

Apple ได้เพิ่มคุณสมบัติการชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ (Optimized Battery Charging) ใน iOS 13 เป็นต้นมา เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ iPhone จะเรียนรู้การชาร์จประจำวันของเรา และเมื่อชาร์จถึง 80% เครื่องก็จะชาร์จช้าลง เพื่อป้องกันไม่ให้เปลืองรอบการชาร์จและป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ > เปิด การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่

3. ไม่ชาร์จ iPhone ในที่ร้อน

การชาร์จ iPhone ในอุณหภูมิที่สูงเกินไปหรือที่ร้อนเกินไปนั้นส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่โดยตรง Apple ได้แนะนำให้เราชาร์จ iPhone ในอุณหภูมิระหว่าง 0 – 35 องศาเซลเซียส นอกจากนี้หากอุณหภูมิที่ต่ำหรือเย็นเกินไป ก็ส่งผลให้ iPhone ของเราหยุดชาร์จจนกว่าจะกลับเข้าสู่อุณหภูมิปกติ

ถ้าหากเครื่องร้อนเกินไป iPhone ของเราจะปิดตัวเองลงและแจ้งเตือนว่าเครื่องร้อน ให้เรารอจนกว่าอุณหภูมิจะลดลงปกติ แล้วเริ่มชาร์จใหม่อีกครั้ง

4. หลีกเลี่ยงการใช้ iPhone ขณะชาร์จ

หากเรากำลังชาร์จ iPhone อยู่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเล่น iPhone ระหว่างชาร์จ อาจจะใช้งานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเล่นเกม ดูวิดีโอ หรือใช้กราฟิกหนัก ๆ ที่ส่งผลให้เครื่องร้อน

5. อย่าปล่อยให้ iPhone แบตหมด

หากเราใช้งาน iPhone จนเครื่องแบตหมด จะส่งผลให้แบตเตอรี่เสียหายในระยะยาว เนื่องจากจะลดจำนวนรอบการทำงานของแบตเตอรี่ ดังนั้นเมื่อแบตเตอรี่ของเราเหลือน้อย ประมาณ 20%-30% แนะนำให้เราชาร์จทันที

แน่นอนว่าบางครั้ง เราก็เหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้งาน iPhone จนแบตหมด แต่ก็อย่าให้เกิดขึ้นบ่อย เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแบตเตอรี่ ซึ่งเราสามารถตรวจเช็คได้ที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ > ความจุสูงสุด ถ้าหากเหลือน้อยกว่า 80% แนะนำให้ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่

6. ไม่ควรชาร์จ iPhone เมื่อพอร์ตชาร์จมีความชื้น

ถ้าหากพอร์ตชาร์จ iPhone มีของเหลวหรือมีความชื้นหรือพินในพอร์ต Lightning หรือสายอาจถูกกัดกร่อนและทำให้เกิดความเสียหาย เครื่องจะแจ้งเตือนให้เราทราบ

ถ้าหากพอร์ตชาร์จ Lightning เปียก แนะนำว่าห้ามเสียสายชาร์จเข้าไป ควรทำให้แห้งก่อน ดังนี้

  • เคาะ iPhone กับมือเบาๆ โดยคว่ำขั้วต่อ Lightning ลงเพื่อนำของเหลวตกค้างออก วาง iPhone ไว้ในที่แห้งมีอากาศถ่ายเท
  • รออย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะลองชาร์จด้วยสาย Lightning หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม Lightning
  • หากเห็นการแจ้งเตือนอีก แสดงว่ายังมีของเหลวเหลืออยู่ในพอร์ต Lightning หรือภายใต้พินของสาย Lightning วาง iPhone ไว้ในที่แห้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งวัน เราสามารถลองชาร์จหรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม Lightning อีกครั้งในระหว่างนี้ได้ ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงจนกว่าจะแห้งสนิท

สิ่งที่ไม่ควรทำ

  • อย่าทำให้ iPhone แห้งโดยการใช้แหล่งความร้อนภายนอกหรือการฉีดลมใส่
  • อย่าแหย่วัตถุแปลกปลอม เช่น สำลีพันก้านหรือผ้าขนหนู เข้าไปในขั้วต่อ Lightning
  • อย่าใส่ iPhone ลงไปในถุงข้าวสาร การทำเช่นนั้นอาจทำให้เศษข้าวขนาดเล็กสร้างความเสียหายกับ iPhone เพิ่มขึ้นได้

แต่ถ้าหากพอร์ตไม่ได้เปียก แต่เราเห็นการแจ้งเตือนนี้ทุกครั้งที่เชื่อมต่อสายหรืออุปกรณ์เสริม แสดงว่าสายอาจได้รับความเสียหาย อาจจะลองเปลี่ยนสายใช้งาน แต่ถ้าหากเปลี่ยนแล้วยังขึ้นแจ้งเตือนแบบเดิม ก็อาจจะจำเป็นต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับการชาร์จ iPhone เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานมากขึ้น ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ

ที่มา idropnews

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University