คงจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับใครที่ซื้อ iPhone XS, XS Max และ XR มาใช้งานเครื่องแรก ซึ่ง Apple ก็ได้แนะนำการตั้งค่าเบื้องต้นตั้งแต่เราเปิดเครื่องมาแล้ว แต่ทีมงานอยากจะแนะนำการตั้งค่าที่สำคัญสำหรับ iPhone เครื่องแรกของคุณเพิ่มเติม เพื่อให้การใช้งานที่สะดวกมากขึ้น
7 ฟีเจอร์สำคัญที่แนะนำให้ตั้งค่า สำหรับ iPhone เครื่องแรก
1. ตั้งค่าโหมดห้ามรบกวน
โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) มาพร้อมกับ iOS 11 ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ในเวลาที่เราประชุม ขับรถ หรือต้องการพักผ่อน และใน iOS 12 ก็ได้เพิ่มโหมดห้ามรบกวนเวลานอนหลับเข้ามา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเวลาการนอนได้ โดยที่ไม่มีเสียงรบกวนจากการแจ้งเตือนจนถึงเวลาตื่นในตอนเช้า
2. จัดการการแจ้งเตือน
เมื่อได้เครื่องมาใหม่ เราก็จะดาวน์โหลดแอปที่ต้องการใช้งานบน App Store ส่วนใหญ่แล้วแอปก็จะมีการแจ้งเตือนบนหน้าจอศูนย์การแจ้งเตือน เราสามารถตั้งค่าปรับเปลี่ยนการแจ้งเตือนให้เหมาะสมได้ เช่น การอนุญาตการแจ้งเตือน การเตือนในหน้าจอต่างๆ เสียง ป้ายกำกับ การแจ้งเตือนแบบกลุ่ม เป็นต้น
ไปที่การตั้งค่า (Settings) > การแจ้งเตือน (Notifications) > เลือกแอปที่ต้องการตั้งค่า > ตั้งค่าการแจ้งเตือนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถตั้งค่าไม่ให้แสดงรายละเอียดตอนพรีวิวได้ ชมวิธีที่นี่
3. ใช้ Face ID และเพิ่มสแกนใบหน้าที่ 2
ใน iPhone ตระกูล X ที่มีกล้องหน้า TrueDepth เราสามารถสแกนปลดล็อคเครื่องด้วย Face ID ได้ ปลดล็อคเครื่องได้รวดเร็วกว่าการใส่รหัส ซึ่งการตั้งค่า Face ID อยู่ในการตั้งค่าพื้นฐานตั้งแต่เราเริ่มต้นใช้งาน iPhone อยู่แล้ว
แต่ Apple ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์การตั้งค่ารูปลักษณ์อีกแบบ (Set Up an Alternate Appearance) เพื่อให้เราเพิ่มการสแกนใบหน้าที่ 2 ได้ คุณอาจจะเพิ่มใบหน้าของคนสนิทอีกคนที่สามารถเข้าถึงเครื่องคุณได้ หรือจะเพิ่มใบหน้าตนเองเข้าไปอีก เพื่อการจดจำใบหน้าที่ดีขึ้นส่งผลให้ปลดล็อคด้วยใบหน้าทำได้ง่ายขึ้น
ไปที่การตั้งค่า (Settings) > Face ID และรหัส (Face ID & Passcode) > กรอกรหัสผ่านเครื่อง > ตั้งค่ารูปลักษณ์อีกแบบ (Set Up an Alternate Appearance) และเริ่มสแกนใบหน้าได้เลย
4. ตั้งค่า Control Center
ตั้งแต่ iOS 11 ได้มีการปรับศูนย์ควบคุม (Contral Center) ใหม่ที่รวมเอาเมนูที่จำเป็นมาแสดงให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการทำงานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้เองก็สามารถตั้งค่าเมนูใน Control Center ให้เหมาะกับและง่ายกับการใช้งานของตนเองอีกด้วย
ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แตะ ศูนย์ควบคุม (Control Center) > แตะที่ กำหนดแถบควบคุมเอง (Customize Controls) > เลือกเครื่องมือที่ต้องการโดยเลือกไอคอน + และลบเครื่องมือที่ไม่ต้องการให้แสดงใน Control Center โดยแตะที่ไอคอน –
เมื่อตั้งค่าปรับแต่ง Control Center แล้ว คุณก็สามารถปัดหน้าจอจากมุมบนขวาลงมา (สำหรับ iPhone X, XS, XS Max, XR) แล้วก็จัดการกับเมนูที่ต้องการได้เลย
5. เชื่อมต่ออีเมลที่ใช้งาน
เราจะต้องใช้อีเมลในการรับหรือส่งข้อมูลในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ซึ่งใน iPhone ก็มีประเภทบัญชีอีเมลหลากหลายบัญชีที่คุณสามารถเข้าไปลงชื่อเข้าใช้งานได้ เช่น Outlook, Gmail, iCloud เป็นต้น โดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเสริม ชมวิธีการจัดการอีเมลบน iPhone ที่นี่
ภายในแอปเมล (Mail) ยังมีการแบ่งตามประเภทบัญชีที่ให้คุณจัดการอีเมลได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่ารวมทุกบัญชีไว้ในที่เดียว แต่สามารถเรียกดูและจัดการได้สะดวก
6. ปรับความสว่างของหน้าจอ
แน่นอนว่าเราอยู่ในหลากหลายสถานการณ์ที่มีแสงแตกต่างกัน บางครั้งก็อยู่ในที่มืดและบางครั้งก็อยู่ในที่สว่าง ซึ่งใน iOS ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยปรับความสว่างอัตโนมัติ (Auto-Brightness) โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปปรับเอง และการปรับระดับแสงให้เหมาะสมการใช้งานอยู่ตลอดเวลาจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้อีกด้วย ชมวิธีเปิดการปรับความสว่างอัตโนมัติ
แต่ถ้าคุณไม่ได้เปิดฟีเจอร์ปรับความสว่างอัตโนมัติ ก็สามารถปรับความสว่างหน้าจอได้ด้วยตนเองง่ายๆ ที่ Control Center และเวลาที่เล่นโทรศัพท์ในที่มืดหรือแสงไม่เพียงพอ เราก็สามารถเปิดโหมด True Tone หรือ Night Shift เพื่อความรู้สึกที่สบายตามากขึ้น
7. การถ่ายภาพหน้าจอ
iPhone แต่ละรุ่นมีทริคการกดปุ่มเพื่อถ่ายภาพหน้าจอไม่เหมือนกัน ซึ่งใน iPhone X, XS, XS Max, XR จะใช้วิธีการกดปุ่มด้านข้าง (Power) และปุ่มเพิ่มเสียงพร้อมกัน เพื่อแคปหน้าจอ ส่วน iPhone รุ่นที่เก่ากว่าก็ใช้วิธีการกดปุ่ม Home และปุ่มด้านข้าง (Power)
แต่บางคนก็รู้สึกว่าการกดปุ่มนั้นยังไม่สะดวกมากพอ คุณก็อาจจะใช้ Assistive Touch เข้ามาช่วย โดยการตั้งค่าให้เมนูการถ่ายภาพหน้าจออยู่ในการกระทำของปุ่ม Assistive Touch เช่น การแตะปุ่ม Assistive Touch ค้างไว้, การแตะปุ่ม Assistive Touch ติดกัน 2 ครั้ง หรือจะเพิ่มเมนูการถ่ายภาพหน้าจอไว้เป็นเมนูด้านบนสุด
ขอบคุณ idropnews