หูฟังไร้สาย True Wireless มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นทีมงาน iMoD ก็รีวิวเอาไว้ไม่น้อยเช่นกัน ล่าสุดได้มีโอกาสได้ลองสัมผัสและใช้งาน HyperSonic ตัวท็อปจากแบรนด์ LinearFlux ที่จุดเด่นของตัวนี้ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 6-8 ชั่วโมง การทนน้ำระดับ IPX7 และมาพร้อมคุณภาพเสียงที่ดีทุกย่าน
รีวิว LinearFlux รุ่น HyperSonic หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear ตัวท็อป เบสแน่นเสียงดี ทนน้ำ IPX7
Disclosure บทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย LinearFlux Thailand แต่เนื้อหาและข้อมูลรีวิวทั้งหมดเป็นประสบการณ์ตรงจากผู้เขียนเองทั้งสิ้น
ทำความรู้จักกับ LinearFlux (ลิเนียร์ฟลัคซ์) LinearFlux คือ Start up Tech แบรนด์ ที่ก่อตั้งโดยอดีตทีมวิศวกรเสียงผู้ร่วมออกแบบและพัฒนาหูฟัง Beats by Dr. Dre จนประสบความสำเร็จ ด้วยประสบการณ์ด้าน Sound Engineering และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การันตีด้วยรางวัลสุดยอดนวัตกรรม CES Innovation Award ปี 2018-2019 จึงนำมาสู่การพัฒนาหูฟังทรูไวเลส HyperSonic ขึ้น
HyperSonic หูฟัง True Wireless ตัวท็อปสุดจาก LinearFlux
สรุปสั้น ๆ ก่อนเลย
LinearFlux HyperSonic หูฟังตัวนี้ เบสแน่นมาก เสียงดีไม่หลอกหู แบตอึด 6-8 ชั่วโมงแถมทนน้ำ IPX7 ได้สบาย
นั่นคือคีย์หลักที่ผมค้นหาได้จากเจ้าหูฟัง HyperSonic ของ LinearFlux ตัวนี้ ซึ่งผมได้ทดสอบใช้งานมาและจะมารีวิวให้ชมกันเต็ม ๆ ในบทความนี้
1. การออกแบบ
วัสดุของหูฟังไร้สายรุ่นนี้ผลิตจากพลาสติก PC คุณภาพดีมาพร้อมกล่องสีดำด้าน ตัวกล่องมีลักษณะขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย หากเปรียบเทียบกับ AirPods และ AirPods Pro จะพบว่า LinearFlux HyperSonic ตัวนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าในมิติของความกว้างและความหน้า ส่วนความสูงจะน้อยกว่า (ดูภาพเปรียบเทียบด้านล่าง) ฝาด้านบนพิมพ์โลโก้แบรนด์ LinearFlux สีเขียวโดดเด่นซึ่งตัดกับสีของเคสชาร์จ ส่วนพอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จจะอยู่ที่ด้านหลัง
หลังเปิดฝาออกกล่องเคสจะพบว่าภายในของกล่องเป็นสีเขียวและสกรีนคำว่า HYPERSONIC ไว้ที่ด้านบน ส่วนชื่อแบรนด์จะอยู่ที่ด้านล่าง พบสัญลักษณ์ L (Left ซ้าย) ที่ใต้ตัว H และ R (Right ขวา) ที่ตัว I เขียนกำกับหูฟังแต่ละข้างเอาไว้ หูฟังเป็นชนิด In-Ear สีดำ นอกจากนี้ช่องเก็บหูฟังนั้นออกแบบให้เก็บได้ทั้งหูฟังที่ใส่และไม่ใส่ Sport Hook เพิ่มความสะดวกตามสถานการณ์ของการใช้งาน
ที่ตัวหูฟังมีการปั้มโลโก้ LF ไว้ที่ด้านบนของหูฟังทั้งสองข้างส่วนด้านล่างพอแกะออกมาจะเห็นขั้วของการชาร์จและสัญลักษณ์ L R แสดงไว้ที่หูฟังแต่ละข้าง
ซิลิโคน Ear Tips มีให้เลือกเปลี่ยนได้ 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง ใหญ่ สามารถถอดออกและสวมเข้าไปได้อย่างง่าย
หน้ากากซิลิโคนและ Sport Hook มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีดำและสีเขียว เปลี่ยนได้ง่ายและเลือกให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละโอกาสได้
2. การเชื่อมต่อครั้งแรก
การเชื่อมต่อหูฟัง LinearFlux HyperSonic ทดสอบกับ iPhone และ Mac พบว่าการเชื่อมต่อในครั้งแรกนั้นทำได้ง่ายมากดังนี้ครับ
- เปิดฝากล่องหูฟัง
- หยิบหูฟัง HyperSonic ออกจากกล่องหรือจะสวมเข้าที่หูก็ได้ จะได้ยินเสียง Voice Prompt แจ้งเตือนบอกว่าพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อ (HyperSonic is Ready to Connect to Bluetooth Device)
- ไปที่ iPhone หรือสมาร์ตโฟนอื่น ๆ เลือกไปที่การตั้งค่า> Bluetooth
- เลือกเชื่อมต่อ LinearFlux HyperSonic
- รอสักครู่ระบบจะขึ้นว่าเชื่อมต่อเสร็จแล้ว
เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานหูฟังได้ทันที ทั้งนี้การใช้งานนั้นสามารถใช้ฟังทีละข้างได้เช่นกันครับ
3. การควบคุมการใช้งาน
การสั่งการ LinearFlux HyperSonic จะใช้รูปแบบการกดที่หูฟังทั้ง 2 ข้าง สามารถควบคุมได้ดังนี้
- เล่นเพลง / หยุดเพลง : กด 1 ครั้งที่หูฟังด้านใดก็ได้
- เล่นเพลงถัดไป : กด 2 ครั้งที่หูฟังด้านใดก็ได้
- เล่นเพลงก่อนหน้า : กด 3 ครั้งที่หูฟังด้านใดก็ได้
- รับสาย : กด 1 ครั้งที่หูฟังด้านใดก็ได้
- วางสาย : กด 2 ครั้งที่หูฟังด้านใดก็ได้
- เรียก Siri / Google Assistant : กดค้าง 1 วินาทีที่หูฟังด้านใดก็ได้
LinearFlux HyperSonic รุ่นนี้ไม่รองรับการเพิ่มลดเสียง เราสามารถเปลี่ยนเพลงผ่านสมาร์ตโฟนของเราแทนครับ
4. การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นหลังเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนแล้วและการรีเซต
สำหรับใครที่มีอุปกรณ์มากกว่า 1 ตัว เช่น สมาร์ตโฟน 1 เครื่องและคอมพิวเตอร์ หากต้องการนำ LinearFlux HyperSonic สลับจากสมาร์ตโฟนไปใช้กับคอมพิวเตอร์ทำได้โดย
- ตัดการเชื่อมต่อ Bluetooth ของอุปกรณ์เก่า
- สวมหูฟังเข้าที่หูจากนั้นจะได้ยินเสียง HyperSonic in Paring Mode
- จากนั้นไปที่อุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เพื่อทำการเชื่อมต่อตามข้อที่ 3
การทำเช่นนี้จะช่วยให้หูฟังนี้สามารถใช้กับอุปกรณ์อื่นได้ แต่หากต้องการกลับมาใช้กับอุปกรณ์เดิม ก็ต้องเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง เพราะว่าหูฟังนี้ไม่รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ (หูฟังไร้สายส่วนมากเป็นเช่นนี้ คือ เชื่อมต่อได้ทีละอุปกรณ์)
การรีเซตหูฟังทำได้โดย กด 1 ครั้งและกดค้างนานประมาณ 10+ วินาที
5. คุณภาพของเสียงและประสบการณ์การใช้งานโดยภาพรวม
มาถึงหัวข้อสำคัญของการรีวิวคุณภาพเสียงและการใช้งาน LinearFlux รุ่น HyperSonic ที่หลาย ๆ คนอยากทราบว่าคุณภาพของเสียงจากหูฟังไร้สายตัวนี้จะดีขนาดไหน
5.1 หูฟังแบบ In-Ear ตัดเสียงด้วยซิลิโคน
LinearFlux HyperSonic เป็นหูฟังแบบ In-Ear การสวมใส่ทำได้ง่ายปรับง่าย อยู่แน่น ไม่หลุดง่าย มี Sport Hook มาให้เพื่อเพิ่มความกระชับและทำให้มั่นใจเมื่อใส่ออกกำลังกายได้ไม่หลุดแน่นอน หรือหากต้องการใส่ไปทำงานก็สามารถเปลี่ยนหน้ากากจากสีเขียวให้เป็นสีดำและได้ก็จะช่วยให้ดูเรียบหรูมากยิ่งขึ้น
สามารถตัดเสียงรอบ ๆ ได้เยอะพอสมควร การตัดเสียงนั้นใช้ประโยชน์จากซิลิโคน Ear Tips จึงเรียกว่า Passive Noise Cancellation ซึ่งหูฟังรุ่นนี้ไม่มี Active Noise Concellation (ANC)
ภาพรวมหากถามว่าตัดเสียงได้ไหมก็ต้องบอกว่าทำได้ดีครับ ซึ่งตอนที่พิมพ์รีวิวนี้ก็ใส่หูฟังนี้ผมยังพอได้ยินเสียงคีย์บอร์ดบ้างเล็กน้อย แต่หากเปิดเพลงฟังให้เสียงระดับ 40-50% ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย
5.2 คุณภาพเสียง
คุณภาพเสียงของ LinearFlux HyperSonic เสียงอยู่ในระดับดีถือว่าคุ้มค่าตัวเลยครับ ถ้าให้ลองเทียบกับ AirPods Pro นั้นถือว่าทำได้ใกล้เคียงในเรื่องความใสแต่ถ้าเรื่องเบสที่หนักแน่นและลึกนั้น HyperSonic ถือว่าทำได้ดีกว่าครับ (เหตุผลที่เลือกเปรียบเทียบกับ AirPods Pro เพราะเป็นหูฟัง In-Ear เช่นกัน)
ลงลึกกันอีกหน่อยกับเสียงเบสจัดได้ดีผมให้คะแนน 9.5/10 สำหรับเรื่องเบส แน่นลึกฟังสนุก โดยเฉพาะเพลงสาย EDM ก็เอาอยู่ ฝั่งของเสียงกลางฟังสบาย ๆ ได้ยินเสียงนักร้องชัดเจนใสๆ และเนื้อเสียงร้องจัดว่าชัดเจนครับ และส่วนของเวทีเสียงหรือว่า Sound Stage นั้น ทำได้ค่อนข้างดีมากครับ เวทีเสียงกว้าง แยกเสียงหูฟังซ้ายขวาได้ชัด อยากให้ลองฟังเพลง Strive (Binaural) แล้วจะทำให้รู้เลยว่าเสียงที่ฟังนั้นมาจากทางไหนประหนึ่งเหมือนว่าเรากำลังนั่งชมคอนเสิร์ตสดๆ เลยครับ
5.3 คุณภาพไมโครโฟน
ส่วนนี้สำหรับสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ในการสนทนาทั้งทาง LINE, Messenger และการโทรปกติ สามารถใช้งานทีละข้างได้แบบอิสระ เรื่องคุณภาพไมค์ของ LinearFlux HyperSonic ตัวนี้ทำได้ในระดับดีเสียงชัดเคลียดี ผู้ฟังปลายสายฟังแล้วไม่บอกให้เราพูดอะไรอีกรอบอันนี้ก็ถือว่าผ่าน ผมโทรทดสอบกับทีมงานบอกเลยว่าเสียงใช้ได้เลยเมื่อลองทดสอบมา ถือว่าให้ผ่าน
ส่วนถ้าจะให้คะแนนของไมค์รุ่นตัวนี้ผมให้ที่ 8/10 เรื่องเสียงถือว่าชัดอย่างที่บอกไปแต่ว่าข้อเสียที่เจอคือเสียงจะก้องอยู่บ้าง
5.4 แบตเตอรี่
หลังจากชาร์จเต็มสามารถใช้หูฟังได้ 6-8 ชม. ซึ่งเทียบเท่ากับ AirPods Pro จะอยู่ที่ 5 ชั่วโมง (เมื่อปิดโหมด ANC, Transparency) ถือว่าอยู่ได้นานมากและหากใช้งานร่วมกับกล่องชาร์จจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 20+ ชั่วโมง ถามว่าเพียงพอแต่การใช้งาน 1 วันไหมต้องบอกเลยว่าเกินพอครับ ส่วนการแสดงระดับของแบตเตอรี่นั้นหูฟังตัวนี้สามารถแสดงผลผ่าน Widget ของ iOS ได้ เพิ่มความสะดวกในการดูระดับแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น
ส่วนกล่องของหูฟังสามารถดูแบตเตอรี่ที่เหลือได้เช่นกันโดยสังเกตจากไฟ LED หน้ากล่องเมื่อกำลังชาร์จและเมื่อถอดหูฟังออกจากกล่องชาร์จ
- 0 – 25% ไฟกระพริบ 1 ครั้ง
- 25 – 50% ไฟกระพริบ 2 ครั้ง
- 50 – 75% ไฟกระพริบ 3 ครั้ง
- 75 – 99% ไฟกระพริบ 4 ครั้ง
- 100% ไฟติดค้าง
5.5 การดีเลย์
การใช้ดูคลิปผ่าน YouTube, Netflix บน iPhone และ Mac การดีเลย์น้อยระดับ 99.5% แต่ก็ยังไม่ถึง 100% นะครับ แต่โดยภาพรวมแล้วการรับชมคลิปก็ถือว่ารู้เรื่องครับอันนี้ให้ผ่าน หากเทียบกับฝั่ง AirPods Pro แล้วจะเท่ากันเลยเพราะอาการแบบนี้ก็เจอบน AirPods Pro เหมือนกัน
ทั้งนี้การทดสอบต่อมาคือใช้ในการตัดต่อวิดีโอผ่านแอป Final Cut Pro บนเครื่อง Mac Pro พบว่าหูฟัง LinearFlux HyperSonic นั้นยังพบอาการดีเลย์อยู่บ้าง ปากไม่ตรงกับเสียงโดยเสียงจะช้ากว่าประมาณ 1% ถือว่ายังไม่เหมาะหากต้องการใช้งานในลักษณะนี้
6. สรุปจุดเด่นและจุดที่ต้องพิจารณา
เห็นภาพรวมการใช้งานของหูฟังกันไปทั้งหมดแล้วต่อไปมาสรุปข้อดีข้อด้อยรวมไว้ให้เพื่อประกอบการพิจารณา
จุดเด่น
- เสียงดีมากจนรู้สึกได้ เสียงมีมิติ เบสลึกหนักแน่น ย่านเสียงสูงทำได้ดีถือว่าอยู่ในระดับใสดีเลย เวทีเสียงกว้างชัดเจน คุณภาพเสียงสมกับราคาค่าตัว จุดนี้กล้าพูดเพราะเทียบจากประสบการณ์จากการใช้หูฟังหลาย ๆ ตัว เรื่องคุณภาพเสียงผมว่าสู้กับ AirPods Pro ได้สบาย ๆ ครับ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากระดับ 6-8 ชั่วโมง หากใช้ร่วมกับกล่องชาร์จก็อยู่ได้เป็นวันหนึ่งวัน ใส่วิ่งออกกำลังกายหรือมาราธอน 42 กม. ก็คงจบสบายๆ แบบไม่ต้องพกกล่องชาร์จได้เลย
- กล่องชาร์จรองรับการชาร์จไร้สาย
- ตัดเสียงรบกวนจากภาพนอกได้ดีเลยด้วยความที่เป็น In-Ear และจุดหูฟังพอสวมเข้ารูหูจะแน่นทำให้เสียงจากภายนอกเข้าค่อนข้างน้อย
- มีอุปกรณ์เสริมให้เลือกเปลี่ยนหลายอันทั้ง Sport Hook, หน้ากากซิลิโคน ทำให้เปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งานได้
- รองรับเรียกใช้งาน Voice Assistant อย่าง Siri และ Google Assistant
- หูฟังมาพร้อมระบบ Voice Prompt หรือการแจ้งสถานะเพื่อให้ผู้ใช้ทราบ เช่น หูฟังกำลังเชื่อมต่อ, เชื่อมต่อเสร็จแล้ว, หยุดการเชื่อมต่อแล้ว ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่มันดีมากกว่ามีแค่ไฟสถานะแจ้งเตือนอย่างเดียว จุดนี้ชื่นชมครับ
- กันของเหลว IPX7 ทำได้ดีกว่า AirPods Pro สามารถใช้ออกกำลังกายโดนเหงื่อเยอะ ๆ หรือทนฝนตกได้
- การเชื่อมต่อครั้งแรกทำง่าย ใช้ครั้งต่อๆ มาก็ง่ายเพียงแกะออกจากกล่องแล้วใส่เข้าที่หูระบบจะเชื่อมต่อเอง
- สวมใส่ง่าย กระชับ ไม่หลุดง่าย มี Ear Tips ให้เปลี่ยน
จุดที่ควรพิจารณา
- ไม่มีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เพลงไม่หยุดเล่นถ้าหากถอดหูฟังออก แต่หากใส่หูฟังกลับเข้าที่เคสเพลงจะหยุดเล่นอัตโนมัติ
- ปรับระดับเสียงผ่านหูฟังไม่ได้
- ใช้งานหูฟังข้างเดียวไม่ได้ต้องใช้งานพร้อมกันหรือใช้เฉพาะด้านซ้ายข้างเดียวเท่านั้น เนื่องจากระบบจะใช้หูฟังด้านซ้ายเป็นตัวเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนก่อนเสมอ
7. สรุป
สำหรับหูฟัง LinearFlux HyperSonic ส่วนที่ประทับใจที่สุดก็คือเรื่องของคุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดีมาก เบสหนักก็เอาอยู่ ฟังเพลงสบายเสียงกลางไปสูงก็ใสชัดเคลียทำให้การฟังเพลงมีความสนุกมากขึ้น
เป็นมากกว่าหูฟังสำหรับการออกกำลังกายเพราะมีเคสซิลิโคนมาให้เปลี่ยนลุคให้เหมาะกับการใช้งานในโอกาสต่างๆ มี Sport Hook มาให้เพิ่มความมั่นใจสำหรับสายออกกำลังกายว่าจะแน่นกระชับไม่มีหลุด ส่วนระบบ Voice Prompt ที่มี ช่วยให้เรารู้สถานะของหูฟังเพิ่มความง่ายต่อการใช้งานโดยไม่ต้องจดจำจากจังหวะของไฟกระพริบ
มาตรฐาน IPX7 ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย การทนน้ำ ทนฝนทนเหงื่อจะช่วยให้มั่นใจสำหรับการใช้งานในกิจกรรมกลางแจ้ง แถมแบตเตอรี่อึด 6-8 ชั่วโมงต่อชาร์จและหากต้องการใช้เร่งด่วนก็ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ฟังได้อีกถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว
8. ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
หูฟัง True Wireless ไร้สาย HyperSonic จาก LinearFlux จัดจำหน่ายในราคา 4,999 บาท ส่วนอีกรุ่นคือ HyperSonic Lite ราคาอยู่ที่ 2,999 บาท มาพร้อมการรับประกัน 1 ปี ส่วนความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้ดูข้อมูลเปรียบเทียบที่กราฟิกด้านล่าง
ช่องทางการสั่งซื้อ
- Lazada LazMall: http://bit.ly/LINEARFLUXLZD
- Shopee: http://bit.ly/LINEARFLUXShopee
- Munkong Gadget : http://bit.ly/LINEARFLUXMunkong
- Mercular : http://bit.ly/LINEARFLUXMercular
เลือกช็อปตามสะดวกได้เลยนะครับ หวังว่าใครที่ช็อปไปแล้วหรือว่าใครมีหูฟังรุ่นนี้อยู่มาแชร์ประสบการณ์ที่ได้จากหูฟังนี้ไปด้วยกันนะครับ จะได้ช่วยเพิ่มข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับท่านอื่น ๆ ได้ครับ
ข้อมูลทางเทคนิค LinearFlux รุ่น HyperSonic
แบรนด์ | LinearFlux |
ประเภทหูฟัง | True Wireless In-Ear |
รุ่น | HYPERSONIC |
ระบบที่ใช้งานได้ | iOS, Android |
เวอร์ชั่น Bluetooth | 5.0 |
ไมโครโฟน | Multi-Beam |
ระดับการกันน้ำ | IPX7 / กันเหงื่อ กันน้ำ |
ใช้งานได้ต่อเนื่อง | 6-8 ชั่วโมง |
ใช้งานสูงสุดรวมเคส | 20+ ชั่วโมง |
การชาร์จเคส | USB-C, Qi Wireless Charge |
ระบบชาร์จไว | ซาร์จ 5 นาที ใช้งาน 1 ชั่วโมง |
การตอบสนองความถี่ | 20-20,000 Hz |
ตัดเสียงรบกวน | Passive Noise Cancelling |
สั่งงานด้วยเสียง | รองรับ Siri/Google Now |
ขนาด | หูฟัง : ยาว 30 x กว้าง 17 x ลึก 28mm เคส : ยาว 75 x กว้าง 30 x ลึก 45mm |
น้ำหนัก | หูฟัง : 10.2g เคส : 37.7g |
ราคาขายปลีก | 4,999 บาท |
อุปกรณ์ภายในกล่อง | – หูฟัง HyperSonic – เคสชาร์จรองรับ USB-C และ Qi Wireless Charge – สาย USB-A to USB-C – จุกซิลิโคน 3 ขนาด S, M, L – Sport Hook 2 สี เขียวและดำ – หน้ากากซิลิโคน 2 สี เขียวและดำ – คู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษ |
สอบถามและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- https://www.innovativetech.co.th
- Line : LinearFlux Thailand
- FB : LinearFlux Thailand
- Tel : 063 636 3288
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
ผมต้อม iMoD สวัสดีครับ