ไม่ใช่เพียง iPhone เท่านั้นที่แบตหมดเร็วและโดยอย่างยิ่งแล้ว iPhone 4S และ iPad 3 นั้นมันช่างกินจุเสียจริงๆ เพื่อให้การใช้งานราบรื่นใน 1 วันโดยไม่ให้แบตนั้นหมดไปเสียก่อน ทางทีมงานมีวิธีการตั้งค่า iPhone อย่างไรให้สามารถใช้แบตได้เต็มวัน มาชมกัน
การตั้งค่าส่วนนี้จะยังคงรักษาความสามารถของ iPhone ทำงานได้เต็มที่ ไม่ใช่ปิดทุกอย่างจนเหลือความสามารถแค่โทรเข้า รับสายนะครับ อันนั้นมันเกินไป เราปรับให้พอดีๆ แบบ Balance ให้ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีและประหยัดหลังงานไปในตัวด้วย
การตั้งค่าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Settings ของเครื่อง
ตั้งค่าระบบเครือข่าย
- ปิด WiFi หากไม่ได้ใช้
- ปิด Bluetooth หากไม่ได้ใช้
- ปิด 3G หากพื้นที่ที่คุณอยู่ยังไม่รองรับ
- ปิด Personal Hotspot หากไม่ได้ใช้
ระบบหน้าจอแสดงผล
- ตั้ง Auto-Lock เป็น 1 นาที
- ปรับแสงหน้าจอ
- ปรับ Auto-Brightness ให้เป็น Off ก่อน
- ให้เลื่อนแถบคุมแสงมาอยู่ที่ตำแหน่งใต้ตัว “h”
- แล้วเปิด Auto-Brightness ให้เป็น On
อีเมล
- ปิดฟีเจอร์ Fetch New Data อันนี้ไม่จำเป็นหากคุณไม่ใช่นักธุรกิจที่ต้องติดต่อทางอีเมลตลอดเวลา
- ตั้ง Push ให้เป็น Off
- หากต้องการ Push แต่ว่ามีหลาย Email Account ให้เลือกเปิดเฉพาะบัญชีที่จำเป็นเท่านั้น
- เมนู Show ให้ปรับค่าการดึงอีเมลมาแสดงให้น้อยที่สุด 25 – 50 อีเมล
ปิดแอปที่ไม่จำเป็นใน Multitasking
พยายามฝึกปิดแอปฯ ที่ไม่จำเป็นออกจาก multitasking นอกจากจะปรับหยุด Ram แล้วมันยังช่วยประหยัดแบตได้ด้วย
ฝึกวิธีการชาร์ตแบตให้ถูกต้อง
มีหลายแอปที่จะช่วยแนะนำการชาร์ตแบต iPhone ได้อย่างถูกต้อง บางแอป เช่น 360 Battery Saver ก็เป็นอีกแอปฯ ที่จะช่วยได้ แอปเหล่านี้จะคอยตอบสอบพร้อมทั้งเก็บสถิติการชาร์จแล้วพร้อมบอกสถานะตอนที่ชาร์จให้เราทราบด้วย ลองเลือกมาใช้งานสักตัวแล้วอายุแบตเตอรีของคุณจะอยู่ใช้การได้ตามเวลาอันควรจะเป็น