หลายคนถามผมว่า (กรุณานึกหน้าพี่โคมประการัง) “มันดียังไง?” ผมอยากจะบอกว่าเท่าที่สำรวจด้วยสายตามาดูเหมือนในประเทศไทยนั้นเห็นจะมีคนใช้น้อยมาก ๆ ยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นแล้วยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะความเขิลอายที่มันดูค่อนข้างประหลาด และแปลกกว่าชาวบ้าน (ทีเอา BB มาคล้องคอล่ะไม่อาย – -*) แต่ผมว่ามันก็เท่ห์ดีนะ ดูเหมือนยุ่ง ๆ ตลอดเวลาด้วย ดูเหมือนว่าหูฟังบลูทูธนั้นจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ เพราะตามภาษาคนไทยคืออะไรที่ชาวบ้านเขาไม่ใช้กันเราจะไม่ค่อยกล้าใช้ ยกตัวอย่างเช่น โรลเลอร์เบรด สเก็ตบอร์ด หรือแม้กระทั่งฟิคเกียร์ เพื่อนที่ผมรู้จักไม่เห็นมีใครเล่นด้วยตัวเองเลย ส่วนใหญ่จะเล่นตามเพื่อนสนิท หรือกลุ่มเพื่อนตัวเองเท่านั้น เอาล่ะครับ ต่อนะครับ … ลองย้อนกลับไปหลาย ๆ ปีเลย ซัก 5-10 ปีที่แล้ว เรามักจะเห็นในหนังฝรั่งหลาย ๆ เรื่องที่มีคนใช้หูฟังบลูทูธอยู่ แล้วรู้สึกว่ามันเท่ห์เอาเหลือเกิน ^3^
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีของหูฟังบลูทูธเปลี่ยนไปมากครับ เสียงชัดเจนกว่าเดิม แบตฯ อยู่ได้นานกว่าเดิม น้ำหนักเบากว่าเดิม และที่สำคัญ ถูกกว่าเดิม !!! (อันนี้สำคัญที่สุด อิอิ…) โดยในวันนี้จะเป็นรีวิวหูฟังบลูทูธซึ่งผมไม่ได้จับมานานมาก ๆ แล้ว ความทรงจำครั้งสุดท้ายเคยจับของ Nokia มานานแล้ว และก็ไม่ค่อยประทับใจเสียด้วย เพราะเสียงคู่สนทนาจะไม่ค่อยได้ยิน ต้องแหกปากเสียจนเหนื่อย = =”
หูฟังตัว BLUETREK Carbon นั้นค่อนข้างจะพิเศษกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อคือตัวนี้ถูกออกแบบมาพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้งานกับ iPhone ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังสามารถใช้ร่วมกับรุ่นอื่นได้อยู่ โดยความพิเศษอย่างที่ว่าก็คือ เมื่อใช้กับ iPhone แล้วจะมีสัญลักษณ์ขึ้นบนหน้าจอ iPhone โดยอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าหรือลงโปรแกรมอะไรพิเศษเลย ทำให้รู้ได้ว่าตัวหูฟังบลูทูธของเรานั้นแบตฯ ใกล้หมดหรือยัง? ซึ่งเมื่อเทียบกับตัว Bluetrek Music and Call (หูฟังที่เน้นฟังเพลงมากกว่าคุย) ที่ผมเคยรีวิวไปแล้วจะไม่มีครับ อีกทั้งตัว BLUETREK Carbon ยังยืนยันมาว่าของเราคุยต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงครึ่งเชียวนะ !!!
รายละเอียดต่าง ๆ ยิบ ๆ ย่อย ๆ ล้วนมีบอกอยู่ในด้านหลังกล่อง เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องถามพนักงานขายเลยทีเดียว จากที่ดูนั้นพบว่าน้ำหนักนั้นเบาเหลือเชื่อเลยทีเดียว (ดูได้บนกล่อง) หากเปิดรอรับสายอย่างเดียวสามารถเหน็บหูไว้เฉย ๆ ได้ถึง 5 วัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตฯ เท่านั้นยังไม่พอตัว BLUETREK Carbon นั้นยังเป็นหูฟังบลูทูธตัวแรกในโลกที่ผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา เสียงชัดใส
แกะกล่องด้านในแพคเกจทำมาอย่างดีครับ แข็งแรงและน่าใช้งานมาก ๆ เลย มีการแบ่งเป็นสัดส่วน จนไม่กล้าทิ้งกล่องเลย >,< ตัวหูฟังบลูทูธนั้นเป็นวัสดุคุณภาพสูงมาก ๆ นอกจากจะทำจากคาร์บอนไฟเบอร์แล้วภายในประกอบด้วยเทคโนโลยีการปรับปรุงเสียงที่ก้าวล้ำ Noise Lock™ สำหรับการขจัดเสียงรบกวน เสียงลม และเสียงสะท้อน เพื่อให้เสียงสนทนาชัดใสทั้งในส่วนของผู้โทรและผู้รับสาย เช่นเดียวกับตัว Bluetrek Music and Call
สำหรับคนที่ไม่รู้อย่าพึ่งทิ้งกล่องเพราะ ๆ ๆ ๆ … ด้านหลังมีคู่มืออยู่นะครับ ต้องพลิกกล่องดู
ฟีเจอร์ของ BLUETREK Carbon
- น้ำหนักเบามาก เพียง 5.9 กรัม
- เชื่อมต่อได้รวดเร็วสูงสุด
- รองรับบลูทูธ 3.0 เชื่อมต่อได้รวดเร็วกว่าบลูทูธ 2.1 ถึง 8 เท่า ทำให้ไม่พลาดการติดต่อ
- ด้วยการปิดเครื่อง Carbon เมื่อไม่ได้ใช้งานและเปิดเครื่องเฉพาะเมื่อมีสายเรียกเข้าเท่านั้น
- สวิตช์เปิด/ปิด
- เปิด/ปิดชุดหูฟังได้อย่างง่ายดาย ไม่มีปัญหาเรื่องการโทรออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
- แจ้งเตือนด้วยเสียงพูด 3 ภาษา : อังกฤษ สเปน และจีนกลาง
- แจ้งเตือนเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ เช่น เชื่อมต่อ/ตัดการเชื่อมต่อ, ปฏิเสธการรับสาย, โทรซ้ำเลขหมายโทร, ออกล่าสุด, แบตเตอรี่เหลือน้อย, ปิด/เปิดเสียง ฯลฯ
- เทคโนโลยี Multipoint: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาที่รองรับบลูทูธ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน
- จับคู่อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
- ไม่ต้องใช้รหัส PIN สำหรับอุปกรณ์พกพารุ่นล่าสุด
- สถานะแบตเตอรี่บน iPhone
- มิเตอร์แบตเตอรี่แสดงแถบสถานะของ iPhone™ โดยอัตโนมัติ
- ไฟสัญญาณสองสี (ฟ้าและแดง):
- แสดงสถานะการชาร์จไฟ, ยุติการชาร์จ, แบตเตอรี่เหลือน้อย, สแตนด์บายและสื่อสาร
- คลิปที่ถอดออกได้: พกพาชุดหูฟังติดตัวไว้อยู่เสมอใช้งานได้สะดวกง่ายดาย
- ไม่ต้องใช้ที่เกี่ยวหู: มีจุกหูฟังให้เลือกใช้ 4 ขนาด เพื่อให้สวมใส่ได้พอดีกับหูของคุณ สะดวกสบายแม้กระทั่งในกรณีที่สวมใส่แว่นตา
- VoIP: สนับสนุนคอมพิวเตอร์ที่รองรับบลูทูธสำหรับโทรศัพท์ VoIP เช่น Skype
- ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ
- เพิ่มระดับเสียง, ลดระดับเสียง, ปิดเสียง, ยกเลิกการปิดเสียง, โอนสายระหว่างโทรศัพท์และชุดหูฟัง, รอสาย, ปฏิเสธการรับสาย*, โทรซ้ำเลขหมายโทรออกล่าสุด*, รีเซ็ต ฯลฯ
*ฟีเจอร์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือของคุณ ฯลฯ
ราคาเปิดตัว : 2,150.- (VAT included)
ด้านหลังนั้นเป็นคู่มือเสียบอยู่แบบนี้ครับ ;D
ข้อมูลทางคุณลักษณะเฉพาะ
- เวลาสนทนา: สูงสุด 4.5 ชั่วโมง
- เวลาสแตนด์บาย: สูงสุด 5 วัน
- น้ำหนัก: 5.9 กรัม (0.27 ออนซ์)
- ขนาด (ยาว x กว้าง x สูง): 74 x 19 x 20 มม. (2.9 x 0.74 x 0.78 นิ้ว) (เส้นผ่าศูนย์กลางท่อคาร์บอนไฟเบอร์คือ 55 มม.)
- ข้อกำหนดบลูทูธ: V3.0, เข้ากันได้กับรุ่นก่อนหน้า
- เทคโนโลยีขจัดเสียงรบกวน NoiseLock™
- เทคโนโลยี Multipoint
- สั่งงานด้วยเสียง 3 ภาษา: อังกฤษ, สเปน และจีนกลาง
ขนาดของจุกยางมีให้เลือกทั้งหมด 4 ขนาดครับ สามารถเลือกได้ตามขนาดหูของผู้ใช้งาน (งานนี้ใครหูใหญ่หรือหูกางก็ไม่ใช่ปัญหา ^^) โดยจุกยางชิ้นนี้สามารถล็อคให้อยู่กับหูเราได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องเกี่ยวหู ซึ่งสำหรับคนที่สวมแว่นแล้วน่าจะชอบกันมากกว่า -3-
คลิปสำหรับหนีบตัวหูฟังบลูทูธครับ สามารถถอดเก็บได้ หรือจะใช้เหน็บเสื้อก็ได้ แต่ผมว่าเสียบหูคาไว้แหล่ะดีที่สุด เพราะมันเบามาก ๆ จนแทบไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว
ตัวคลิปสำหรับเกี่ยวหูซึ่งความรู้สึกส่วนตัวของผม ๆ ชอบอันนี้มากกว่าเพราะมันดูแข็งแรงและมั่นคงดี
ตัวหูฟังที่ว่ามีน้ำหนักเบาสุด ๆ เบามาก ๆ ใส่แล้วแทบไม่รู้สึกเลย ก้านไมค์แข็งแรงที่สุดครับ ยืดหยุ่นได้แต่ก็คืนรูปเดิมเสมอ และที่สำคัญ “นั่งทับก็ไม่หัก” เสียงที่ได้ชัดเจนทั้งฝ่ายสนทนาและคู่สายสนทนา เมื่อเสียบเข้ากับหูแล้วไม่รู้สึกเจ็บหรืออึดอัดเลย ตรงกันข้ามยังได้ยินเสียงรอบข้างปกติ แต่เมื่อสนทนานั้นความดังก็มากอยู่ทำให้เราสามารถสนทนารวมถึงฟังเสียงรอบข้างไปได้ด้วย
กระเป๋าเก็บลิขสิทธิ์เฉพาะของ BLUETREK แข็งแรง และสวยงามแบบเรียบหรู เป็นกล่องแข็ง ๆ ที่ฝาเปิดเป็นแม่เหล็กครับ
ส่วนของสายชาร์จนั้นต้องชาร์จผ่านคอมฯ หรือ Adapter USB สามารถหาสายทั่ว ๆ ไปมาใช้แทนได้โดยหัวจะเป็น Micro USB ซึ่งหากใครใช้มือถืออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ iPhone ก็สามารถใช้สายเดียวกันได้เลยครับ
เมื่อกำลังค้นหาเครื่องจะมีไฟขึ้นกระพริบเป็นสีต่าง ๆ หลากสี รวมถึงสถานะการชาร์จและอื่น ๆ ที่สามารถติดตามอ่านได้จากคู่มือที่ให้มา จากการทดสอบสภาวะการใช้งานจริง สามารถสนทนาได้ถึง 4 ชั่วโมงนิด ๆ และเปิดทิ้งไว้โดยไม่ใช้ได้ถึง 5 วันจริง ๆ ซึ่งใกล้เคียงกับสเปคที่แจ้งมาหน้ากล่องมาก ๆ การพูดคุยให้เสียงที่คมชัดและขจัดเสียงรบกวนได้ดี ทำให้การติดต่อของผมไม่มีสะดุดเลยทีเดียว ^^
สังเกตุมุมบนขวานะครับ จะมีสถานะแบตฯ คอยแจ้งอยู่ตลอดเวลาเมื่อเชื่อต่ออยู่กับ iPhone (เฉพาะ iPhone เท่านั้น) โดยไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมใด ๆ เพิ่มเติม นี่คืออีกหนึ่งข้อดี (มาก ๆ) ของหูฟังบลูทูธตัวนี้ครับ
สรุป BLUETREK Carbon
สำหรับราคา 2,150 บาท ซึ่งอาจจะพูดตรง ๆ ว่าแพงไปนิดสำหรับหูฟังบลูทูธทั่ว ๆ ไปในตลาด แต่หากเทียบกับหูฟังบลูทูธที่มียี่ห้อดัง ๆ ยี่ห้ออื่นแล้วถือว่าราคาปกติมาก ๆ ซึ่งจากการสำรวจราคาทั่ว ๆ ไปจะอยู่ที่ 1 พันนิด ๆ แต่ขอโทษครับ !!! โคตรกากเลย คุยได้แค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ เป็นอันเล็ก ๆ ดูไม่ค่อยทนทานเสียเท่าไหร่ จึงเป็นเหตุผลที่ผมไม่ค่อยใช้งานหูฟังบลูทูธจนถึงทุกวันนี้ครับ
แต่เมื่อผมได้เจอ BLUETREK Carbon แล้วทัศนคติเดิม ๆ เริ่มเปลี่ยนไป อย่างที่เขาว่ากันว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” บวกเงินนิด ๆ ได้ของดีกว่าเยอะจริง ๆ อุปกรณ์เสริมเยอะกว่า เข้ากับสรีระมากกว่า นี่ยังไม่รวมเทคโนโลยีภายในที่แถมมาอย่าง Noise Lock™ สำหรับการขจัดเสียงรบกวน เสียงลม และเสียงสะท้อน เพื่อให้เสียงสนทนาชัดใสทั้งในส่วนของผู้โทรและผู้รับสาย รวมถึงการแสดงแบตฯ แล้วนับว่าคุ้มมาก ๆ สำหรับการลงทุนจริง ๆ
แต่ครับ ทุกอย่างย่อมมีแต่ … หากท่านไม่ได้เป็นคนที่สายเข้าบ่อย ๆ ผมไม่ได้หมายความว่าคุยนานนะ หมายถึงคุยบ่อย อาจจะเป็นการลงทุนที่สิ้นเปลืองนิดนึงครับ เพราะตัวนี้มันฟังเพลงไม่ได้ และถ้าหากท่านชอบฟังเพลงเพราะ ๆ เหมือนกับผมด้วยล่ะก็แนะนำให้เลี่ยงไปใช้ตัว Bluetrek Musicall น่าจะเหมาะสมกว่า
ขอขอบคุณ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สำหรับอุปกรณ์ทดสอบ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
เห็นมีคนถามมากันเยอะใน FANPAGE : หาซื้อได้ที่ .Life และ iStudio By copperwire น่าจะมีนะครับ ส่วนร้าน Acc ทั่วไปจะไม่ค่อยมีขายครับ เพราะเขาไม่ค่อยส่ง Dealer เล็ก
App Store (ชั้น 2 ดิจิตอลเกทเวย์), เจมาร์ท, ซูม เทคโนโลยี, iStudio by UFicon (พันทิพย์-แฟชั่น), .Life มีของชัวว์ครับ ยืนยันกับทาง SiS แล้ว
1890 บาท ที่นี่ครับ http://cadmystic.com/apple/bluetrek-carbon-blueto…
ลองใส่ให้ดูก็ดีนะครับ จะได้รู้ว่าใส่แล้วดูดี หรือ ดูตลกไหมน่ะครับ
อายเหมือนกัน ฮ่า ๆ ๆ … ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
ขายครับซื้อมาในงาน โมบาย expo 1300.- ยังมีกล่องพร้อม
พอดีได้ของแถมจากเพื่อนมาครับ
ขอเบอร์ติดต่อด้วยคับ [email protected]
รุ่นนี้ ใช้ได้เฉพาะ โนเกีย หรอคะ หรือว่าใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เอ่ย [email protected] รบกวบตอยที่เมล์นะคะ