บางครั้งเราอาจไม่ทราบว่าพฤติกรรมการใช้งานของเราอาจทำให้แบต iPhone เสื่อมได้ มาชมคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ iPhone แบตเสื่อมไว เพื่อให้แบตใช้งานได้อีกยาว ๆ
6 คำแนะนำ ป้องกันไม่ให้ iPhone แบตเสื่อมไว
1. หลีกเลี่ยงการใช้งานอะแดปเตอร์ชาร์จ / สายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน
เนื่องจากอะแดปเตอร์ชาร์จหรือสายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นอาจจ่ายไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ไม่สม่ำเสมอ และบางตัวอาจไม่มีระบบตัดไฟ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ หรือผู้ใช้งานด้วย
ดังนั้นผู้ใช้ควรเลือกใช้งานอะแดปเตอร์ชาร์จหรือสายชาร์จจาก Apple จะดีที่สุด หรือถ้าหากต้องการใช้งานอะแดปเตอร์ชาร์จหรือสายชาร์จของแบรนด์อื่นให้เลือกอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ MFi (Made For iPhone) จะดีที่สุด
2. ไม่ควรเล่นไป ชาร์จไป
การเล่นไปชาร์จไปส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่โดยตรง เนื่องจากตัวเครื่องจะมีความร้อนทั้งการประมวลผลแอปที่เราใช้งานอยู่รวมไปถึงการชาร์จไฟเข้า iPhone ด้วย
เมื่อแบตเตอรี่เกิดความร้อนสูงมาก ๆ แน่นอนว่าจะส่งผลให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลง
3. ไม่ควรปล่อยให้ iPhone แบตหมด
หากเราใช้ iPhone หรือปล่อยให้ iPhone แบตหมดแล้วเสียบชาร์จบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ได้ เนื่องจากการชาร์จแบตจาก 0% หรือต่ำกว่า 30% ตัวเครื่องจะเร่งการชาร์จทำให้ตัวเครื่องร้อนได้ ซึ่งความร้อนก็ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบต
4. ไม่วาง iPhone ไว้ในสถานที่ที่มีความร้อนสูง
หลีกเลี่ยงการทำให้ iPhone เครื่องร้อน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการไม่วาง iPhone ไว้ในสถานที่ที่มีความร้อนสูง เช่น กลางแดดหรือในรถยนต์ นอกจากตัวเครื่องจะร้อนส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตแล้ว หากร้อนมาก ๆ ตัวเครื่องอาจเสียหายจากความร้อน อาจร้ายแรงถึงตัวเครื่องลุกไหม้เลยก็ได้
5. เปิดฟีเจอร์ การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ (iOS 13 ขึ้นไป)
ใน iOS 13 หรือใหม่กว่า Apple ได้ใส่ฟีเจอร์ “การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่” มาด้วย โดยเปิดใช้งานที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่ > เลื่อนเปิด การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่
ประโยชน์ของฟีเจอร์การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ คือ iPhone จะเรียนรู้จากพฤติกรรมการชาร์จรายวันของเราเพื่อปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่
เช่น ก่อนนอน iPhone ของเราแบตเหลือ 70% แล้วเราก็เสียบสายชาร์จ iPhone เพื่อชาร์จจากนั้น iPhone ก็จะชาร์จไปจนถึง 80% แล้วหยุดการชาร์จไว้
ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของเรา เช่น หากเราชอบหยิบ iPhone ขึ้นมาตอน 7 โมงเช้า, iPhone ก็จะเร่งการชาร์จจาก 80% มาเป็น 100% ก่อนเราจะหยิบ iPhone ขึ้นมา ซึ่งเป็นการรักษารอบการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อถนอมแบตเตอรี่ นั่นเอง
6. อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
Apple มักปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ได้อัปเดตเสมอ นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้วก็มักมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานต่าง ๆ ด้วย ซึ่งรวมถึงการจัดการพลังงานด้วย เพื่อให้ iPhone ใช้งานพลังงานจากแบตเตอรี่ได้มีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำบางส่วนเท่านั้น, ผู้ใช้อย่างเราควรตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่สม่ำเสมอ หากรู้สึกว่าแบตเริ่มเสื่อม เครื่องร้อนไว แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Apple แล้วนำเครื่องไปเปลี่ยนแบต เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยที่สุด