หากใครกำลังมองหาปากกาสำหรับใช้งานบน iPad สักแท่งหนึ่ง ที่มีฟีเจอร์การใช้งานได้ใกล้เคียงกับ Apple Pencil ลองมาดูปากกาน้องใหม่กันสักหน่อย สำหรับ ADONIT NOTE ตัวใหม่ล่าสุด ที่เป็นปากกาสไตลัสใช้งานบน iPad มาดูกันว่าจะมีคุณสมบัติการใช้งานที่เจ๋งขนาดไหน ทีมงานมีรีวิวแบบละเอียดยิบมาให้ชมกัน ไปชมกันเลยค่ะ
รีวิว : ปากกาสไตลัส ADONIT NOTE อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสำหรับการจดโน้ตใช้งานบน iPad
ปากกา ADONIT NOTE เป็นปากกาสไตลัส ที่มีความแม่นยำค่อนข้างสูง มีประสิทธิภาพของการลากปลายปากกาและมีความไวต่อแรงกดเพื่อให้สามารถเขียนและวาดภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติบน iPad เกือบทุกรุ่น โดยการใช้งานนั้น สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว เพียงแค่เปิดสวิทช์ที่ด้ามปากกา ก็สามารถใช้งานได้เลย และเขียนแบบวางมือได้ โดยไม่ต้องต่อบลูทูธอีกด้วย
โดยปากกา ADONIT NOTE มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ สีทอง และสีดำ ซึ่งทางทีมงานจะมารีวิวร่วมกับ iPad 9.7″ (6th Generation)
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ปากกา ADONIT NOTE 1 แท่ง
- สายไมโคร USB 1 เส้น
- คู่มือการใช้งาน 1 เล่ม
ภาพโดยรวมของ ADONIT NOTE
ทีมงานเลือกสีที่มารีวิวเป็นสีทอง โดยปากกา ADONIT NOTE มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 15.5 เซนติเมตร
ตรงปลายปากกาจะมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์จสายไมโคร USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่
ขนาดจับเหมาะมือและมีน้ำหนักเบา รูปทรงสวยงาม ที่ด้ามปากกาเราจะเห็นว่ามีปุ่มกดไว้สำหรับเปิดการใช้งานไว้ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับนิ้วโป้ง หากจะเปิด/ปิดการใช้งานถือว่าทำได้ง่ายมากๆ เพียงขยับนิ้วโป้งเท่านั้น
วิธีการใช้งาน
เริ่มต้นการใช้งานกับ iPad ด้วยการเปิดการใช้งานของปากกาโดยการกดปุ่มเปิดสวิทช์ด้านข้างของด้ามปากกา จะปรากฏไฟสีน้ำเงินขึ้น นั่นหมายความว่าปากกาพร้อมจะใช้งานแล้ว
สัญญาณจากปากกาจะเชื่อมต่อเข้ากับ iPad อัตโนมัติ โดยไม่ต้องต่อบลูทูธหรือเข้าไปตั้งค่าใดๆ เราสามารถแตะการใช้งานแอปด้วยปากกาได้ทันที
ลองใช้งานในแอป GoodNotes 5 ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับจดโน้ต โดยปากกา ADONIT NOTE สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ไม่มีความหน่วงใดๆ และที่สำคัญคือ สามารถเขียนแบบวางมือได้
มาทดลองใช้กับแอปพลิเคชัน Procreate กันบ้าง ซึ่งแอปนี้เป็นแอปสำหรับวาดรูปบน iPad
จากการใช้งานปากกา ADONIT NOTE ก็ยังสามารถตอบสนองของการวาดได้เป็นอย่างดี โดยสามารถใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการขีดเส้นสายต่างๆ การแรเงา การลงสี ถือว่า ADONIT NOTE ทำได้ดีทีเดียว
แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของการวาดอยู่หนึ่งข้อก็คือ ปากกา ADONIT NOTE ยังไม่มีฟังก์ชันรองรับแรงกดของปากกา นั่นหมายความว่าขนาดของเส้นที่วาดยังเป็นขนาดเดียวกันทั้งหมด ยังไม่สามารถลงน้ำหนักเส้นในการวาดได้
ส่วนการใช้งานกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ก็ยังตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาใดๆ
การชาร์จแบตเตอรี่
ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ADONIT NOTE ได้ให้สายไมโคร USB มาเพื่อเสียบเข้ากับปลายปากกาและอีกด้านหนึ่งก็เสียบชาร์จเข้ากับอุปกรณ์หัวชาร์จอแดปเตอร์ทั่วไปหรือกับพอร์ต USB ใน Notebook ก็ได้
ในขณะชาร์จแบตเตอรี่ ไฟที่ด้ามปากกาจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม
หากชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วจะปรากฏไฟสีน้ำเงินพร้อมใช้งานดังเดิม
มาลองเปรียบเทียบกับขนาด Apple Pencil (รุ่นที่ 1) จะเห็นว่ามีขนาดที่ใกล้เคียงกัน โดยปากกา ADONIT NOTE มีขนาดที่สั้นกว่าเล็กน้อย
มาชมปากกา ADONIT NOTE ทั้งสองสีกันค่ะ
ข้อมูลอื่นๆ ของปากกา ADONIT NOTE
- สามารถใช้ติดต่อกันได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง
- ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ไม่เกิน 45 นาที
- หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานเกิน 20 นาที ไฟที่ด้ามปากกาจะดับหรือปิดสวิทช์เองโดยอัตโนมัติ
- สามารถเปลี่ยนหัวปากกาได้
Adonit Note ใช้ได้กับ iPad รุ่นไหนได้บ้าง?
- iPad Pro (3rd Generation 11″ และ 12.9″)
- iPad Air (3rd Generation)
- iPad (6th Generation)
- iPad mini (5th Generation)
สรุปการรีวิว ADONIT NOTE
ปากกา ADONIT NOTE ถือว่าเป็นปากกาสไตลัสที่มีความแม่นยำสูงและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การเขียนหรือวาดเป็นธรรมชาติและมีความอิสระตลอดการใช้งาน เหมาะกับผู้ที่ใช้ iPad รุ่นทั่วไปที่ปากกา ADONIT NOTE รองรับ ที่สำคัญคือทำงานได้ดีและเหมาะมากสำหรับการจดโน้ต
หากใครที่เน้นการจดโน้ตมากกว่าการวาดรูป แนะนำเลยว่าปากกา ADONIT NOTE เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการใช้งานทางด้านนี้ โดยฟังก์ชันทั้งหมดที่จัดหนักจัดเต็มนี้เพียง 2,290 บาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ทำงานได้ใกล้เคียงกับ Apple Pencil และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ทดแทน Apple Pencil ได้ดีสำหรับการจดโน้ต
สามารถติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Adonit Thailand Facebook :https://www.facebook.com/AdonitTH/
ชมคลิปรีวิวปากกา Adonit Note