iOS 12 เปิดให้อัปเดตอย่างเป็นทางการแล้ว มีอะไรใหม่บ้าง? มาชมกัน

โดย Narongrit Laowanichwatthana 18/09/2018, 00:10 126.7K Views

18 กันยายน 2561 – ล่าสุด Apple ก็ได้ปล่อยตัวอัปเดต iOS 12 ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ อัปเดตผ่าน OTA หรือผ่าน iTunes อย่างเป็นทางการแล้ว โดยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของเวอร์ชันนี้เป็นอย่างไร? จะมีอะไรใหม่บ้าง? มาติดตามกันได้เลยครับ

iOS 12

ใน iOS 12 นี้ มีการปรับปรุงทางด้านซอฟต์แวร์ที่เน้นหนักไปในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด มีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้

ประสิทธิภาพการทำงาน
FaceTime แบบกลุ่ม (พร้อมใช้งานภายในปี 2561 นี้)
Animoji
Memoji
เอฟเฟ็กต์กล้อง
ARKit 2.0
Screen Time
การแจ้งเตือนแบบกลุ่ม (Group Notifications)
โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb)
รูปภาพ (Photos)
กล้อง (Camera)
Siri
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
ฟีเจอร์ใหม่และการอัปเดตอื่นๆ
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 12

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ใน iOS 12 – Apple ได้ปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานทั้ง iPhone หรือ iPad ให้ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้นในทุกๆ ด้านสำหรับอุปกรณ์ทุกรุ่นที่รองรับ รวมไปถึงอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5s หรือ iPad Air ด้วย

โดยได้ปรับปรุงความเร็วในการเปิดแอปให้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 40%, แสดงคีย์บอร์ดได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 50%, ปัดเพื่อเปิดกล้องได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 70% และแสดงแผ่นแชร์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า รวมไปถึงการปรับปรุงแอนิเมชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ ลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม

2. FaceTime แบบกลุ่ม

ใน iOS 12 – Apple ได้ปรับให้การโทรวิดีโอแบบ FaceTime กับคนอื่นๆ ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 32 คน โดยช่องของคนที่กำลังพูดจะขยายใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณไม่สับสนและตามทันบทสนทนา นอกจากนี้คุณยังสามารถเริ่มโทร FaceTime แบบกลุ่มจากกลุ่มสนทนาในแอปข้อความได้เลยทันที หรือจะเข้าร่วมสายที่คุยกันอยู่เมื่อไหร่ก็ได้

แถม Apple ยังได้ผนวก Animoji รวมเข้ากับ FaceTime เป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็น Animoji แบบเคลื่อนไหวในระหว่างการโทรวิดีโอได้เลย หรือจะใส่ฟิลเตอร์หรือเพิ่มเอฟเฟ็กต์อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน

3. Animoji (iPhone X)

Animoji ที่มาพร้อมกับ iPhone X นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด่นที่ทำให้ผู้คนสนใจ และใน iOS 12 นี้ Apple ก็ได้เพิ่มประสิทธิภาพการจับภาพใบหน้า (Detective) ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความสามารถในการจับลิ้นหรือขยิบตาได้ ช่วยให้คุณถ่ายทอดอารมณ์ได้ดียิ่งกว่าที่เคย แถมตอนนี้คุณยังสามารถอัดคลิปได้นานสูงสุดถึง 30 วินาทีด้วย

อีกทั้ง Apple ยังได้เพิ่มตัวละคร Animoji ใหม่เข้ามาอีก ได้แก่ เสือ, โคอาล่า, ทีเร็กซ์ และผี

4. Memoji (iPhone X)

นอกจาก Animoji ที่เพิ่มเข้ามาใหม่แล้ว ความพิเศษอีกอย่างที่ Apple ได้ใส่เพิ่มเข้ามาใน iOS 12 ก็คือ การเพิ่มหรือสร้างอิโมจิของตัวเองได้ ตั้งแต่การจับใบหน้า เลือกทรงผม เปลี่ยนสี และตกแต่งได้อีกมากมาย (มีเทมเพลตให้เลือกเยอะมาก) โดย Apple จะเรียกอิโมจินี้ว่า Memoji

และเมื่อทำเสร็จแล้ว Memoji ก็จะถูกบันทึกไว้ให้โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถเปิดกล้องและเรียกใช้งาน Memoji ได้ในแบบเรียลไทม์

5. เอฟเฟ็กต์กล้อง

ใน iOS 12 คุณสามารถใช้กล้องในแอปข้อความ (iMessage) หรือ FaceTime เพื่อถ่ายรูปหรือส่งวิดีโอด้วยเอฟเฟ็กต์ข้อความแบบเคลื่อนไหว ใส่ฟิลเตอร์ ติดสติกเกอร์สนุกๆ และอีกมากมายได้เลยโดยไม่ต้องออกแอปไปแต่งรูปเพิ่มเติม

6. ARKit 2.0

ใน iOS 12 จะมาพร้อมกับ ARKit 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์ AR ได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยรูปแบบไฟล์ใหม่ USDZ ที่ช่วยให้ผู้สร้างงาน 3D สามารถสร้างคอนเทนต์ที่สวยงามสมจริงและแอนิเมชั่นที่ปรับแต่งมาเพื่ออุปกรณ์พกพาได้ดีมากยิ่งขึ้น

โดย ARKit 2.0 นี้จะมุ่งเน้นไปที่การใช้งานแอปหรือการเล่นเกมที่มีผู้เล่นหลายคน ทำให้ผู้เล่นสองคนเห็นวัตถุเสมือนเดียวกันได้ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่หลายๆ คนสามารถร่วมสัมผัสไปพร้อมกันได้ ยกตัวอย่างรูปภาพด้านบนนี้ ที่จะเห็นผู้เล่น 2 คน กำลังเล่นเกม AR ร่วมกันผ่าน iPad คนละเครื่อง

ยกตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น คุณสามารถวางภาพวาดเสมือนบนผนังด้วยแอปที่ใช้ AR และเมื่อคุณเปิดขึ้นมาอีกครั้ง ภาพวาดก็จะยังคงอยู่ที่นั่น และด้วย ARKit 2.0 ผู้เล่นอีกคนก็สามารถเห็นภาพวาดนั้นและสามารถเติมแต่งเพิ่มเข้าไปได้บนหน้าจอ iPhone ของแต่ละคน เป็นต้น

นอกจากการรู้จำวัตถุ 3D ใน ARKit 2.0 ที่ว่ายอดเยี่ยมแล้ว การติดตามใบหน้า (Face Tracking) ใน ARKit 2.0 ก็ยังถูกอัปเกรดขึ้นไปอีก ถึงขั้นบอกได้ว่า คุณกำลังมองไปทางไหน หรือตรวจจับได้ว่าคุณกำลังแลบลิ้นหรือขยิบตาอยู่มั้ย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ARKit 2.0 >

7. Screen Time

ใน iOS 12 – Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Screen Time เพื่อช่วยให้คุณหรือผู้ปกครอง สามารถควบคุมการเล่นอุปกรณ์ iOS ของตัวเองหรือของเด็กๆ ได้ ช่วยให้รู้ได้ว่า คุณและเด็กๆ ใช้เวลาเท่าไหร่ในการเล่นอุปกรณ์ iOS เหล่านั้น แถมยังเพิ่มฟังก์ชันการติดตามและควบคุมการจัดการเวลามาให้อีกด้วย

โดยคุณสามารถกำหนดช่วงเวลาที่จะปิดกั้นการใช้งานแอป/เกม หรือกำหนดได้ว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้แอปใดได้บ้าง หรือจะสร้างข้อยกเว้นสำหรับแอปที่คุณอยากให้เด็กๆ ใช้งานได้แม้จะอยู่ในช่วง “เวลาไม่ใช้งาน” ก็ตาม เช่น แอปข้อความหรือแอปด้านการศึกษา เป็นต้น

รวมไปถึงการตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น เวลาเข้านอนหรือเวลาเล่นใกล้จะหมดแล้ว เป็นต้น

8. การแจ้งเตือนแบบกลุ่ม (Group Notifications)

ใน iOS 12 – Apple ยังได้ปรับการแจ้งเตือน (Notifications) ใหม่ ให้อยู่ในรูปแบบกลุ่มอีกด้วย (Group Notifications) ช่วยทำให้คุณดูเรื่องสำคัญได้ง่ายยิ่งขึ้นและช่วยให้คุณถูกขัดจังหวะระหว่างวันน้อยลง โดยในข้อความในเรื่องเดียวกันและการแจ้งเตือนในหัวข้อเดียวกันจะได้รับการจัดกลุ่มเข้าไว้ด้วยกัน

แถมคุณยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ ได้จากหน้าจอล็อคทันทีแบบเรียลไทม์ (Instant Tuning) โดยที่คุณไม่ต้องออกแอปไปเข้าการตั้งค่า ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Siri ที่คอยให้คำแนะนำฉลาดๆ ว่าควรทำอย่างไรกับการแจ้งเตือนนั้นด้วย

9. โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb)

ใน iOS 11 – Apple ได้เพิ่มโหมดห้ามรบกวนขณะขับรถ (Do Not Disturb While Driving) เข้ามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้รับความมีสมาธิในระหว่างขับขี่รถ ซึ่งใน iOS 12 นี้เอง Apple ก็ยังได้เพิ่มความสามารถให้โหมดห้ามรบกวนขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการหรี่หน้าจอและปิดเสียงการแจ้งเตือนในเวลานอนจนกว่าคุณจะปลดล็อค iPhone ในตอนเช้า

แถมคุณยังสามารถตั้งค่าให้โหมดห้ามรบกวนสิ้นสุดโดยอัตโนมัติในอีกหนึ่งชั่วโมง เมื่อสิ้นสุดวัน เมื่อออกจากสถานที่บางแห่ง หรือเมื่อการประชุมในปฏิทินของคุณจบลงได้อีกด้วย ทีนี้คุณก็สามารถเพลินไปกับเวลาเงียบๆ ของคุณได้ทุกเวลา

10. รูปภาพ (Photos)

10.1 แถบ “สำหรับคุณ”

แถบสำหรับคุณ (For You) ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในแอปรูปภาพ (Photos) สำหรับ iOS 12 ซึ่งจะแสดงช่วงเวลาดีๆ จากคลังรูปภาพของคุณและยังสามารถแนะนำให้คุณแชร์รูปภาพกับคนที่อยู่ในรูปนั้นได้อีกด้วย และถ้าอีกฝ่ายก็ใช้ iOS 12 เช่นกัน ก็จะมีคำแนะนำให้อีกฝ่ายแชร์รูปภาพจากกิจกรรมนั้นกลับมาหาคุณได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ อย่าง “รูปภาพแนะนำ” และ “คำแนะนำเอฟเฟ็กต์” ที่จะแสดงรูปภาพที่ดีที่สุดของคุณออกมา พร้อมแนะนำเอฟเฟ็กต์ที่จะทำให้รูปนั้นดูดียิ่งกว่าเดิม

10.2 การค้นหารูป

คำแนะนำการค้นหารูปอัจฉริยะ จะช่วยให้คุณค้นหารูปภาพตั้งแต่ก่อนที่คุณจะพิมพ์เสร็จด้วยซ้ำ โดยคุณจะเห็นคำแนะนำกิจกรรม ผู้คน สถานที่ และวันที่ที่เกี่ยวข้องแสดงในช่องค้นหาโดยอัตโนมัติ และยิ่งคุณพิมพ์ไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งฉลาดและตรงใจคุณมากขึ้น

10.3 RAW Editing Support

ใน iOS 12 นี้ คุณสามารถปรับแต่งไฟล์ภาพแบบ RAW ได้ในแอปรูปภาพบน iPhone และ iPad เฉพาะรุ่นที่มีชิพ A9 หรือใหม่กว่าได้แล้ว แถมคุณยังสามารถอิมพอร์ต (Import) รูปภาพและวิดีโอจากกล้องระดับโปรได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

10.4 แถบอัลบั้มที่ออกแบบใหม่

แถบอัลบั้มในแอปรูปภาพก็ได้ถูกออกแบบใหม่ เพื่อให้ค้นหาอัลบั้มที่มีอยู่แล้วหรืออัลบั้มที่แชร์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

11. กล้อง (Camera)

ใน iOS 12 – Apple ได้ปรับปรุงการถ่ายรูปด้วยโหมด Portrait Lighting หรือโหมดภาพถ่ายบุคคลให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม เพราะกล้องจะใช้ API ใหม่ในการสร้างกรอบครอบเมื่อตรวจพบบุคคลในภาพ และจะแยกบุคคลนั้นออกจากสิ่งรอบข้างอย่างสวยงามและชาญฉลาด

ช่วยให้นักพัฒนาของบริษัทอื่นสามารถแยกเลเยอร์ในรูปภาพได้ เช่น แยกฉากหลังออกจากฉากหน้า เป็นต้น แถมตัวกล้องยังสามารถสแกน QR Code ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย

12. Siri

ใน iOS 12 – Apple ได้เพิ่มความสามารถของ Siri ให้มากขึ้น อย่าง Siri Suggestions ที่ช่วยให้ Siri สามารถจับคู่กิจวัตรประจำวันของคุณกับแอปของบริษัทอื่นได้อย่างชาญฉลาด เพื่อแนะนำคำสั่งลัดที่แสนสะดวกในเวลาที่คุณต้องการ เช่น ถ้าคุณแวะซื้อกาแฟเป็นประจำระหว่างทางไปทำงาน Siri ก็จะเรียนรู้กิจวัตรของคุณแล้วแสดงคำแนะนำในหน้าจอล็อคให้คุณสั่งกาแฟเมื่อถึงเวลานั้น เป็นต้น

นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียกใช้คำสั่งลัดต่างๆ ด้วยเสียงหรือจะสร้างคำสั่งลัดของตัวเองด้วยแอปคำสั่งลัดใหม่ (Shortcuts App) ได้อีกด้วย โดยนักพัฒนาแอปก็สามารถทำงานร่วมกับ Siri ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คำสั่งลัดทำงานได้ผ่านทาง API ใหม่ที่เรียกว่า Siri Kit

เพิ่มเติม:

Siri สามารถแปลข้อความเป็นภาษาต่างๆ ได้มากขึ้น โดยรองรับได้ถึง 40 คู่ภาษา
Siri สามารถช่วยคุณค้นหารหัสผ่านได้
Siri สามารถค้นหารูปภาพและความทรงจำได้อย่างรวดเร็วตามผู้คน สถานที่ กิจกรรม เวลา และคีย์เวิร์ของวัตถุและฉากในภาพนั้น

13. ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ระบบ iOS ถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวและมีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่ง Apple ก็เชื่อว่าความเป็นส่วนตัวคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และนั่นคือเหตุผลที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา iOS ได้รับการออกแบบให้มีการเข้ารหัสในตัว ระบบอัจฉริยะในตัวอุปกรณ์ และเครื่องมืออื่นๆ ที่ให้คุณเลือกแชร์เฉพาะสิ่งที่ต้องการ

ซึ่งใน iOS 12 นี้ Apple ก็ได้ยกระดับความเป็นส่วนตัวให้รัดกุมขึ้นไปอีก โดยตอนนี้ Safari จะป้องกันไม่ให้ปุ่มแชร์และช่องคอมเมนท์ในเว็บเพจติดตามคุณได้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ Safari ยังป้องกันไม่ให้ผู้โฆษณาเก็บข้อมูลเฉพาะตัวจากอุปกรณ์ของคุณอีกด้วย ซึ่งเท่ากับว่าผู้โฆษณาจะไม่สามารถระบุได้ว่านี่คืออุปกรณ์ของคุณ รวมถึงไม่สามารถปรับเป้าหมายการแสดงโฆษณาให้ติดตามคุณไปตามเว็บต่างๆ ได้อีกด้วย

14. ฟีเจอร์ใหม่และการอัปเดตอื่นๆ

14.1 ฟีเจอร์ใหม่

CarPlay – รองรับแอปนำทางของบริษัทอื่นแล้ว เช่น Google Map ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกแอปที่คุ้นเคยมาแสดงบนแผงหน้าปัดขณะขับรถ
ข้อมูลแบตเตอรี่ที่มากขึ้น – มีแผนภูมิแสดงการใช้แบตเตอรี่ในเมนูการตั้งค่า ที่แสดงการใช้งานของคุณในช่วง 24 ชั่วโมง หรือ 10 วันที่ผ่านมา
พจนานุกรมใหม่ – เพิ่มพจนานุกรมใหม่ 3 ภาษา ได้แก่ พจนานุกรมภาษาอารบิก-อังกฤษ, พจนานุกรมภาษาฮินดี-อังกฤษ และพจนานุกรมภาษาฮีบรู
พจนานุกรมคำพ้องภาษาอังกฤษ – ดูคำพ้องความหมายและแนวคิดของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกันด้วยพจนานุกรมคำพ้องภาษาอังกฤษ
คำสั่งนิ้วบน iPad ปรับปรุงใหม่ – ช่วยให้คุณไปในส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้คุณสามารถไปที่หน้าจอโฮมได้อย่างรวดเร็วด้วยการปัดขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอ และไปที่ศูนย์ควบคุมได้อย่างสะดวกสบายแค่ปัดลงมาจากมุมบนขวา
การป้อนอัตโนมัติสำหรับรหัสความปลอดภัย – รหัสตัวเลขแบบใช้ครั้งเดียวทาง SMS จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติในรูปแบบของคำแนะนำการป้อนอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องคอยห่วงว่าจะต้องจำรหัสหรือพิมพ์เองอีกต่อไป
รหัสผ่านอัตโนมัติที่แน่นหนา – รหัสผ่านสำหรับแอปและเว็บไซต์ทั้งหมดที่คุณใช้งาน จะถูกสร้างขึ้นและบันทึกไว้ใน Safari และแอปต่างๆ โดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจึงใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องจำอะไรเลย
Contactless Student ID Cards – ด้วยบัตรประจำตัวนักเรียนแบบไม่สัมผัสใน Wallet คุณสามารถใช้ iPhone ทั่วทั้งโรงเรียนเพื่อสแกนเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เช่น หอพัก ห้องสมุด และกิจกรรมต่างๆ หรือจ่ายค่าอาหาร เป็นต้น (ใช้ได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น)

14.2 การอัปเดตอื่นๆ

แอป Apple Books – ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อช่วยให้คุณค้นพบและอ่านหนังสือเล่มโปรดได้ง่ายยิ่งขึ้น
แอปเสียงบันทึก (Voice Memos) – ออกแบบใหม่ให้ใช้งานบน iPad ได้แล้ว ทีนี้คุณก็สามารถอัดเสียงเพื่อเตือนความจำในเรื่องส่วนตัวได้ง่ายขึ้น หรือจะปรับแต่งเสียงบรรยายจากชั้นเรียนและแชร์ช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัวก็ได้
แอปหุ้น (Stocks) – ออกแบบใหม่ ช่วยให้คุณเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ด้วยราคาหุ้นพร้อมกราฟแบบสดๆ และก็ยังเป็นครั้งแรกที่สามารถใช้แอปหุ้นบน iPad ได้เช่นเดียวกับ iPhone
แอปข่าวสาร (News) – ออกแบบใหม่ ช่วยให้คุณสามารถข้ามไปยังช่องหรือหัวข้อที่คุณชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย