watchOS 6 ปล่อยอัปเดตอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้ Apple Watch Series 3 สามารถอัปเดตได้แล้ววันนี้ (20 กันยายน 2019) เรามาชมข้อมูลที่ควรทราบและฟีเจอร์ใหม่ใน watchOS 6 กันเลย
watchOS 6
watchOS 6 เวอร์ชันทางการปล่อยอัปเดตแล้ว เลข Building Number 17A575 อุปกรณ์ที่รองรับ watchOS 6 ได้แก่
- Apple Watch Series 5 (2019)
- Apple Watch Series 4 (2018)
- Apple Watch Series 3 (2017)
- Apple Watch Series 2 (2016)
- Apple Watch Series 1 (2016)
หมายเหตุ ในครั้งนี้ (20 กันยายน 2019) Apple จะปล่อยอัปเดตเฉพาะ Apple Watch Series 3 เป็นต้นไป ส่วน Apple Watch Series 1 และ Series 2 รออัปเดตภายในปีนี้
ไฮไลท์สิ่งใหม่ใน Watch OS 6
1. หน้าปัดใหม่
watchOS 6 เวอร์ชัน beta มาพร้อมกับหน้าปัดใหม่ที่สวยงามและดูทันสมัยมากขึ้น ได้แก่
- หน้าปัดโมดูลาร์คอมแพค (Modular Compact) เป็นหน้าใหม่ที่ทีลักษณะคล้ายๆ กับหหน้าปัดโมดูลาร์ใน watchOS 5 แต่ในส่วนนาฬิกา สามารถปรับแต่งให้เป็นแบบดิจิตอลหรืออนาล็อกได้
- หน้าปัดแคลิฟอร์เนีย (California) เป็นหน้าปัดเข็มอนาล็อกที่มีความสวยงามแบบคลาสสิค สามารถปรับแต่งสีพื้นหลังแบบเต็มจอได้ ซึ่งแต่ละสีจะเป็นโทนวินเทจ รวมถึงปรับแต่งประเภทของตัวเลขได้ เช่น เป็นแบบขีด โรมัน หน้าปัดนี้มีกลไกหน้าปัดให้ปรับแต่งได้
- หน้าปัดตัวเลขสองสี (Numerals Duo) หน้าปัดนี้จะเป็นการแสดงนาฬิกาแบบดิจิตอล จุดเด่นอยู่ที่ตัวเลขหนาๆ แสดง 2 สี ปรับแต่งสไตล์ให้เป็นแบบทีบหรือแบบโปร่งได้
- หน้าปัดตัวเลขสีเดียว (Numerals Mono) จะแสดงเวลาแบบอนาล็อกผสมกับดิจิตอล โดยจะมีตัวเลขตัวหนาบอกเวลาเป็นชั่วโมงที่อยู่ใช้สามารถปรับแต่งสีสันและสไตล์ตัวอักษรเองได้เหมือนกับหน้าปัดตัวเลขสองสี และจะมีเข็มนาฬิกาบอกเวลาที่หมุนแบบเรียลไทม์
- หน้าปัดสุริยะใหม่ (Solar Dial) แสดงเวลา 24 ชั่วโมงตามแบบสมัยโบราณ โดยมีหน้าปัดวงกลมที่แสดงการติดตามดวงอาทิตย์และมีหน้าปัดนาฬิกาเล็กๆ ด้านในบอกเวลา เลือกได้ทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล สามารถปรับแต่งกลไลหน้าปัดที่มุมทั้ง 4 ได้
- หน้าปัดการใล่ระดับสี (Gradient) เน้นการแสดงผลสีพื้นหลังแบบเต็มหน้าจอหรือวงกลม สามารถปรับแต่งสีได้ตามใจชอบ โดยนาฬิกาจะเป็นรูปแบบอนาล็อก ไม่มีกลไกหน้าปัด
2. Siri ที่ดียิ่งขึ้น
ใน watchOS 6 Siri ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำงานร่วมกับแอป 3rd Party ได้มากขึ้น โต้ตอบได้ดีขึ้น แสดงผลลัพธ์รายละเอียดที่ดีขึ้นได้บนหน้าจอ Apple Watch เลย
2. มี App Store เป็นของตนเอง
เพิ่มแอป App Store บน Apple Watch โดยเฉพาะ สามารถค้นหาและติดตั้งแอปได้โดยไม่ต้องเปิดใช้ใน iPhone เนื่องจาก Apple ได้เพิ่มแอป App Store บน Apple Watch ที่แยกตัวออกจาก iPhone อย่างเป็นอิสระ การจัดการแอปก็ทำได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มแอปใหม่ และปรับปรุงแอปเดิม
มีการเพิ่มแอปใหม่ที่ช่วยให้การใช้งาน Apple Watch สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทั้งแอปเครื่องคิดเลข แอปบันทึกเสียง และแอปหนังสือเสียง (ใช้งานในไทยยังไม่ได้) พร้อมกับปรับปรุงแอปเตือนความจำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- แอปครื่องคิดเลข คิดเลขบวก ลบ คูณ หาร อย่างรวดเร็วบนหน้าจอ Apple Watch และมีฟังก์ชันสำหรับการคำนวณทิปและเปอร์เซ็นต์ให้อีกด้วย
- แอปบันทึกเสียง สามารถบันทึกหรืออัดเสียงได้บน Apple Watch โดยใช้ไมค์ของ Apple Watch เอง หรือจะเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธที่มีไมค์ก็สามารถอัดเสียงผ่านอุปกรณ์ได้เช่นกัน
- แอปเตือนความจำ ปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้อยู่ในธีมเดียวกับ iOS 13 บน iPhone ดูรายการเตือนความจำง่ายขึ้นสามารถเพิ่มการเตือนความจำได้บน Apple Watch
4. เพิ่มสติกเกอร์ Animoji
สามารถใช้สติกเกอร์ Animoji ที่สร้างบน iPhone มาส่งในแอปข้อความบน Apple Watch ได้แล้ว เพิ่มความสนุกในการส่งข้อความมากขึ้น
5. แนวโน้มการออกกำลังกาย
ในแอปกิจกรรม (Activity) ได้เพิ่มแถบแนวโน้ม (Trend) ที่มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ออกกำลังกาย ยืน ระยะทาง นาทีการยืน ฟิสเนสแบบคาร์ดิโอ เวลาเฉลี่ยต่อระยะทางเดิน และเวลาเฉลี่ยนต่อระยะทางวิ่ง
แนวโน้มการออกกำลังกายจะแสดงข้อมูลแต่ละประเภท 90 วันย้อนหลังว่ามีคืบหน้าอย่างไรบ้างหากเทียบกับ 365 วันย้อนหลัง มีการพัฒนาดีขึ้นหรือแย่ลง พร้อมคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ใช้หมั่นเคลื่อนไหว ยืน และออกกำลังกาย อยู่เป็นประจำและปิดวงแหวนกิจกรรมให้ได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดี
6. ติดตามรอบเดือน
ฟีเจอร์ติดตามรอบเดือน (Cycle Tracking) เหมาะหรับผู้หญิงเป็นอย่างมากที่จะติดตามการมาของรอบเดือน รวมทั้งบันทึกข้อมูลปริมาณ อาการ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ แอปสามารถคำนวณคาดการณ์รอบเดือนในเดือนถัดไปได้ เพื่อให้เราเตรียมตัวก่อนรอบเดือนจะมา
นอกจากนี้แอปยังคำนวณช่วงของวันที่ไข่ตก ที่จะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากตั้งครรภ์ได้อีกด้วย สำหรับผู้ชายที่มีภรรยาก็สามารถสอบถามและบันทึกข้อมูลแทนภรรยาได้เช่นกัน
ชม พรีวิวการติดตามรอบเดือน (Cycle Tracking) บน Apple Watch ใน watchOS 6
7. ติดตามเสียงรบกวน
ฟีเจอร์ใหม่ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหูและการได้ยิน ด้วยการติดตามเสียงรบกวน (Noise) ที่คอยวัดความดังของเสียงรอบข้างเป็นหน่วยเดซิเบล และแจ้งให้เราทราบว่าเสียงในสภาพแวดล้อมนี้มีผลอย่างไรต่อการได้ยินบ้าง หากเสียงดังเกินไป ก็จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือระดับเดซิเบลได้
ชม พรีวิวแอป Noise ติดตามเสียงรบกวนรอบข้างที่มีผลต่อสุขภาพการได้ยินใน watchOS 6
คุณสมบัติเพิ่มเติมใน watchOS 6
- เพิ่มการยืนยันตัวตนบน Apple Watch เวลาที่เราล็อกอิน iCloud ด้วย Apple ID หรือทำการล็อกอิน Apple ID ในอุปกรณ์เครื่องอื่น ช่วยให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนการลงชื่อเข้าใช้ Apple ID ได้ง่ายขึ้นโดยสามารถทำบนข้อมือได้เลย
- มีเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา เช่น API เสียงสำหรับสตรีมเพลง วิทยุ และพ็อดคาสท์ API ที่ขยายเวลารันไทม์ให้กับงานที่แบ่งเป็นเซสชัน เช่น การทำกายภาพบำบัดและการทำสมาธิ และตอนนี้ Core ML ก็ใช้ Apple Neural Engine บน Apple Watch Series 4 ซึ่งช่วยให้ประมวลผลค่าอินพุตบนอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น
- Apple GymKit ขยายความสามารถในการรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จากผู้ผลิตต่างๆ เช่น Octane Fitness, TRUE Fitness และ Woodway ช่วยให้ Apple Watch เชื่อมต่อกับเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสต่างๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น
- เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดของ Apple Watch ออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น
- แอปเสียงรบกวนจะไม่บันทึกข้อมูลเสียงหรือเสียงในพื้นหลังหรือส่งไปยัง Apple โดยจะเก็บตัวอย่างแค่ระดับเดซิเบลเท่านั้น
- ข้อมูลจากคุณสมบัติด้านสุขภาพของ Apple Watch เช่น แอปการติดตามประจำเดือน จะปรากฏในแอปสุขภาพที่ออกแบบใหม่บน iOS 13 ข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการเข้ารหัสบนอุปกรณ์ และหากผู้ใช้เลือกสำรองข้อมูลบน iCloud ข้อมูลก็จะได้รับการเข้ารหัสบน iCloud ด้วยเช่นกัน
อัปเดตเป็น watchOS 6
สำหรับข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการอัปเดตเป็น watchOS 6 มีดังนี้