iPhone รุ่นใหม่ 2019 ก็จะเปิดตัวแล้ว แต่สำหรับใครยังตัดใจซื้อเครื่องใหม่ไม่ได้ เพราะเครื่องเก่ายังไม่พังหรือยังใช้งานได้ดีอยู่ ทีมงานมี 7 วิธีช่วยดูแลรักษา iPhone เครื่องเก่าให้ใช้ได้ยาวนานคุ้มค่ามากฝากกันค่ะ
7 วิธีช่วยดูแลรักษา iPhone เครื่องเก่าให้ใช้ได้ยาวนานคุ้มค่า
1. เก็บ iPhone ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม
หลายคนคงทราบดีว่าการวาง iPhone ไว้ในที่ร้อนมีอุณหภูมิสูงจะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพแบตเตอรี่ ทำให้ระยะเวลาการใข้งานสั้นลงอย่างถาวร รวมถึงฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่จะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ และถ้าอุณหภูมิต่ำหรืออากาศเย็นจัดก็จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วชั่วคราวและเครื่องอาจจะปิดทำงานเอง
Apple จึงแนะนำให้เก็บ iPhone ในอุณหภูมิระหว่าง 0º ถึง 35º C และยิ่งประเทศไทยบ้านเราเป็นเมืองร้อน แนะนำว่าหลีกเลี่ยงการทิ้ง iPhone ไว้ในรถยนต์ที่จอดกลางแจ้ง เพราะอุณหภูมิในรถอาจจะสูงขึ้นเกินกว่าที่กำหนด
เพิ่มเติม วิธีป้องกัน iPhone เสียหายจากความร้อน ในช่วงหน้าร้อนนี้
2. เมื่อแบตเสื่อม ให้เปลี่ยนแบตของ Apple เท่านั้น
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้บางคนไปซื้อ iPhone รุ่นใหม่ก็คือแบตเตอรี่ของ iPhone เครื่องเก่าเริ่มเสื่อม หมดไวกว่าปกติ และคิดว่าไม่สามารถแก้ไขได้ แต่การที่แบตเตอรี่เสื่อมนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่ควรจะกังวล เพราะแบตเตอรี่จะต้องเสื่อมตามการใช้งานอยู่แล้ว
ตราบใดที่ฮาร์ดแวร์อื่นๆ ยังคงปกติอยู่และการใช้งานบน iOS ยังคงลื่นไหล เรื่องแบตเสื่อมก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเราสามารถเปลี่ยนแบตใหม่ได้ แต่แนะนำว่าให้นำไปเปลี่ยนที่ Apple Store หรือผู้ให้บริการ AASP เท่านั้น ซึ่งราคาก็ไม่ได้แรงมาก แต่ให้ความความปลอดภัยและแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพอีกด้วย
เพิ่มเติม 4 เหตุผลหลักที่ทำให้แบตเตอรี่ iPhone เสื่อมเร็ว
3. ลบแอปเก่าๆ ออกบ้าง
เมื่อใช้ iPhone มาเป็นระยะเวลานาน เครื่องก็มักจะอัดด้วยแอปมากมาย ซึ่งจะใช้พื้นที่ในเครื่องสำหรับการติดตั้งแอปอยู่แล้ว จึงส่งผลให้ iPhone ทำงานได้อืดและช้าลง ส่ิงที่เราต้องทำก็คือการลบแอปที่ไม่ได้ใช้ออก ซึ่งง่ายมากๆ สำหรับการแตะลบแอป แต่อาจจะยากตรงตอนที่ต้องเลือกว่าจะเอาแอปไหนออก
วิธีง่ายๆ ให้เราใช้ฟีเจอร์เอาแอปที่ไม่ได้ใช้ออก (Offload App) เพื่อจัดการลบแอปที่ไม่จำเป็นกับเราออกไปก่อน จากนั้นเราก็เลือกลบแอปที่ไม่ต้องการด้วยตนเองต่อได้ จะช่วยให้พื้นที่ในเครื่องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น
เพิ่มเติม ตั้งค่าให้ iPhone, iPad มีพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้นใน iOS 12
4. ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บข้อมูลไว้บน Cloud
ผู้ใช้ที่ใช้ iPhone มีความจุน้อยก็อาจจะรู้สึกว่าเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ความจุเริ่มไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งการเก็บรูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ต่างๆ ที่ทำให้พื้นที่ในเครื่องเริ่มจะเต็ม ถึงแม้ว่าเราจะลบแอปที่ไม่ได้ใช้ตามข้อ 3 แล้ว แต่ไฟล์อื่นๆ ก็ยังคงอัดแน่นอยู่ในเครื่อง
วิธีที่จะทำให้คุณสามารถใช้ iPhone เครื่องเดิมแบบประหยัดพื้นที่ในเครื่องได้นั้นก็คือการย้ายข้อมูลไปเก็บไว้บน Cloud ไม่ว่าจะเป็น iCloud, Dropbox, Google Drive, Google Photos หรือผู้ให้บริการอื่นๆ ก็จะช่วยให้พื้นที่ในเครื่องมีเพิ่มขึ้น
ปกติแล้ว Apple จะให้พื้นที่ iCloud ฟรี 5GB เราสามารถเก็บรูปภาพหรือไฟล์อื่นๆ ได้ หากไม่เพียงพอก็สามารถซื้อพื้นที่เพิ่มเริ่มต้นเพียง 35 บาทได้พื้นที่ถึง 50GB หรืออาจจะใช้พื้นที่ของผู้ให้บริการอื่นๆ ก็ได้
5. ป้องกันหน้าจอ ด้วยการใส่เคสกันกระแทกและติดฟิล์มหรือกระจกกันรอย
ปัญหาหน้าจอ iPhone แตกหรือร้าวเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนพบบ่อย เนื่องจากทำเครื่องตก และการเคลมเครื่องกับ Apple นั้นก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการสวมใส่เคสกันกระแทกที่มีคุณภาพดีและจะช่วยป้องกันปัญหาหน้าจอแตกได้ ถึงแม้ว่าเคสจะมีราคาแพงหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าจอแตกแล้วต้องเสียค่าเปลี่ยน
และแนะนำว่าควรติดฟิล์มหรือกระจกป้องกันรอย เพื่อปกป้องรักษาหน้าจอไม่ให้มีรอยขีดข่วนที่อาจจะก่อให้เกิดความรำคาญใจเมื่อพบเห็นว่าหน้าจอเป็นรอย การทัชสรีนไม่ไหลลื่น ดังนั้นการติดฟิล์มหรือกระจกก็จะช่วยป้องกันหน้าจอได้ดี เมื่อฟิล์มหรือกระจกเป็นรอย เราก็ยังสามารถเปลี่ยนชิ้นใหม่ได้ ดีกว่าเห็นรอยที่หน้าจอไปตลอด
6. หมั่นทำความสะอาดตัวเครื่อง
iPhone หรือสมาร์ตโฟนเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเราใช้งานเกือบแทบจะทั้งวัน จับถือแล้วนำมาแนบหูโทรศัพท์อีก สิ่งสกปรกก็จะแพร่กระจายได้ แนะนำว่าให้ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ โดยใช้ผ้านุ่มไม่เป็นขุยชุบกับน้ำอุ่นให้หมาดเช็ดตัวเครื่อง โดยเว้นช่องหรือพอร์ตไว้ หากไม่มีเวลาแนะนำว่าให้ทำความสะอาดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
และเมื่อ iPhone โดนคราบหรือสารเคมีอื่นๆ เราก็ควรจะรีบทำความสะอาดทันที โดยปิดเครื่องและถอดสายที่เชื่อมต่อทั้งหมดออก จากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวเครื่องให้สะอาด ไม่ควรใช้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรืออากาศอัดและไม่ควรใช้ผ้าที่มีความชื้นหรือของแข็งแหย่หรือแคะในพอร์ตหูฟังหรือพอร์ตสำหรับชาร์จ อ่านคำแนะนำของ Apple ได้ที่นี่
7. อัปเดต iOS ทุกครั้ง ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
การปล่อยอัปเดต iOS ทุกครั้งจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นประโยชน์ การแก้ไขข้อผิดพลาดจากเวอร์ชันเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น (เช่น ปรับปรุงเรื่องความเร็วและแบตเตอรี่ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ซึ่งผู้ใช้ได้รับประโยชน์เต็มๆ แน่นอน
หาก iPhone ของคุณเป็นรุ่นที่ยังรองรับ iOS เวอร์ชันใหม่อยู่ แสดงว่าการใช้งานก็ยังคงมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานต่อได้อีกยาวๆ แต่เมื่อไหร่ที่เครื่องของคุณไม่รองรับ iOS เวอร์ชันใหม่แล้ว แสดงว่าถึงเวลาที่อาจจะต้องซื้อ iPhone รุ่นใหม่ที่สามารถรองรับ iOS และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
และนี่ก็เป็นวิธีการดูแล iPhone เครื่องเดิมที่กำลังใช้งานอยู่ให้สามารถใช้ต่อได้ดีอีกยาวนาน สำหรับคนที่ยังไม่มีแผนจะซื้อเครื่องใหม่ แต่ถ้ามีใจอยากได้เครื่องใหม่ก็รอชม iPhone 2019 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Apple Special Event 2019 วันที่ 10 ก.ย. นี้
ขอบคุณ idropnews เรียบเรียงโดย ทีมงาน iPhonemod.net