Attapon Thaphaengphan
อีกหนึ่งคำถามที่ทีมงานถูกถามเข้ามาไม่แพ้กันนั่นคือเรื่องราวของการเลือกฟิล์มกันรอยสำหรับอุปกรณ์ iPhone, iPad ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี? วันนี้จะขอนำคำถามที่ว่า “ฟิล์มกันรอยแบบด้าน vs. กระจกกันรอยแบบด้าน ควรเลือกอะไรดี” นำเสนอเอาไว้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านั้นมาใช้งานนะครับ
1. ข้อมูลทั่วไปของฟิล์มกันรอยสำหรับ iPhone iPad
หากแบ่งตามวัสดุที่ผลิตฟิล์มกันรอยรวมถึงฟิล์มกระจกกันรอยนั้นก็จำแนกได้เป็น
- ฟิล์มพลาสติกธรรมดา
- ฟิล์ม TPU
- กระจกกันรอยหรือที่เรียกติดปากว่าฟิล์มกระจก
นอกจากนั้นก็มีจำแนกคุณลักษณะออกไปอีกหลายแบบเช่น
- ฟิล์มแบบใส
- ฟิล์มด้าน ฟิล์มขุ่น ลดการสะท้อนแสงลดรอยนิ้วมือ
- ฟิล์มลดแสงสีฟ้า
- ฟิล์มที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวป้องกันการแอบมองจากคนรอบข้าง
มากมายหลายแบบเต็มไปหมด วันนี้ผมจะขอโฟกัสไปที่ ฟิล์มด้านและฟิล์มกระจกกันรอยแบบด้าน ที่มีคุณสมบัติเด่นคือ ลดการสะท้อนแสงและลดรอยนิ้วมือบนหน้าจอได้และทัชลื่นไม่สะดุด จะมาแนะนำว่าควรเลือกแบบไหนดีถ้าต้องการฟิล์มประเภทนี้
2. ฟิล์มกันรอยแบบด้าน vs. ฟิล์มกระจกกันรอยแบบด้าน ควรเลือกอะไรดี?
ก่อนที่จะเลือกว่าควรจะใช้ตัวไหนดี เรามาดูคุณสมบัติของทั้ง 2 แบบก่อนครับ
จุดที่เหมือนกันของฟิล์มด้านและฟิล์มกระจกแบบด้านก็คือ
- ลดการสะท้อนแสงที่มากระทบหน้าจอ ด้วยความที่จอ iPhone iPad เมื่อใช้งานกลางแจ้งหรือที่ที่มีแสงเยอะ แสงที่มากระทบจะทำให้เกิดเงาบนจอขึ้นมาได้จะทำทัศนวิสัยในการมองลดลง
- เพิ่มความลื่นในการสัมผัสจอ ทำให้การสัมผัสทำด้วยมือนั้นลื่นมากขึ้นเหมาะมากๆ สำหรับคนที่เล่นเกมจะทำให้นิ้วไม่สะดุดเวลาลากหรือเลื่อนวัตถุในเกม
ส่วนที่แตกต่างกันได้แก่
- วัสดุที่ใช้ในการผลิต
- ความทนทานในการใช้งาน
- ราคา
- ความสวยงาม
แล้วจะเลือกอะไรดีหละ?
จากประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวขอแนะนำตามนี้เลยนะครับ
ควรเลือกฟิล์มแบบด้านธรรมดาถ้าหาก
- ต้องการประหยัดงบและชอบการเปลี่ยนฟิล์มบ่อยๆ
- ถ้าใช้ iPhone iPad แบบรักษาความสะอาดดีเป็นทุน(ใช้งานแบบหวงของ) ฟิล์มกันรอยแบบด้านเพียงพอแล้วสำหรับคุณ
- ไม่อยากเจออาการจะฟิล์มกระจกกันรอยแตก
- ถ้าคุณวาดภาพบน iPad Pro แบบเยอะมาก เพราะฟิล์มแบบด้านจะมีความฝืดมากกว่าฟิล์มกระจกแบบด้าน ทำให้การวาดนั้นเหมือนคุณลาก Apple Pencil บนแผ่นกระดาษยังไงยังงั้นเลย มันอาจจะไม่ฝืดเท่าบนกระดาษแต่ทว่าฝืดกว่าลากบนแผ่นกระจกแน่นอนครับ
ควรเลือกฟิล์มกระจกแบบด้านถ้าหาก
- ต้องการความสวยงามเมื่อติดตั้งเสร็จ
- ต้องการติดตั้งฟิล์มด้วยตัวเอง ติดผิดก็สามารถแก้ไขได้และฟิล์มกระจกจะมีโอกาสเสียน้อยกว่าฟิล์มธรรมดา
- ไม่อยากเปลี่ยนฟิล์มบ่อย เพราะกระจกกันรอยมีความทนทานมากกว่าฟิล์มพลาสติก
- ถ้าใช้งานหนักหน่วงโดยเฉพาะ iPhone iPad ที่ต้องให้เด็กใช้งานด้วย แนะนำว่าควรเป็นฟิล์มกระจกแบบด้าน เพราะเด็กจะทำเลอะบ่อยมาก ฟิล์มกระจกจะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดีกว่า
- คุณเล่นเกมหนักมากหรือเกมที่ต้องรูดนิ้วรัวๆ แนะนำกระจกแบบด้านมันลื่นดี
- ทำเครื่องหล่นหรือมีของมีคมในกระเป๋ากระทบจอหรือข่วนจอบ่อยๆ กระจกจะกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าฟิล์มพลาสติก
- ถ้าคุณใช้ iPad Pro วาดภาพเป็นประจำและเบื่อฟิล์มธรรมดาแล้วอยากจะลองใช้กระจกกันรอยแบบด้านของ iPad บ้าง ก็มีเลือกอีกเช่นกัน ลองด้วยตัวคุณเองแล้วค่อยตอบตัวเองว่ามันเหมาะกับเราหรือไม่ (ชมรีวิวที่นี่)
3. แนะนำฟิล์มกันรอยและฟิล์มกระจกกันรอยแบบด้าน Focus Tempered Glass Full Frame Matte และแบบไม่เต็มจอ
ฟิล์มแบบด้านนั้นจะหาซื้อมาใช้งานได้ค่อนข้างง่ายตามร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริมมือถือทั่วไปหรือจะสั่งจากออนไลน์ก็ได้แล้วแต่ความสะดวก อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดก็คือ Focus Anti-Fingerprint Matte รุ่นนี้เป็นฟิล์มแบบด้านที่มีทั้งฟิล์มหน้าและหลังมาให้พร้อมกัน มีสำหรับ iPhone และสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ อีกเพียบ
ติดแล้วก็ถือว่าใช้งานได้ระดับดี ติดตรงลงตำแหน่งดีและติดตั้งได้ง่ายดีครับ ทัชลื่นครับ ลดรอยนิ้วมือได้ดีแต่ไม่ได้หมายความว่ารอยนิ้วจะไม่ติดนะ พอรอยนิ้วติดก็จับเช็ดเสื้อสักที 2 ทีก็ออกแล้ว, ลดการสะท้อนแสงได้ดีและแน่นอนว่าตามเอกลักษณ์ของฟิล์มด้านมันจะลดความชัดของจอลงไปนิดนึงครับ ชุดนี้จะมีฟิล์มด้านหลังมาให้ด้วยถือว่าดี
ส่วนฟิล์มกระจกกันรอยแบบด้านนั้นทีมงานเคยรีวิวฟิล์มแบบนี้เอาไว้แล้วลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวฟิล์มกระจกด้าน Smart Note Anti Finger Print สำหรับ iPad 10.5 นิ้วจาก Focus ส่วน iPhone นั้นขอแนะนำรุ่น Focus Tempered Glass Full Frame Matte ให้ชมกัน รุ่นนี้มีจะมีฟิล์มกระจกแบบด้านมาให้ 1 แผ่นและด้านหลังก็มีกันแบบด้านที่เป็นฟิล์มมาให้ด้วยเช่นกันครับสำหรับ
กระจกกันรอยแบบด้านมีให้เลือก 2 แบบคือ
- แบบเต็มจอ รุ่นติดแล้วจะปิดส่วนขอบของจอ iPhone เอาไว้ได้เลย มีจำหน่ายทั้ง iPhone 7, 8 (Plus) และ iPhone X ติดตั้งง่ายและสวยงามหลังติดตั้งเสร็จ
- แบบเต็มไม่จอ รุ่นนี้จะเป็นแบบใสทั้งแผ่น ไร้ขอบสีดำหรือขาว ติดแล้วจะเหลือส่วนของขอบจอ iPhone เอาไว้ ข้อคือใส่กับเคสได้ทุกรุ่น
จากการใช้งานพบว่า ฟิล์มกระจกแบบด้านจะมีความลื่นมากกว่าแบบฟิล์มพลาสติก ปกติความลื่นแบบนี้จะดีสำหรับคนที่เล่นเกมและต้องการความพริ้วในการลากนิ้วแบบที่ไม่สะดุด กระจกใช้ได้นานโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ทว่า ฟิล์มด้านพลาสติกจะมีความชัดมากกว่าฟิล์มกระจกแบบด้าน ครับ หากเทียบด้วยสายตาก็จะเห็นความแตกต่างได้ ดังนั้นหากใครคำนึงเรื่องความชัดกว่าอันไหนจะชัดกว่าในฟิล์มด้าน 2 แบบนี้ก็ตอบได้เลยว่าฟิล์มธรรมดานะครับ
ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอสามารถใช้งานกับเคส UAG, MOUS, ELEMENT CASE, Spigen Classic, Rhinoshield SolidSuite ได้อย่างดีไรปัญหาโดยที่เคสไม่ดันฟิล์มกระจก
การใช้งาน Face ID กับกระจกกันรอยตัวนี้เข้ากันได้ไม่มีปัญหาในที่ร่มแต่ถ้าหากออกกลางแจ้งระบบ Face ID จะมีอัตราการปลดล็อคที่ผ่านค่อนข้างน้อย
ประทับใจความลื่นในการสัมผัสแต่สิ่งที่อาจจะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นอีกคือความชัดที่ยังสู้ฟิล์มธรรมดาไม่ได้และความคมของขอบกระจกยังมีอยู่ ถ้าปรับปรุงสองจุดนี้เพิ่มก็น่าจะสมบูรณ์สำหรับฟิล์มกระจกแบบด้านนี้ครับ
ข้อมูลต่างๆ เขียนบอกไว้ให้เรียบร้อยที่เหลือก็ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้อ่านเองนะครับ เลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบที่เรามี ใช้ให้มีความสุขอย่างน้อยติดฟิล์มไว้ก็อุ่นใจกว่าครับ
รุ่นและสถานที่จัดจำหน่าย
สามารถหาซื้อฟิล์มกันรอยและกระจกกันรอยแบบด้าน Focus ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศหรือสั่งผ่านหน้าร้านออนไลน์ที่ Focus ก็ได้เช่นกันครับ สะดวกช่องทางไหนก็เลือกตามนั้นเลย และที่สำคัญช่วงนี้ฟิล์มกระจกแบบด้าน Focus ลดราคาราคาอยู่ด้วยตามไปสั่งกันได้เลยที่ >> https://www.focusshield.com
