Apple และตัวแทนจำหน่ายได้เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า iPad Air 5 (รุ่น Wi-Fi) แล้ว สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ iPad Air 5 (รุ่น Wi-Fi) ดีหรือไม่ ทีมงานมี 8 ข้อควรรู้ก่อนซื้อ และฟีเจอร์เด่น ๆ มาแนะนำค่ะ
8 ข้อควรรู้! ก่อนซื้อ iPad Air 5
1. ชิป Apple M1
ชิป M1 ที่ใช้ใน iPad Air 5 เป็นชิปที่ใช้ตัวเดียวกันกับ iPad Pro (2021) ซึ่งมาพร้อม CPU แบบ 8‑core มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น
iPad Air 5 ตัวล่าสุดมาพร้อม RAM 8GB ซึ่งเป็นการอัปเกรด RAM จาก iPad Air 4 ที่ใช้ RAM 4GB และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่ Apple ใส่ชิป M1 เข้ามาใน iPad Air 5 เพื่อช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง
2. กล้องหน้าอัปเกรด
iPad Air 5 ตัวล่าสุด (2022) ได้อัปเกรดกล้องหน้าเป็นเลนส์ Ultra Wide 12MP และมาพร้อมฟีเจอร์ Center Stage ด้วย ที่จะช่วยให้คนอยู่กลางเฟรมเสมอ เพราะกล้องจะเคลื่อนตามตัวคนอัตโนมัติ เมื่อเวลามีคนเข้า-ออกจากเฟรม ภาพจะขยายออกหรือซูมเข้าให้เอง เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานเวลาวิดีโอคอ, พรีเซนต์งาน หรือการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการตกเฟรมได้ดีมาก ๆ เลย
3. หน้าจอ Liquid Retina 10.9”
iPad Air 5 มาพร้อมดีไซน์เดิม จอเต็มขอบ ไร้ปุ่มโฮม ซึ่งหน้าจอจะเป็นแบบ Liquid Retina 10.9″ ช่วยเรื่องการแสดงผลหน้าจอได้คมชัดด้วยความสว่างสูงสุด 500 นิต จอแสดงผลแบบ True Tone เวลาที่ต้องใช้งานหน้าจอนาน ๆ จะช่วยให้สบายตามากขึ้น และมาพร้อมการแสดงผลขอบเขตสีกว้างแบบ P3
นอกจากนี้การยืนยันตัวตนจะเป็นแบบ Touch ID ที่ปุ่มด้านบนเหมือนเดิม และท่ีสำคัญหน้าจอของตัว iPad Air 5 ไม่มี ProMotion 120Hz ซึ่งจอ ProMotion 120Hz จะแค่ในรุ่น iPad Pro เท่านั้น
4. เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว
ใน iPad Air 5 มีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วด้วยการรองรับ Wi-Fi 6 ทำให้ดาวน์โหลดไฟล์ได้รวดเร็วหรือดูรายการกับเพื่อน ๆ โดยใช้ SharePlay ได้แบบลื่นไหลเลย มาพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 และในรุ่นเซลลูลาร์ก็ยังรองรับ 5G ด้วย
5. มาพร้อม 4 สีใหม่
iPad Air 5 ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดนั้นมาพร้อมสีใหม่ 5 สีด้วยกัน ได้แก่ สีสเปซเกรย์, สีสตาร์ไลท์, สีชมพู, สีม่วง และสีฟ้า ซึ่งดูแล้วหมวดสีจะค่อนข้างคล้ายกับ iPad mini 6 เลย ซึ่ง Apple อาจจะตั้งใจจัดกลุ่มสีของ iPad Air 5 และ iPad mini 6 ให้อยู่ในโทนเดียวกัน เพราะเป็น iPad ที่อยู่ในระดับกลางเหมือนกันก็เป็นได้
สำหรับสีใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน iPad Air 5 ก็คือ สีสตาร์ไลท์, สีชมพู, สีม่วง และสีฟ้า เมื่อเทียบสีใหม่กับ iPad Air 4 รุ่นเดิมที่มี 4 สี คือ สีสเปซเกรย์, สีเงิน, สีโรสโกลด์, สีสกายบลู และสีเขียว แล้วนั้นในตัว iPad Air 5 รุ่นล่าสุด จะมีสีที่ค่อนข้างเข้มกว่านั่นเอง
6. พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 3.1
iPad Air 5 มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 3.1 ที่เร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วสูงสุด 10 Gbps และสามารถรองรับการส่งภาพไปหน้าจอเสริมได้ด้วยความละเอียดสูงสุด 6K เลย
7. รองรับอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย
iPad Air 5 สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมและรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายมากก็คือ Apple Pencil รุ่นที่ 2, Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio
8. มีให้เลือก 2 ความจุ
สำหรับ iPad Air 5 ตัวล่าสุด (2022) นั้นมีให้เลือก 2 ความจุเหมือนเดิมก็คือ รุ่นความจุ 64GB รุ่น Wi-Fi ขายในราคา 20,900 บาท และรุ่นความจุ 256GB รุ่น Wi-Fi ขายในราคา 25,900 บาท
และที่สำคัญ iPad Air 5 ตัวล่าสุด (2022) สามารถใช้งานร่วมกับ iPadOS ใหม่ ๆ ได้ด้วย และนี่ก็เป็น 8 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ iPad Air 5 สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจซื้อก็ลองพิจารณากันดูนะคะ ซึ่ง Apple ก็ได้เปิดให้สั่งซื้อ iPad Air 5 ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2022 เฉพาะรุ่น Wi-Fi เท่านั้น สามารถกดสั่งซื้อล่วงหน้าได้ทาง Apple Store Online เลย