in ,

9 ทริค ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPad ลดปัญหาแบตไหล

สำหรับผู้ใช้ iPad ที่ใช้งานแล้วอาจจะรู้สึกว่าเครื่องแบตหมดเร็วหรืออยู่ในช่วงที่แบตเหลือน้อยแล้วเราต้องใช้งานต่อ โดยไม่สะดวกชาร์จ ทีมงานมี 9 ทริคที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPad มาแนะนำให้ชมกันค่ะ

9 ทริค ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPad ลดปัญหาแบตไหล

1. เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน

โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) เป็นฟีเจอร์ที่สามารถช่วยประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น เนื่องจากฟีเจอร์นี้จะช่วยลดกิจกรรมที่อยู่เบื้องหลังชั่วคราว เช่น การดาวน์โหลดและการดึงข้อมูลอีเมล จึงช่วยให้เราใช้งานเครื่องได้ยาวนานขึ้น

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > เปิด โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode)

นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานในส่วนของ Control Center ได้อีกด้วย ทำให้การเปิดโหมดนี้สะดวกมากขึ้น (หากใครไม่พบเมนูนี้ ต้องตั้งค่าเพิ่มเมนูโหมดประหยัดพลังงานใน Control Center ให้เรียบร้อยก่อน)

เมื่อเราเปิดโหมดประหยัดพลังงานแล้ว เราก็จะสามารถทำงานต่าง ๆ บน iPad ได้ยาวนานขึ้น หากนำเครื่องไปชาร์จจนแบตเตอรี่เต็มแล้ว โหมดนี้ก็จะปิดเองอัตโนมัติ

2. ตั้งค่าการดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง

ถึงแม้ว่าโหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดกิจกรรมที่อยู่เบื้องหลังบางอย่างแล้ว แต่ก็ไม่ได้หยุดการดึงข้อมูลเบื้องหลังทั้งหมด และแม้ว่าเราใช้งาน iPad แค่ไม่กี่แอป แต่บางแอปที่ไม่ได้เปิดใช้ก็ยังคงทำงานหรือดึงข้อมูลเบื้องหลังอยู่ในขณะที่เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือใช้เซลลูลาร์ เพื่อให้ข้อมูลอัปเดตใหม่อยู่เสมอ

ซึ่งหากแบตเตอรี่เหลือน้อยมาก เราสามารถตั้งค่าปิดการดึงข้อมูลแอปเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นได้ เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh)

เลือกปิด ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) สำหรับแอปที่ต้องการ

3. จำกัดเฟรมเรทเป็น 60 FPS

สำหรับทริคนี้จะใช้งานได้กับ iPad Pro รุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติหน้าจอ ProMotion เท่านั้น คุณสมบัตินี้ทำให้เราสามารถใช้งานหน้าจอด้วยอัตราการรีเฟรช 120Hz ได้ ส่งผลต่อการเลื่อนที่ไหลลื่น การเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การตอบสนอง Apple Pencil ที่แม่นยำ รวมถึงการแตะสัมผัสที่รวดเร็ว

แต่คุณสมบัตินี้ก็ใช้พลังงานแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะ หากเราไม่ได้ใช้แอปวาดรูป เล่นเกม หรือแอปที่ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก็สามารถตั้งค่าจำกัดเฟรมเรทให้เป็น 60 FPS ได้ ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ขึ้นอีก

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) > การเคลื่อนไหว (Motion) > เปิด จำกัดอัตราเฟรม (Limit Frame Rate)

ส่วน iPad ที่ไม่มีคุณสมบัติ ProMotion ก็สามารถตั้งค่าลดการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานได้เช่นกัน แต่ภาพการเคลื่อนไหวก็จะไม่สมูทเหมือนเดิมแล้วนะ

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) > การเคลื่อนไหว (Motion)

เปิด ลดการเคลื่อนไหว (Reduce Motion)

4. ถอด Apple Pencil ออกจาก iPad

สำหรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เรามักจะเก็บง่าย ๆ ด้วยการวางด้านบน iPad ที่ยึดด้วยแม่เหล็ก ถ้าหาก Apple Pencil แบตเหลือน้อยก็จะทำการการชาร์จทันที ถ้าหากเราไม่ได้ใช้งาน Apple Pencil ในช่วงเวลานั้น พร้อมกับต้องการยืดระยะเวลาการใช้งานของ iPad ก็ให้ถอด Apple Pencil ออกจาก iPad เพื่อหยุดการชาร์จนั่นเอง

5. ปิดใช้งาน Handoff

ฟีเจอร์​ Handoff เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งานระหว่างอุปกรณ์สะดวกมากขึ้น เช่น เรามี iPhone และ iPad ขณะที่เรากำลังอ่านบทความในเว็บไซต์อยู่บน iPhone แล้วต้องการย้ายไปอ่านบน iPad เราก็สามารถย้ายไปแตะเปิดแอปเว็บบราวเซอร์บน iPad ที่ระบุว่ามาจาก iPhone เพื่ออ่านต่อได้เลย สะดวกมาก ๆ

แต่การใช้งาน Handoff ก็อาจจะทำให้เป็นการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่อยู่ไม่น้อย สำหรับใครที่มีอุปกรณ์เดียวหรือแยกใช้งานแต่ละอุปกรณ์อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซิงค์การใช้งานร่วมกัน ก็สามารถปิดใช้งาน Handoff ได้

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > AirPlay และ Handoff (AirPlay & Handoff)

ปิด Handoff

6. ปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

การใช้งานแอปบน iPad อาจมีบางแอปที่ใช้บริการตำแหน่งที่ตั้งเพื่อเรียนรู้วตำแหน่งที่ตั้งของเรา อาจจะมีประโยชน์สำหรับแอปที่ใช้นำทาง แอปสั่งอาหาร แอปแจ้งเตือนกล้องจับความเร็ว เป็นต้น แต่สำหรับบางแอปนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลา เราก็สามารถตั้งค่าปิดได้ ก็จะช่วยลดการใช้พลังงานในเครื่องได้

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > บริการตำแหน่งที่ตั้ง (Location Service)

เลือกแอปที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้ง

แล้วเลือกเป็น ไม่เลย (Never) หรือ ในระหว่างใช้แอป (While Using)

7. อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ

บางครั้งการที่แบตเตอรี่หมดไวผิดปกติก็อาจจะมีส่วนมาจากปัญหาของซอฟต์แวร์ iPadOS ทางที่ดีเราควรจะเช็คก่อนว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานนั้นเป็น iPadOS เวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือยัง ถ้ายังแนะนำให้อัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์นั้น จะเป็นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น

เช็ครายการอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)

หากยังไม่ได้อัปเดตเวอร์ชันล่าสุด ก็สามารถอัปเดตได้เลย

8. รีเซ็ต iPad เมื่อรู้สึกว่าแบตไหลผิดปกติ

ถ้าหากเราใช้งาน iPad แล้วรู้สึกว่าแบตไหลหรือแบตหมดไวแบบผิดปกติ เช่น ไม่ค่อยได้ใช้งานแอป แบตก็ลดลงเหลือ 50% ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เราอาจจะต้องใช้วิธีการรีเซ็ตการตั้งค่า หรือถ้าหากไม่ได้ผลก็อาจจะต้องใช้วิธีลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด (วิธีนี้ข้อมูลจะหายทั้งหมด แนะนำให้สำรองข้อมูลก่อนการลบเนื้อหา)

การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPad (Transfer or Reset iPad)

ถ้าต้องการรีเซ็ตการตั้งค่าก็เลือก รีเซ็ต (Reset) > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด

แต่ถ้าหากต้องการลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด ก็เลือกลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด (Erase All Content and Settings) แล้วทำตามขั้นตอนได้เลย (อย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนลบนะ เพราะถ้าหากลบแล้ว ข้อมูลจะหายทั้งหมด)

9. ติดต่อ Apple Support

หากลองทำด้วยวิธีทั้งหมดแล้ว แบตเตอรี่ iPad ยังคงหมดไวผิดปกติ แนะนำให้เราลองปรึกษากับฝ่ายสนับสนุนของ Apple (Apple Support) ดู อาจจะติดต่อผ่านแอป Apple Support หรือหน้าร้าน Apple Store เพื่อให้ฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาหรือช่วยค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น

ถ้าพบว่าแบตเตอรี่ iPad เก็บประจุได้น้อยกว่า 80% และเครื่องยังอยู่ภายใต้ประกันก็จะเปลี่ยนได้ฟรี แต่ถ้าหากเครื่องหมดประกันแล้ว เราจะต้องชำระเงินค่าแบตเตอรี่ (ปัจจุบันอยู่ที่ 3,300 บาท)

โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับ iPad นั้นทาง Apple จะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ (Replacement Unit) แทน โดยจะไม่เปลี่ยนเฉพาะแบตก้อนเดี่ยว ๆ เหมือนกับ iPhone

ทั้งหมดนี้ก็เป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับผู้ใช้ iPad ที่อยากจะประหยัดแบตเตอรี่หรือพบปัญหาแบตเตอรี่หมดไว ก็ลองนำไปตั้งค่าและทำกันดูนะคะ

ที่มา iDropNews

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University