พรีวิว iOS 12 beta 1 รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงมีอะไรใหม่บ้าง

ได้ทราบกันไปแล้วว่าใน iOS 12 นั้นมีอะไรใหม่บ้าง รอบนี้มาชมกันว่าฟีเจอร์ใหม่ๆ พร้อมรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นหน้าตาจะเป็นยังไงไปชมกันเลยนะครับ

พรีวิว iOS 12 beta 1 สำหรับนักพัฒนา

นักพัฒนาสามารถทดสอบใช้งาน iOS 12 beta ได้ตั้งแต่วันนี้ดาวน์โหลดได้ที่ developer portal ของ Apple สิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ได้แก่

1. การทำงานภาพรวมตอบสนองเร็วขึ้นทุกรุ่น คะแนนการประมวลกราฟฟิกเร็วขึ้นเห็นได้ชัด
2. Wallpaper หน้า Home ใหม่
3. Animoji และ Memoji ใหม่
4. FaceTime Group Call โทรเป็นกลุ่มได้
5. แอป Voice Memo ออกแบบใหม่รองรับ iCloud ซิงก์ไปใช้กับ Mac ได้
6. CarPlay รองรับแอป 3rd Party อย่าง Google Maps, Waze
7. Group Notification จัดกลุ่มการแจ้งเตือน
8. แอป Photos ฉลาดขึ้น ค้นหารูปได้ง่ายขึ้น แชร์ได้ฉลาดและเร็วขึ้น
9. Siri เก่งขึ้น มี Suggestion และ Add to Siri
10. Siri Shortcut ทางลัดต่างๆ และสามารถสร้าง Shortcut ของเราเองได้ 
11. Screen Time ฟีเจอร์ใหม่ดูรายละเอียดการใช้งานเครื่องทั้งแอปต่างๆ ว่าใช้งานแต่ละแอปไปแล้วนานเท่าไหร่, ดูสถิติต่างๆ หรือยังการจำกัดการใช้งานแอปต่างๆ ได้
12. Swipe Up เพื่อปิดแอปพลิเคชันที่หน้า App Swicther ได้
13. Swipe Up เพื่อปิดแอปนั้น ปิดได้มากกว่า 1 แอปในเวลาเดียวกัน
14. เพิ่มแอป Measure สำหรับการวัดขนาดด้วย ARKit (6s, SE ขึ้นไป)
15. เพิ่มเมนู Scan Document บนแอป Notes เมื่อกด 3D Touch
16. Control Center มีเมนูสแกน QR Code
17. แชร์ข้อมูลผ่าน AirDrop ได้เร็วขึ้น
18. แอป Stock ใหม่
19. เพิ่มความยาวของ Animoji และ Memoji เป็น 30 วินาทีเดิมใช้ได้ 10 วินาที
20. Memoji คือ Animoji ประจำตัวที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ จากนั้นสามารถใช้ส่งข้อความ Animoji หาเพื่อนๆ ได้เลย
21. เมนู Scan QR Code บนแอปกล้องเมื่อกด 3D Touch
22. เพิ่ม Face ID ได้สูงสุด 2 ใบหน้า  
23. USB Accessories ถ้าเครื่องไม่ได้ใช้งาน 1 ชม. ระบบจะถามหา Passcode (เลือกปิดฟีเจอร์นี้ได้)
24. Automatics Update ตั้งให้อัปเดต iOS แบบออโต้ได้
25. Do Not Disturb มี Bedtime Mode 
26. iPad Control Center เรียกใช้งานจากมุมบนขวา เหมือนกับ iPhone X
27. iPad ตวัดที่ Dock เพื่อกลับหน้า Home
28. หน้า UI ของ Notification แต่ละแอปมีการเปลี่ยนแปลง (เข้าชมที่ Settings> Notifications> แอปนั้นๆ )
29. มีฟีเจอร์ Notification Grouping จัดกลุ่มของการแจ้งเตือนได้ แยกเป็นกลุ่มของแอปหรือจะให้รวมแบบออโต้ (เข้าชมที่ Settings> Notifications> แอปนั้นๆ> Options )
30. เพิ่ม Widget ของ Screen Time 
31. ย้ายเครื่องมือการวัดระดับจากเดิมอยู่ในแอปเข็มทิศไปอยู่ในแอป Measure แทน
32. รองรับ Keyboard Trackpad ใน iPhone รุ่นเก่าที่จอไม่รองรับ 3D Touch โดยกดค้างที่ Spacebar เพื่อเลื่อน Cursor

เพิ่มเติม 100 การเปลี่ยนแปลงใน iOS 12

1. กดปุ่ม Space Bar ที่คีย์บอร์ด (iPhone รุ่นไม่มี 3D Touch) ค้างไว้เพื่อเลื่อน Cursor การพิมพ์ได้
2. เมื่อเปิด Do not Disturb แล้วแตะ “สิ้นสุด” จะมี Widget “Good Morning” แสดงที่หน้า Lock Screen
3. เมื่อเปิด Do not Disturb ในหน้า Lock Screen พวก Widget, ไอคอนและการแสดงผลจะเป็นแบบ Dark Mode
4. Apple เปิดให้นักพัฒนาแอปภายนอกใส่ Dark Mode ในแอปตัวเองได้
5. ปุ่ม Clear การแจ้งเตือนในหน้า Lock Screen ใหญ่ขึ้น
6. ปรับหน้าจอการตั้งค่า Notification ใน Settings ใหม่
7. เลือกรูปแบบการแสดง Group Notification ได้ ว่าจะให้จัดกลุ่มตามแอป, อัตโนมัติหรืออื่นๆ
8. ขนาดตัวหนังสือของ Status Bar ในหน้า Lock Screen ใหญ่ขึ้น
9. ตำแหน่งการจัดวางไอคอนแอปในหน้า Home Screen เปลี่ยนใหม่
10. แตะ 3D Touch ใน Control Center ลื่นขึ้น
11. เพิ่มแถบพื้นที่ของ Widget เมื่อแตะ 3D Touch
12. ไม่มีคำว่า “Do not Disturb On” เมื่อแตะเปิด Do not Disturb ใน Control Center
13. เพิ่มเมนู “Scan QR Code” เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Camera
14. เพิ่มหน้าจออธิบายการใช้ QR Code ในแอป Camera
15. ย้ายตำแหน่งการตั้งค่า Control Center ใน Settings ให้อยู่ช่วงด้านล่าง
16. เพิ่ม “Scan QR Code” ในการตั้งค่า Control Center
17. เพิ่ม “Hearing” ในการตั้งค่า Control Center
18. iPhone 7 / 7 Plus มี Haptic สั่นเมื่อกดถ่ายรูปที่แอป Camera
19. iPhone 6s / 6s Plus มี Haptic สั่นแรงขึ้น (จากความรู้สึก)
20. มีข้อความอธิบายการใช้งานอยู่ด้านบน เมื่อแตะที่ Widget Screen Recording ที่ Control Center
21. เมื่อแตะ Do not Disturb ที่ Control Center จะไม่มีหน้าต่างแจ้งเตือนเปิดการใช้งานที่ด้านบนแล้ว
22. เพิ่มไอคอนการควบคุม AirPlay 2 ที่ Widget AirPlay 2 ในกรณีที่เลือกควบคุมห้องเดียว
23. เพิ่มไอคอนปรับระดับเสียง AirPlay 2 ที่ Widget AirPlay 2 ในกรณีที่เลือกควบคุมห้องเดียว
24. ปรับรูปแบบการ Slide ปิดแอปที่ Multitasking สำหรับ iPhone X ใหม่ ให้ปัดขึ้นด้านบนเพื่อปิดแอปได้เลย โดยที่ไม่ต้องกดค้างแล้วเลือกปิด
25. หากสแกน Face ID ในหน้า Lock Screen บน iPhone X ไม่ผ่าน จะขึ้นหน้า Passcode และผู้ใช้สามารถสแกนหน้าแล้วปัดหน้าจอขึ้นได้เลย ไม่จำเป็นต้องกรอก Passcode อย่างเดียว
26. [Bug] สามารถเปิดแอป Camera จากหน้า Lock Screen แล้วให้ถ่ายวิดีโอ / ปัดหน้าจอลงมาถ่ายภาพได้
27. [Bug] สามารถเปิดแอป YouTube แล้วกดออกมาหน้าจอ Lock Screen เร็วๆ เพื่อฟัง YouTube ในหน้า Lock Screen ได้
28. หน้าจอยืนยันการอัปเดต iOS สำเร็จแบบใหม่
29. เพิ่มเมนู “Scan Document” เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Note
30. เปลี่ยนสีรูปหัวดินสอในแอป Note (โหมดการเขียน) จากสีดำให้เป็นสีเทา
31. เมื่อแตะที่หัวปากกาในแอป Note (โหมดการเขียน) จะมีรูปแบบระดับความโปร่งแสงให้เลือก
32. ปรับปรุง Widget ของแอป Stock ใหม่เมื่อกด 3D Touch
33. เปลี่ยนไอคอน Record จากสีดำเป็นสีแดง เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Voice Memo
34. เมื่อคัดลอก Link จาก Safari แล้วเปิด Spotlight Search จะมีคำแนะนำให้วาง Link ที่คัดลอกไว้
35. Spotlight Search แสดงหมายเลขโทรศัพท์, ข้อความล่าสุดที่เคยคัดลอกไว้
36. เพิ่มโหมดตัวช่วยการฟัง (Hearing) เมื่อเชื่อมต่อ iPhone กับหูฟัง AirPods
37. เพิ่ม Widget ของฟีเจอร์ Screen Time ในหน้า Lock Screen
38. เพิ่มการรายงานคุณภาพอากาศ (Air Quality) ว่าอากาศดีหรือไม่ในแอป Weather
39. เพิ่มรูปแบบการเลือกสีใหม่ในฟีเจอร์ Markup
40. เพิ่มตัวกรองประเภทของสื่อในแอป Photos
41. เพิ่มทางลัดของแอปใน Messages สลับได้ว่าจะแสดงรายการแอปหรือข้อความแนะนำ
42. ปรับปรุงพื้นหลังและขนาดของข้อความแนะนำในแอป Messages
43. ปรับปรุงหน้า More Apps ใน Messages
44. เมื่อแตะแอปที่เป็นแบบวาดเขียนใน Messages จะแสดงหน้าจอวาดเขียนข้อความแบบเต็ม
45. เมื่อแตะไอคอน Camera ใน Messages จะแสดงหน้าจอถ่ายภาพแบบเต็มจอ
46. เพิ่มทางลัด Effect, Animoji ใน Camera ของแอป Messages
47. เพิ่มแอป Photos ในแอป Messages
48. iPhone X สามารถอัดวิดีโอ Animoji ได้สูงสุด 30 วินาที (จากเดิมสูงสุดที่ 10 วินาที)
49. เมื่อแตะที่ไอคอนชื่อด้านบนของหน้ารายละเอียดข้อความในแอป Message จะแสดงไอคอน audio, facetime, info
50. iPhone X มีลูกศรเพื่อแตะกลับไปหน้าจอเต็มเมื่อใช้ Reachability (ย่อหน้าจอ)
51. iPhone X สามารถใช้นิ้วเพื่อลากหน้าจอขึ้น-ลงเมื่อย่อหน้าจอได้
52. iPhone X เมื่อแตะเปิดแอปขณะย่อหน้าจออยู่ หน้าแอปจะแสดงเร็วขึ้น
53. องศ์ประกอบหน้าจอต่างๆ แสดงสีได้ถูกต้องขึ้นเมื่อเปิด Smart Invert
54. สั่ง Siri ให้เปิดไฟฉายได้แล้ว
55. สั่ง Siri ได้ถึงแม้จะเปิด Low Power Mode อยู่
56. มีสำเนียง Siri ภาษาใหม่ให้เลือกใช้
57. ถามรหัสผ่านแอปต่างๆ จาก Siri ได้ (ถามได้บางแอป)
58. เมนู Sounds & Haptics ในหน้า Settings ย้ายขึ้นมาอยู่ด้านบน
59. เพิ่มเมนู Voice Memo ใหม่ในหน้า Settings
60. เพิ่มใบหน้าสำหรับสแกน Face ID ได้สูงสุด 2 ใบหน้า
61. เพิ่มเมนู USB Accessories เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อ USB หากเครื่องไม่ได้ปลดล็อคมากกว่า 1 ชั่วโมง
62. เพิ่มเมนูการตั้งค่าอัปเดตอัตโนมัติของ Software Update
63. เพิ่ม Wallpapers ใหม่
64. Wallpapers จาก iOS 9 บางตัวหายไป
65. หน้าจอคำแนะนำการประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Suggestion) แบบใหม่
66. หน้าจอรายงานข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ (Battery Usage) แบบใหม่
67. การแตะดูข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ในแต่ละชั่วโมงแบบใหม่
68. ดูประวัติข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ใน 10 วัน (ก่อนหน้านี้เป็น 7 วัน)
69. ข้อมูล Battery Usage ไม่ถูกล้างค่าแล้วหาก Reboot เครื่อง
70. เพิ่มเมนูการเลือกเปิด-ปิด Siri Suggestion สำหรับหน้า Lock Screen
71. เพิ่มเมนูการตั้งค่า Books ใน Settings
72. ตั้งค่าให้แสดง Favicon ใน Safari ได้แล้ว
73. Reset ข้อมูลประวัติการใช้ Cellular ได้แล้วใน Settings
74. ไอคอน Request Desktop Site ในเมนู Sharesheet ของ Safari เปลี่ยนเป็นรูป iMac Pro
75. ไอคอน Favorite, Add to Desktop ในเมนู Sharesheet ของ Safari ปรับขนาดลดลง
76. เพิ่มฟีเจอร์สร้างรหัสผ่าน (Passcode) แบบเดายากใน Safari
77. Safari แนะนำการใช้ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับการตั้งรหัสผ่าน
78. 1Password แนะนำการตั้งรหัสผ่านได้
79. หากใช้ Apple Music แบบทดลองใช้งาน ใน Apple Music มี Banner แสดงว่ากำลังใช้บริการ Apple Music แบบไม่จ่ายเงินอยู่
80. ภาพนักร้องในหน้ารวมเพลงของนักร้องบน Apple Music ใหญ่ขึ้น
81. แตะเล่นเพลงทั้งหมดในหน้ารวมเพลงนักร้องแต่ละรายได้
82. ค้นหาเพลงด้วยเนื้อเพลงใน Apple Music ได้แล้ว
83. เพิ่มส่วน “You Might Have Missed” ใน App Store
84. แอป Wallet ปรับปรุงรูปแบบการแสดงข้อความใหม่ให้อ่านง่ายขึ้น
85. มีการแสดงรายละเอียดมากกว่าเดิมในการแจ้งเตือน Apple Pay
86. ปรับปรุง Animation ของ Face ID ในหน้ายืนยันการซื้อบน App Store
87. การวัดระดับในแอป Compass ย้ายไปไว้ที่แอป Measure
88. ใช้ Dictation สำหรับคีย์บอร์ดจากแอปที่ไม่ใช่ของ Apple ได้
89. เมื่อเปิดใช้ Bed Time ระบบจะเปิด Do not Disturb ก่อนเวลาที่ตั้งเข้านอนโดยอัตโนมัติ
90. Podcasts เปลี่ยนชื่อเป็น Apple Podcasts
91. ปรับปรุงหน้าจอแนะนำ Podcasts แบบใหม่
92. เพิ่มเมนูการตั้งเวลา Skip Podcasts
93. (รายงานจากผู้ใช้) iPhone จะไม่ทำงานช้าลง ถึงแม้แบตเตอรี่ใกล้หมดก็ตาม
94. ใช้การปัดเพื่อปลดล็อคบน iPad ได้แล้ว (เหมือน iPhone X)
95. ปัดหน้าจอจากด้านล่างเพื่อเรียก App Switcher บน iPad ได้แล้ว (เหมือน iPhone X)
96. เรียก Control Center จากมุมบนขวาบน iPad (เหมือน iPhone X)
97. ปัดหน้าจอจากด้านล่างเพื่อกลับมายังหน้า Home (เหมือน iPhone X)
98. ปรับปรุง Status Bar ด้านบนของ iPad ให้เหมือน iPhone X
99. ไอคอนแสดงสถานะการอัดหน้าจอของ iPad แสดงเหมือน iPhone X
100. เมื่อดูวิดีโอแบบ Full Screen บน iPad ผ่าน Safari ตัววิดีโอจะเล่นบนเครื่องเล่นของเว็บนั้นๆ

อัปเดตข้อมูลทั้งหมดของ iOS 12 ที่นี่เลย https://www.iphonemod.net/ios-12 

คลิปพรีวิว iOS 12 Beta 1 โดยทีมงาน iMoD

ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงใหม่ใน iOS 12

ข้อมูล iOS 12 ที่เกี่ยวข้อง

• สรุป iOS 12 มีอะไรใหม่
• iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นไหนได้ไปต่อ iOS 12 บ้าง
• เผยโฉม Group FaceTime ได้สูงสุด 32 คนพร้อมกันใน iOS 12
• เผยโฉม Memoji ใน iOS 12 ปรับแต่งตัวละครเองได้ ใช้ iPhone X ได้สนุกกว่าเดิม

อัปเดตข้อมูลทั้งหมดของ iOS 12 ที่นี่เลย https://www.iphonemod.net/ios-12

หากมีส่วนไหนเพิ่มเติมใหม่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

• Facebook
• X
• LINE