หลังจากที่ Apple เปิดขาย iPad (Gen 6) ไปแล้วมาชมคำแนะนำกันว่า iPad ในช่วงนี้ (พ.ค. 2018) แต่ละรุ่นเหมาะกับใครและถ้าจะซื้อควรซื้อรุ่นไหนดี
iPad แต่ละรุ่นเหมาะกับใครบ้าง (อัปเดต พ.ค. 2018)
Apple เปิดขาย iPad (Gen 6) 9.7 นิ้ว 2018 เป็นรุ่นล่าสุดในตอนนี้ (พ.ค. 2018) ทำให้ตอนนี้ Apple เปิดขาย iPad อยู่ 3 รุ่นหลักๆ คือ
- iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว
- iPad mini 4
- iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว
ซึ่งแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาให้ตรงตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละกลุ่ม ดังนี้
iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว
iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้วเป็น iPad รุ่นราคาย่อมเยาที่ Apple เน้นไปที่กลุ่มด้านการศึกษาเป็นหลัก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 11,500 บาท และ 10,800 บาทเมื่อซื้อด้วยราคานักศีกษาจึงเป็น iPad ที่เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้น
จุดเด่น iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว
คุณสมบัติเด่นของ iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้วรุ่นนี้ คือ หน้าจอใหญ่ 9.7 นิ้วมาพร้อมชิพประมวลผล A10 ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า iPhone 7 / 7 Plus สามารถเล่นเกมหรือประมวลผลกราฟิกได้ดี
iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว มีความพิเศษ คือ รองรับการใช้งาน Apple Pencil เหมือน iPad Pro สามารถใช้ Apple Pencil วาดเขียนบน iPad (Gen 6) 2018 ได้อย่างลื่นไหล เหมาะมากสำหรับนักศึกษาที่ชื่นชอบการจดบันทึกหรือการวาดภาพบน iPad
iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว เหมาะกับใคร
- นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการนำ iPad ไปประกอบการเรียนการสอน โดยเฉพาะการจดบันทึกและวาดภาพบน iPad
- ผู้ปกครองนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการซื้อ iPad ให้ลูกหลานในราคาย่อมเยา
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการ iPad แบบราคาย่อมเยาแต่สเปกใช้งานได้ดี
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการ iPad สเปกใกล้เคียงกับ iPad Pro แต่ไม่ได้เน้นเรื่องประสิทธิภาพมาก
iPad mini 4
iPad mini 4 อาจเป็น iPad mini ขนาดสุดท้ายที่ Apple เปิดขาย โดย iPad mini 4 เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ Apple จะออกรุ่นใหม่หรืออัปเกรดสเปกเลย ซึ่งช่วงหลังมานี้ Apple เน้นผลักดัน iPad 9.7 นิ้ว และ iPad Pro ซะมากกว่า
จุดเด่น iPad mini 4
iPad mini 4 มาพร้อมกับตัวเครื่องและจอขนาดเล็ก สามารถใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์บางยี่ห้อได้เลย แต่ด้วยขนาดเล็กนี้กลายเป็นจุดเด่นที่ผู้ใช้ iPad หลายคนชื่นชอบ โดย iPad mini 4 ใช้ชิพ A8 และจอ 7.9 นิ้ว Retina Display ดังนั้นการใช้งานทั่วไปถือว่าใช้งานได้สบายๆ เลย
iPad mini 4 เหมาะกับใคร
- บุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบ iPad จอเล็กเครื่องเล็กแต่สเปกแรง
- บุคคลที่จำเป็นต้องพกพา iPad เดินทางบ่อยครั้ง
ผู้เขียนขอแนะนำเพิ่มเติมว่า หากใครวางแผนที่จะซื้อ iPad mini 4 รุ่นนี้ในช่วงนี้ (พ.ค. 2018) แนะนำให้เปรียบเทียบสเปกและความเหมาะสมด้านการใช้งานกับ iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว ก่อน เพราะ iPad (Gen 6) 2018 จอ 9.7 นิ้ว มีสเปกที่สูงกว่า iPad mini 4 และยังเปิดขายในราคาที่ถูกกว่าอีก
คาดว่าอีกไม่นาน iPad mini 4 อาจถูกลอยแพ iOS ไม่ได้อัปเดตเวอร์ชันใหม่ๆ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เริ่มเก่าและล้าสมัยแล้ว
iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว
iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ถือว่าเป็น iPad ที่มีสเปกสูงที่สุดในขณะนี้ (พ.ค. 2018) และเป็น iPad รุ่นที่ Apple อัปเดตสเปกใหม่ๆ เกือบทุกปี แต่ด้วยเป็น iPad สเปกสูงทำให้ราคาก็สูงตามไปด้วย (เกือบเทียบเท่า MacBook)
จุดเด่น iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว
ในที่นี้จะกล่าวถึง iPad Pro 10.5 นิ้วเป็นหลักเพราะเป็น iPad Pro ขนาดจอใหม่รุ่นล่าสุดที่สร้างความฮือฮาในวงการ Tablet เป็นอย่างมาก โดย iPad Pro 10.5 นิ้ว ตัวเครื่องจะเท่ากันกับรุ่น 9.7 นิ้ว แต่มีการขยับขอบจอให้กว้างขึ้น ช่วยให้วาดเขียนได้กว้างขึ้น และมีจอความละเอียดสูงอีกด้วย
iPad Pro 10.5 นิ้วมาพร้อมเทคโนโลยีตัวใหม่ของ Apple ชื่อว่า “ProMotion” ที่มีความละเอียดในการแสดงผลบนจอสูงมาก หากเลื่อนจอหรือดูกราฟิกบนหน้าจอจะดูลื่นไหลเป็นพิเศษมากกว่า iPad รุ่นอื่น
iPad Pro 10.5 นิ้ว ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้เป็นอย่างดี และใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard ได้ดีอีกด้วย ซึ่ง Apple บอกเสมือว่า เมื่อใช้ iPad Pro นั้นสามารถใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์ได้เลย
ประสิทธิภาพที่สูงขนาดนี้มาจากชิพ A10X ที่ขึ้นชื่อว่าประมวลผลได้เร็วมากๆ และที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ iPad Pro 10.5 นิ้วมาพร้อมกล้องหลัง 12MP ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ได้ จึงถือว่าสเปกจัดเต็มจริงๆ
iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว เหมาะกับใคร
- นักออกแบบ, นักวาด, กราฟิกดีไซน์ ที่ใช้ iPad ในการออกแบบงานเขียนงานเป็นหลัก ต้องการ iPad ประสิทธิภาพสูง
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการใช้ iPad ที่มีประสิทธืภาพสูง, จอใหญ่, ประมวลผลด้านกราฟิกหนักๆ ได้
- บุคคลทั่วไปที่มีทุนในการซื้อ iPad ค่อนข้างสูง
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการ iPad ไปทดแทนการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือ Notebook ในบางจุด (ใช้ iPad Pro ร่วมกับ Apple Pencil และ Smart Keyboard)
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปและนำว่า iPad แต่ละรุ่นที่ Apple เปิดขาย ณ ตอนนี้เหมาะกับใคร ควรซื้อรุ่นไหนดี ซึ่งจริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการตัดสินใจของแต่ละบุคคลอย่างเช่นเรื่องเงินทุน, ขนาด และรูปแบบการนำไปใช้งาน
หาซื้อ iPad ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่าง Studio 7
หากใครที่ต้องการทดลองใช้งาน iPad แต่ละรุ่นสามารถไปลองเล่น ลองใช้งาน พร้อมรับคำปรึกษาดีๆ จากตัวแทนจำหน่ายอย่าง Studio 7 ได้ มีทั้ง iPad รุ่นปัจจุบันที่ Apple เปิดขายและยังมี iPad รุ่นเก่าอย่างเช่น iPad Air, iPad mini 2 หรือรุ่นอื่นๆ เปิดขายอยู่
ที่ Studio 7 นอกจากจะได้ iPad ของแท้ตัวเดียวกันกับ Apple แล้ว ยังมีบริการหลังการขายดีๆ และส่วนลดโปรโมชันต่างๆ ด้วย ไปลองเล่นและหาซื้อ iPad ได้เลยที่ Studio 7 ใกล้บ้าน