สำหรับผู้ใช้ Apple Watch ใหม่อาจจะยังสงสัยเรื่องการแจ้งเตือนระหว่าง iPhone กับ Apple Watch ที่จับคู่กัน ทีมงานจึงมีคำแนะนำและเงื่อนไขในการแจ้งเตือนมาให้ชมกันค่ะ
เงื่อนไขการแจ้งเตือนบน Apple Watch และ iPhone ที่จับคู่ เมื่อเปิดการตรวจจับข้อมือ
การตรวจจับข้อมือ (Wrist Detection) บน Apple Watch เป็นฟีเจอร์ที่ตรวจจับการสวมใส่ Apple Watch เพื่อล็อคเครื่อง ถ้าเราเปิดการตรวจจับข้อมือไว้ Apple Watch จะล็อคเครื่องอัตโนมัติ เมื่อเราไม่ได้สวมใส่ เพื่อความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลเวลาที่เราถอดนาฬิกาวางไว้ และยังสามารถเปิดการปลดล็อคด้วย iPhone ได้ด้วย
แต่ถ้าหากเราปิดการตรวจจับข้อมือ เวลาที่เราถอด Apple Watch วางไว้ เครื่องก็จะไม่ล็อคอัตโนมัติ อาจจะเกิดความเสี่ยงในการเข้าถึงข้อมูลในเครื่องโดยผู้อื่น
ฟีเจอร์การตรวจจับข้อมือนี้มีความสัมพันธ์กับการแจ้งเตือนบน Apple Watch ที่มีเงื่อนไขการแจ้งเตือนระหว่าง Apple Watch กับ iPhone ที่จับคู่ด้วย ทีมงานจะอธิบายดังนี้
กรณีที่เปิดการตรวจจับข้อมือ (Wrist Detection Enable)
- ถ้าหาก iPhone ปลดล็อคอยู่ การแจ้งเตือนจะแจ้งบน iPhone เท่านั้น ไม่แจ้งเตือนบน Apple Watch
- ถ้าหาก iPhone ล็อคอยู่หรืออยู่ในโหมดพักเครื่อง และขณะนั้น Apple Watch ถูกปลดล็อคอยู่ การแจ้งเตือนจะแจ้งเตือนเฉพาะบน Apple Watch ไม่แจ้งบน iPhone
- ถ้า Apple Watch ถูกล็อคหรือเปิดโหมดห้ามรบกวนไว้ การแจ้งเตือนจะแจ้งไปยัง iPhone เท่านั้น
กรณีที่ที่ปิดการตรวจจับข้อมือ (Wrist Detection Disable)
- การแจ้งเตือนจะถูกส่งไปทั้ง iPhone และ Apple Watch พร้อมกัน (แจ้งเตือนทั้งคู่)
และนี่ก็เป็นเงื่อนไขการแจ้งเตือนระหว่าง iPhone กับ Apple Watch ที่จับคู่กัน ใครที่สงสัยว่าทำไมการแจ้งเตือนถึงแจ้งเฉพาะเครื่องใดเครื่องหนึ่งก็ลองอ่านและทำความเข้าใจกันดูนะคะ ส่วนใครที่อยากจะให้มีการแจ้งเตือนทั้งสองอุปกรณ์ก็ปิดการตรวจจับข้อมือได้เลย แต่อาจจะต้องเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล
บทความแนะนำเพิ่มเติม
- วิธีตั้งค่ารหัสผ่าน (Passcode) บน Apple Watch เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- วิธีตั้งรหัสผ่าน Apple Watch ให้มากกว่า 4 หลัก เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงมากขึ้น
- ลืมรหัสผ่าน (Passcode) Apple Watch ทำอย่างไร
ขอบคุณ Apple