Apple Watch SE เป็นอุปกรณ์รุ่นราคาย่อมเยาว์ที่ใครหลายคนกำลังเล็งไว้อยู่ แต่ด้วยคุณสมบัติบางอย่างที่ Apple Watch SE ไม่มี จึงทำให้ลังเลว่าจะเลือก Apple Watch Series 5 ดีไหม ซึ่งตัวแทนจำหน่ายบางร้านได้ลดราคาลงบ้างแล้ว ทีมงานจึงมีข้อเปรียบเทียบและคำแนะนำมาให้ชมกันค่ะ
เปรียบเทียบ Apple Watch SE และ Apple Watch Series 5
ตัวเรือนและขนาด Apple Watch SE และ Apple Watch Series 5 มีขนาดเท่ากัน โดยมีตัวเรือน 40 มม. และ 44 มม. รวมถึงฮาร์ดแวร์ภายในและการทำงานก็แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง เรามาสรุปสิ่งที่ Apple Watch ทั้ง 2 รุ่นมีเหมือนกัน ดังนี้
- ตัวเรือนขนาด 40 มม. และ 44 มม.
- มีทั้งรุ่น GPS และรุ่น GPS + Cellular
- ใช้จอภาพ LTPO OLED Retina ความสว่าง 1,000 นิต
- จอภาพกระจก Ion-X
- โปรเซสเซอร์ SiP S5 แบบ Dual-Core 64 บิต และชิประบบไร้สาย W3
- ความจุ 32GB
- Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น
- คุณสมบัติที่มีเหมือนกัน:
- แจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูงและต่ำ
- โทรฉุกเฉินทั่วโลก และ SOS ฉุกเฉิน
- ตรวจจับการล้ม
- GPS/GNSS, เข็มทิศ
และมาตรวัด ความสูง แบบทำงานตลอด - ทนน้ำระดับ 50 เมตร
- LTE และ UMTS, Wi‑Fi และ Bluetooth 5.0
สิ่งที่ Apple Watch Series 5 มี แต่ Apple Watch SE ไม่มี
- Always on Display หน้าจอแบบติดตลอด แสดงผลหน้าจอตลอดเวลา
- เซ็นซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า สามารถวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพหัวใจ
- มีรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม, สแตนเลสสตีล, ไทเทเนียม, เซรามิค และมีรุ่น HÈRMES, Nike
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,400 บาท (หลังจากที่ตัวแทนบางร้านปรับลดราคาแล้วจาก 13,400 บาท บางร้านอาจจะผูกโปรโมชันในราคาที่ต่ำกว่านี้)
สิ่งที่ Apple Watch SE มี แต่ Apple Watch Series 5 ไม่มี
- มีมาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด เหมาะกับคนที่ชอบปีนเขา เที่ยว หรือออกกำลังกายเส้นทางธรรมชาติ
- ราคาประหยัด เริ่มต้น 9,400 บาท (รุ่น GPS + Cellular ยังไม่วางจำหน่ายในประเทศไทย – ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2020)
- มีเฉพาะตัวเรือนอะลูมิเนียม และรุ่น Nike
สรุปรุ่นไหนเหมาะกับเรา
สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดหรืออยากประหยัด เน้นการออกกำลังกายและใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ก็แนะนำว่าให้เลือกซื้อ Apple Watch SE ได้เลย ซึ่งเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามาก ๆ ชิปประมวลผล S5 ยังคงทำงานได้ดี และฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ก็เกือบครบครัน เหลือเพียงแต่ ECG และ Always on Display เท่านั้น
แต่สำหรับคนที่เน้นออกกำลังกายเหมือนกัน และชอบหน้าจอ Always on Display ที่แสดงผลหน้าจอ Apple Watch ตลอดเวลาไม่ดับเวลายกข้อมือลง และสำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพที่เผื่อรองรับฟีเจอร์ ECG ในอนาคต เช่น ผู้มีปัญหาโรคหัวใจ ต้องการซื้อให้ผู้สูงวัย เป็นต้น หรืออยากจะได้ตัวเรือนแบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อะลูมิเนียม ก็แนะนำว่าให้ซื้อ Apple Watch Series 5 ได้เลย
แต่ถ้าใครมีงบประมาณเหลือ ๆ เพิ่มเงินหลักพันนิด ๆ ก็แนะนำให้มอง Apple Watch Series 6 ไปเลย เนื่องจากได้ชิปประมวลผล S6 และชิปอัลตร้าไวด์แบรนด์ U1 ที่รองรับการใช้งานในอนาคต และได้ใช้งานฟีเจอร์การวัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วย แถมยังมีตัวเรือนให้เลือกหลายรูปแบบ