VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network หรือแปลตรงตัวเลยก็คือการจำลองเครือข่ายส่วนตัว เนื่องจากระบบอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่เป็นสาธารณะ ทำให้ง่ายต่อการติดตามหรือควบคุม เปรียบดั้งการติดแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่วิ่งตามท้องถนนนั่นเอง สามารถตรวจสอบ Log ได้ว่าเป็นใคร หรือมี IP Address เข้าใช้งานจากที่ไหน
VPN คืออะไร ?
ในทางกฎหมายแล้วหากเราไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์คือผิด แต่ในทางโลกออนไลน์แล้วก็ไม่ผิดอะไรที่เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัว หรือจะเป็นการใช้งาน VPN เพื่อจำลองเครือข่ายด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หรืออะไรก็ตามแต่ (อันที่จริงมันใช้ประโยชน์ได้เยอะมาก)
VPN เพื่อข้ามโซนประเทศ
บางเว็บไซต์มีการจำกัดเข้าถึงเฉพาะบางประเทศเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นรายการทีวีในญี่ปุ่นหรือเกาหลี ที่มีการจำกัดเนื้อหาในประเทศ (ส่วนมากจะด้วยเหตุผลเรื่องลิขสิทธิ์) การใช้งาน VPN ผ่านเครือข่ายส่วนตัวเพื่อจำลองว่าเป็น IP Address ของประเทศนั้นก็ทำได้ หรือใครตัวที่สุดก็คงเรื่องสติกเกอร์ไลน์
VPN เพื่อเข้าเว็บไซต์ที่ถูกบล็อค
รัฐบาลหลายประเทศสามารถควบคุมและปิดกั๊นเว็บไซต์ได้ (ส่วนมากจะด้วยเหตุผลความมั่นคง) เพื่อเป็นการสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ บล็อคหรือจำกัดการเข้าถึงในบางเว็บไซต์ ทีนี้การใช้ VPN ก็เปรียบเสมือนการมีอุโมงส่วนตัว ในการปกปิดตัวตนไปเข้าเว็บไซต์นั้นจากประเทศอื่นอีกที
VPN เพื่อความเป็นส่วนตัว
อย่างที่กล่าวคือ VPN เป็นเครือข่ายเสมือนที่จำลองมาอีกที และเป็นไปได้ยากจนถึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุตัวตน (VPN มีหลายมาตรฐานเทคโนโลยี) เพราะเป็นการอ้อมเข้าเว็บไซต์อีกทีหนึ่ง ผู้ให้บริการเครือข่ายจะรู้แค่ว่าเราเข้าใช้งาน VPN แต่หลังจากนั้นคือจะไม่รู้แล้วว่าเราไปทำอะไร ที่ไหนและเมื่อไหร่
OvpnSpider แอปพลิเคชันฟรี VPN
- ดาวน์โหลด OvpnSpider
- เลือกประเทศ แนะนำ JP (หรือประเทศที่ต้องการ)
- กดที่ความเร็วสูง ๆ เพื่อเชื่อมต่อ VPN
1.1.1.1 แอปพลิเคชันฟรี VPN
- โหลดแอป 1.1.1.1
- ทำตามขั้นตอนติดตั้ง VPN Profile
- กดเปิด VPN