หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2019, จะเห็นได้ว่า Apple ขาย iPad ได้มากขึ้นทั้งเชิงปริมาณและรายได้ ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ iPad เริ่มกลับมาทำได้ดีอีกครั้ง
iPad หลายรุ่น เจาะลูกค้าได้กว้างขึ้น
ในปี 2019 นี้ Apple เปิดขาย iPad หลายรุ่น ได้แก่ iPad Air 3, iPad mini 5, iPad รุ่นที่ 7 และ iPad Pro ที่วางขายอยู่แล้ว ทำให้ไลน์สินค้า iPad ของ Apple ค่อนข้างครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้า
- iPad Pro เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับโปรจริง ๆ
- iPad Air 3 เหมาะกับผู้ใช้ iPad ที่เริ่มใช้งานแบบโปรแล้ว แต่กำลังทรัพย์ไม่ถึง iPad Pro
- iPad รุ่นที่ 7 เหมาะกับนักศึกษาหรือผู้ใช้ทั่วไปที่เริ่มใช้ iPad
- iPad mini 5 เหมาะสำหรับคนที่ชอบ iPad เครื่องเล็ก
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ยอดขายทั้งเชิงปริมาณและรายได้จากการขาย iPad ของ Apple มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยไตรมาส 4 ปี 2019, Apple มีรายได้จากการขาย iPad 4.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว ๆ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยรายงานจากสื่อเผยว่า Apple ขาย iPad ไปได้ 10.1 ล้านเครื่องในไตรมาสดังกล่าว
iPadOS ทำให้ iPad เป็น iPad
ในอดีต, iPad จะใช้ iOS เป็นระบบปฏิบัติการเหมือนกับ iPhone ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหน้าตาการใช้งาน ลักษณะการใช้งานไม่ได้แตกต่างจาก iPhone ทำให้ iPad ดูไม่เป็น Tablet เท่าที่ควร
แต่หลังจาก Apple เปิดตัวและปล่อยอัปเดต iPadOS ที่ออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะ ก็ทำให้ iPad มีความเป็น iPad มากขึ้น การทำให้ iPad รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมภายนอก เช่น USB Drive, เมาส์, จอยเกม และอื่น ๆ ก็ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของ iPad ให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนั้น iPadOS ยังผลักดันให้ผู้ให้บริการแอป ปรับปรุงแอปของตัวเองให้ใช้งานร่วมกับ iPad ได้ดี เช่น Adobe Photoshop ที่ทำให้ผู้ใช้ iPad สามารถจบงานกราฟิกได้เลย เป็นต้น
iPad ราคาเริ่มไม่สูงมาก
เหมือนที่กล่าวไปข้างต้นว่าการที่ Apple เปิดขาย iPad หลายรุ่น ส่วนหนึ่งก็เพื่อเจาะลูกค้าได้หลายกลุ่มมากขึ้น โดยราคาเริ่มต้น iPad ที่ถูกที่สุดในตอนนี้คือ iPad จอ 10.2 นิ้ว (รุ่นที่ 7) ที่มีราคาเริ่มเพียง 10,900 บาทเท่านั้น และยังรองรับ Apple Pencil, Smart Keyboard และ iPadOS ด้วย จึงเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายในแง่การขายเชิงปริมาณ
อนาคตของ iPad
ผู้เขียนมองว่า Apple จะยังเป็นผู้นำตลาด Tablet ไปอีกยาว ๆ เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว สเปค Tablet ในปัจจุบันก็อยู่ในระดับเดียวกันไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก แต่จุดที่วัดกันจริง ๆ คือเรื่องแอปพลิเคชันที่มีให้ใช้งานว่าจะตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละกลุ่มได้มากน้อยขนาดไหน
เชื่อเลยว่าหลังจากนี้ Apple คงอัปเดตสเปคและเปิดตัว iPad ใหม่ทุกปีและจะมาพร้อมความสามารถใหม่ที่เพิ่มขึ้น และ Apple เองก็พยายามที่จำทำให้ iPad นั้นมาแทนคอมพิวเตอร์ให้ได้ เหมือนกับที่ Apple นำเสนอบ่อยครั้งในช่วงหลัง ๆ มานี้