Kasikorn Business-Technology Group หรือ KBTG กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในชื่อ KADE (เกด) ที่ย่อมาจาก K PLUS AI-Driven Experience ซึ่งหากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนช่วยในการทำงานทำให้ระบบมีความฉลาดในการให้บริการมากขึ้นพร้อมต่อยอดมาใช้กับแอป K PLUS ที่เป็นอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งของกสิกรไทยภายในปี 2561 นี้
กสิกรไทยเปิดตัว KADE (เกด) ระบบ AI ผู้ช่วยสำหรับแอป K PLUS คู่หูอัจฉริยะที่ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น
รู้จักกับ “เกด”
KADE: K PLUS AI-Driven Experience ประสบการณ์ใหม่ของบริการทางการเงินแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI
ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดจากการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไปสู่โลกของบริการทางการเงินอันชาญฉลาดเป็นครั้งแรกของสถาบันการเงินในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “From Digital to Intelligence” ที่เป็นการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ลูกค้ารู้สึกเสมือนมีคู่หูอัจฉริยะคอยช่วยคิดและนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ตรงใจอยู่เสมอในทุกที่ทุกเวลา
โดยเกดสามารถเรียนรู้รูปแบบการใช้ชีวิต (Life Style) ของลูกค้า ตลอดจนความต้องการทางการเงินทั้งในด้านธุรกิจและชีวิตส่วนตัว และทำหน้าที่เป็นคู่หูผู้รู้ใจคอยเติมเต็มชีวิตทางการเงินของลูกค้า เช่นเตือนให้ลูกค้าไม่ลืมที่จะทำธุรกรรมที่จำเป็น ช่วยนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่าน ที่มีความ “ถูกใจ ทุกที่ ทุกเวลา” นอกจากนั้นยังสามารถแนะนำการใช้จ่ายและการลงทุนที่จะเพิ่มศักยภาพทางการเงินและโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าในขั้นสุดได้อีกด้วย
KADE จะให้ประโยชน์อย่างไร
ในปัจจุบัน KADE ได้ถูกนำมาใช้งานจริงแล้วในแง่ของการช่วยพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อให้แก่บุคคล โดยระบบ AI ของ KADE นั้นจะเก็บข้อมูลการใช้บริการและทำธุรกรรมของลูกค้าของธนาคาร (ผู้ขอกู้) และเสนอสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ให้แก่ลูกค้าที่คาดว่าจะมีความต้องการ หากลูกค้าตอบรับสามารถรับเงินได้ภายใน 1 นาที ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการเงินส่วนนั้นไปลงทุนหรือทำอะไรในส่วนที่ต้องการสามารถดำเนินการได้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
หัวใจหลักของ KADE คือการเรียนรู้และเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อนำไปวิเคราะห์จากนั้นจะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาแจ้งเรา แนะนำเราเหมือนประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนคู่หูที่รู้ใจคอยให้คำปรึกษาด้านการเงินของเราได้เลย
ประโยชน์ที่จะได้จาก KADE ในแง่ของผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ใช้ทั่วไปก็เช่น
- ลดต้นทุนการตลาด
- ลดต้นทุนทางธุรกิจ
- ขยายกิจการได้ง่าย
- รู้จักลูกค้าอย่างดีมีบริการที่ตรงใจ
- จับคู่ธุรกิจ
- ชีวิตสะดวก สบาย รวดเร็ว
- คอยเตือนกันลืม
- แนะนำการใช้ชีวิตและการลงทุน
ทีมพัฒนามากกว่า 40 คน
KBTG แจ้งว่าตอนนี้มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลระบบนี้แล้วมากกว่า 40 คน โดยตั้งเป้าว่าจะต้องมีมากกว่า 100 คน เพื่อพัฒนาระบบ KADE ให้ดีและครบคลุมมากกว่าขึ้นเดิม และภายใน 5 ปีจากนี้ทางกสิกรไทยได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะให้มีผู้ใช้งานแอป K PLUS มากกว่า 20 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 8 ล้านราย โดยเชื่อว่า KADE จะมาเป็นตัวเปลี่ยนเกม (Game Changer) ที่จะทำให้ระบบดิจิทัลแบงกิ้งของกสิกรไทยก้าวไปอยู่แนวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
KADE บน K PLUS พร้อมให้ใช้งานภายในปี 2561 นี้
K PLUS คือแอปสำหรับการทำดิจิทัลแบงกิ้งบนมือถือ ณ ตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านคนในประเทศไทย แอปนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินไม่ว่าจะ เช็คยอดเงิน โอนซื้อ ซื้อขายสินค้า
ทั้งนี้ทาง KBTG กำลังพัฒนาโดยการนำ KADE เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ K PLUS ซึ่งทางผู้พัฒนายังไม่สามารถบอกได้ว่าหน้าตาจะเป็นยังไงและฟังก์ชันจะเป็นในแนวไหนเนื่องจากยังอยู่ในช่วงการพัฒนาและเป็นความลับอยู่ แต่ที่บอกได้คือ KADE จะช่วยให้การใช้งาน K PLUS ที่ง่ายอยู่แล้ว ให้มีความง่ายและสะดวก สมาร์ตมากขึ้นไปอีก พร้อมทั้งบอกว่าฟีเจอร์นี้จะได้สัมผัสใช้งานกันจริงภายในปี 2561 นี้อย่างแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม KBTG