พูดถึง Belkin แล้วผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย เพราะ Belkin นั้นเป็นบริษัทที่ทำแทบทุกอย่างในอุปกรณ์ IT จริง ๆ ที่ดัง ๆ เห็นจะมีพวกอุปกรณ์ Network แล้วก็กระเป๋าต่าง ๆ รวมถึง HUB USB (ผมก็ใช้ประกันตลอดชีพด้วย เครมไปตัวนึงละ) นอกจากนี้พวกปลั๊กไฟอะไรก็ใช้ได้นะ ซึ่งวันนี้ผมจะมารีวิวในส่วนของเคส iPad2 รุ่น Access Folio Stand ซึ่งเคสนี้นั้นก็ไม่ใช่สิว ๆ ครับ เพราะว่าเคสตัวนี้นั้นนอกจากจะได้ชื่อของ Belkin มาประกันแล้วยังได้ติดอันดับ TOP 10 จากเว็บต่างประเทศอีกด้วย (Gizmocrazed.com) วัสดุส่วนใหญ่ของเคสนี้นั้นทำจากไมโครไฟเบอร์เกือบทั้งตัว ซึ่งผลออกมาจะเป็นเช่นไร? เคสจะดีจริงสมกับติดอันดับ TOP 10 จากเว็บต่างประเทศหรือไม่? คงต้องติดตามอ่านกันครับ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า ;D
ตัวของ Access Folio Stand นั้นออกแบบกล่องไว้ได้เชยมาก ดูธรรมดาสุด ๆ (สังเกตุได้จากพื้นหลัง – -*) ดูเรียบ ๆ แข็ง ๆ เชย ๆ ดีครับ *0* ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา เพราะ Belkin นั้นเป็นแบรนด์จากอเมริกา เรื่องการออกแบบคงเรียบ ๆ เป็นเรื่องปกติ (มั้ง)
ตัว “Access Folio Stand” สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปหรือที่ BBiPhone.com จะอยู่ที่ราคา 1,590 บาท
(ก่อนอื่นขอขอบคุณ – BBiPhone.com ผู้สนับสนุนสินค้าในการทดสอบครั้งนี้)
การใช้งานในด้านต่าง ๆ สามารถพับ ม้วน และเก็บสายได้ดี ซึ่งหากใครต้องการรับชมเป็น VDO สามารถดูได้ตามนี้เลยครับ
(โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบชมรีวิวเป็น VDO ซักเท่าไหร่ เพราะโหลดช้า และดูไม่ค่อยทัน)
ดูหน้ากล่องกันชัด ๆ จะได้ไม่ต้องหยิบผิด ^^
ด้านหน้าของ Access Folio Stand นั้นจะเป็นแบบกรอบรอบ และมียางครอบลงบนปุ่ม Home อีกทีหนึ่ง โดยบริเวณผิวที่สัมผัสตรงหน้าจอจะเป็นสักหลาด ทำให้ไม่เป็นรอยอย่างแน่นอน อีกทั้งเคสตัวนี้ยังทำจากผ้าและยางทั้งตัว ไม่มีวัตถุที่แข็งถึงขนาดจะทำให้เครื่องเป็นรอยได้
สำหรับวัสดุที่ใช้ล็อคเครื่องนั้นจะเป็นฝาพับ ที่สามารถสอดใส่เข้าไปในเคสได้ โดยฝาปิดนี้จะเป็นยางซึ่งจะเป็นตัวกั้นไม่ให้ iPad เลื่อนหรือหลุดลงมา โดยความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่าไม่ต้องมีก็ได้เพราะว่า ตัวเคสกับ iPad เองก็แน่นจะแย่อยู่แล้ว ไม่มีทางหล่นลงได้ง่าย ๆ หรอก ^^ (ผมลองเขย่าดูแล้ว ไม่เลื่อน ไม่หลุดเลยซักนิด)
เมื่อติดตั้งเรียบร้อยละใส่ฝาปิดไปแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ เรียนร้อยสวยงามเลยทีเดียว
บริเวณด้านหน้าของเคสจะเป็นลายเรียบ ๆ สีเทา ดำ ขาวสลับกัน มีรอยปักคำว่า Belkin อยู่ ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำผ้าด้านนอกนั้นเหนียวมาก ซึ่งเป็นผ้าสังเคราะห์จากไมโครไฟเบอร์อย่างดี ช่วยให้ทนต่อแรงขีดข่วน และฉีกขาดต่าง ๆ
ความหนาเมื่อเทียบกับเหรียญ 2 บาทแล้วถือว่าหนาเอาเสียมาก ๆ สำหรับเคสตัวนี้ ลองสังเกตุเปรียบเทียบกับ iPad2 ที่อยู่ด้านในดูได้ครับ ว่าหนากว่ากันกี่เท่า โดยตรงนี้คงต้องแล้วแต่มุมมองครับ บางคนชอบบาง บางคนชอบทนทาน ปลอดภัย ซึ่ง Belkin ดูเหมือนจะตอบโจทย์อย่างหลังได้ดีมากกว่า
ส่วนตรงบริเวณด้านหน้านี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันครับ มีฝาปิดไว้สำหรับใส่ของจุกจิกต่าง ๆ ได้ด้วย โดยจากการวัดด้วยสายตาคร่าว ๆ สามารถที่จะใส่ ที่ชาร์จ, สายซิงค์, และมือถืออีกเครื่องหนึ่งได้อย่างสบาย ๆ เลย สำหรับคนไม่ชอบพกแต่ iPad ไม่ชอบพกกระเป๋าแยกก็ถือว่าสะดวกอยู่ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิด-ปิดฝาพับนั้นเป็นตีนตุ๊กแกครับ ถ้าหากใช้งานไปหลาย ๆ ปีแล้วมันเสื่อมก็สามารถเอาไปให้ช่างเย็บผ้าแถวบ้านช่วยซ่อมได้ประหยัดดี ^^
ลองเอามาใส่ของดู พบว่าช่องใส่ของนั้นเปิดอ้าได้เยอะมาก ๆ สามารถใส่กรรไกรได้สบาย ๆ เลยแหล่ะครับ O,o!
ผ้าสักหลาดที่อยู่บริเวณฝาด้านหน้าครับ มีรอยต่อสำหรับพับเพื่อใช้ในการตั้งอยู่ 2 รอยต่อด้วยกัน
ด้านหลังของเคสมีตัวล็อคสำหรับตั้งอยู่ สกรีนลาย Belkin สวยงาม แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถปรับองศาในการใช้งานได้
ตัวเคสนั้นด้านหลังจะเป็นเรียบ ๆ ธรรมดาออกแนวธุรกิจนิด ๆ ดูเรียบร้อยดีครับ
ด้านข้างของเครื่องนั้นมีช่องที่สามารถปรับเสียงได้ อย่างขนาดพอดีสามารถปรับได้อย่างง่ายดาย
ส่วนบริเวณด้านหน้านั้นมีแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร เจาะรูได้อย่างพอดี ซึ่งทำได้อย่างพอดีสามารถใช้งานได้อย่างดี ไม่มีปัญหาอย่างไร
ด้านล่างยังเก็บรายละเอียดได้อย่างดีด้วยการเจาะรูลำโพง ทำให้เสียงสามารถออกผ่านมาได้อย่างง่ายดาย
ตัวของ Access Folio Stand เมื่อทำการตั้งแล้วจะเป็นดั่งในภาพ (ทำได้แต่แนวนอน) โดยมุมมองนี้จะเหมาะสำหรับการดูหนังเป็นที่สุด แต่น่าเสียดายที่องศาการตั้งนั้นค่อนข้างที่จะชันเอาเสียมาก ๆ ทำให้ลำบากต่อการรับชม เมื่อตั้งอยู่บนโต๊ะ ซึ่งทำให้ต้องย้าย iPad ไปไกลยิ่งขึ้นถึงจะมองได้อย่างถนัด แต่ถ้าหากย้ายไปไกลก็จะทำให้มองเห็นรายละเอียดได้น้อยลง ;(
เมื่อมองจากด้านข้างแล้วจะพบว่าองศาในการตั้งนั้น ยังไม่เหมาะกับการใช้งานเอาเสียเลย ยกเว้นโต๊ะจะสูงมาก ๆ หรือวางบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วนอนดู (ซึ่งนั่นก็ไกลมาก ๆ อยู่ดี) ปัญหาก็คือมันไม่สามารถปรับองศาได้ด้วยนี่สิเลยลำบาก หากใครคิดว่าไม่มีปัญหาก็ใช้ไปครับ แต่ข้อดีของมันก็มีอยู่คือตัวฐานนั้นทำได้แข็งแรงมาก ๆ ไม่หล่นโดยง่าย ๆ สามารถวางลงบนคอนโซลรถได้สบาย ๆ
ภาพจากด้านหลัง กับขาล็อคของ Belkin ที่ไม่สามารถปรับได้
เมื่อจับเคสวางลงนอนจะรู้สึกว่าสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าแบบแรกเยอะเลย ซึ่งการวางแบบนี้เหมาะกับการใช้งาน App ต่าง ๆ รวมถึงการท่องเว็บมากกว่า (แต่บางเว็บถ้าจับถือแล้วใช้งานในแนวตั้งจะสะดวกกว่า) ซึ่งองศาการใช้งานในอันนี้นั้นไม่มีปัญหาในการใช้งานครับ สามารถใช้พิมพ์และใช้งานได้อย่างสบาย ๆ
ภาพจากด้านข้าง ดูเหมือนว่าตัวเคสจะหล่นลงมาได้ตลอดเวลา แต่จริง ๆ แล้วมันไม่หล่นครับ ค่อนข้างแข็งแรงด้วยซ้ำเพราะว่าตัวล็อคของ Belkin ที่อยู่ด้านหลังคอยค้ำอยู่
ตัวเคสนั้นสามารถป้องกันตัวปุ่ม Home ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีการครอบด้วยยางอยู่ เท่าที่ทางทีมงานได้ทดสอบนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้กดยากลงแต่อย่างใด สามารถกดได้ง่ายกว่าปกติเสียด้วยซ้ำ เพราะให้สัมผัสที่นุ่มกว่า ไม่แข็งกระด้างเหมือนกดลงบน iPad เพียว ๆ
สรุป : เป็นเคสยี่ห้อดังจากอเมริกาที่ค่อนข้างน่าผิดหวังนิด ๆ ครับ เนื่องจากว่าลูกเล่นน้อยเกินไปหน่อย และดูธรรมดาจนเกินไป ไม่มีระบบ Sleep-On/Off ที่ใช้ปิดหน้าจออัตโนมัติ อีกทั้งยังไม่มีวัสดุสำหรับล็อคฝาหน้าจอด้วย หากถือ ๆ อยู่แล้วทำบริเวณหน้าจอตกลงบนพื้นธรรมดาก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพราะมีขอบด้านข้างช่วยกันอยู่ แต่ถ้าตกลงบนก้อนหินหรืออะไรนูน ๆ นี่สิจะลำบาก ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่ององศาหน้าจอแนวตั้งที่ค่อนข้างจะชันไปหน่อย ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง และเคสยังหนาไปนิดครับ
ส่วนข้อดีนั้นก็ยังมีอยู่ครับ อย่างแรกเลยคือราคาของมันไม่แพงเวอร์จนเกินไป อยู่ระดับกลาง ๆ ที่ 1,590.- มีวัสดุชั้นยอดห่อหุ้มรอบตัวด้วยผ้าใยไมโครไฟเบอร์อย่างเหนียว(และทนมาก)ส่วนด้านในเป็นผ้าสักหลาด มีกระเป๋าด้านหน้าเอาไว้ใส่ของจุกจิกต่าง ๆ ได้มากมาย อีกทั้งยังมีการปกป้องปุ่ม Home ด้านหน้าด้วย(เรียบร้อยดี)ส่วนเรื่องความหนานั้นก็ต้องยอมรับว่ามันกันกระแทกได้ดี สำหรับคนที่ชอบเห็นแล้วคงชอบเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรหนา ๆ (แบบผม)คงส่ายหน้า อันนี้แล้วแต่คนชอบจริง ๆ ครับ
ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)