Apple เปิดตัว iOS 15 แล้ว มีสิ่งใหม่อะไรน่าสนใจบ้างดูสรุปข้อมูลที่นี่เลย
ไฮไลท์สิ่งใหม่ iOS 15
- ชื่อ iOS 15
- เน้นย้ำและให้ความสำคัญเรื่องการเชื่อมต่อ เช่น FaceTime
- FaceTime : รองรับ Spatial Audio ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน
- FaceTime : ตัดเสียงรบกวนจากไมค์ เพื่อให้โฟกัสที่เสียงพูด
- FaceTime : มี Grid View เพื่อให้เห็นผู้คนใน FaceTime ได้มากขึ้น
- FaceTime : รองรับ Portrait (หน้าชัดหลังเบลอ)
- FaceTime Link : สร้างลิงก์ห้องประชุมเพื่อเชิญส่งคนอื่นเข้าร่วมได้ทางช่องทางต่าง ๆ
- Share Play : ฟังเพลง ดูวิดีโอ แชร์หน้าจอร่วมกัน ระหว่างการสนทนา FaceTime ได้
- SharePlay API : สำหรับนักพัฒนาเพื่อนำไปใช้ในแอปตัวเองได้ เช่น Disney+, Hulu, TikTok,
- twitch
- Share Play : รองรับทุกอุปกรณ์ที่ใช้ FaceTime ได้
- Message : ดูภาพหลายภาพในห้องสนทนาได้ง่ายขึ้น
- Share with you : ดูได้ว่ามีใครส่งลิงก์ให้เราอ่านแล้วไม่ได้อ่านบ้าง ใช้ได้ทั้ง Apple Music, Photo, News, Safari, Apple TV, Podcast
- Focus : เพื่อให้ความสำคัญกับสิ่งที่ควรสำคัญ สร้างโฟกัสในแบบของตัวเองได้
- Focus : Notification จัดกลุ่มการแจ้งเตือนให้ดูง่ายขึ้น
- Focus : หากเปิด Do not disturb จะมีข้อความแสดงในห้องสนทนาว่าเราไม่ว่าง และปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ
- Focus : สร้างและจัดกลุ่มแอป กิจกรรม ที่เราต้องการ Focus ได้ เพื่ออนุญาตให้แอปแจ้งเตือนได้ เช่น โหมดทำงาน โหมดนอน
- Live Text : ใช้กล้อง iPhone ถ่ายข้อความจากภาพ แล้วแปลงข้อความจากภาพถ่ายเป็นข้อความเพื่อนไปใช้งานต่อได้
- Live Text : เลือกรูปที่มีข้อความมาแปลงเป็นข้อความได้เลย เช่น เบอร์โทร (ไม่รองรับภาษาไทย)
- Virtual Look up : จดจำภาพที่หน้าจอว่าเป็นภาพอะไร
- Spotlight ฉลาดขึ้น ค้นหาข้อมูลในอุปกรณ์ได้มากกว่าเดิม
- Photo Memories : แถบ For You สร้างวิดีโอจากภาพ ใส่เพลงได้, นำเพลงจาก Appe Music มาใส่ในรูปภาพหรือวิดีโอได้ ปรับแต่งภาพด้วย Memory Mixes
- Photo Memories : เลือกเพลงให้เข้ากับรูปภาพจาก Apple Music มีแนะนำเพลงให้เข้ากับ Mood ภาพด้วย
- Wallet : เพิ่มกุญแจเข้าไปในแอป Wallet เช่น CarKey ของ BMW
- Wallet : สแกนบัตรต่าง ๆ เช่น ใบขับขี่ใส่ Wallet ได้ (สหรัฐ)
- Weather : ปรับดีไซน์ใหม่ ใส่ข้อมูลที่จำเป็นเข้าไป เปลี่ยนกราฟิกของสภาพอากาศด้วย
- Weather : ภาพพื้นหลั
งเคลื่อนไหวที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ซึ่งจะแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์ รวมถึงปริมาณฝน ปริมาณหิมะได้แม่นยำยิ่งขึ้ น - Maps : เพิ่มรายละเอียดแผนที่ไปในประเทศอื่น ๆ มากขึ้น (ไม่มีไทย)
- Maps : เพิ่มรายละเอียดของสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น สีถนน สีตึก สีสะพาน
- Maps : มี Driving Mode แบบ 3 มิติ ที่จะทำให้การขับขี่ในเมืองดีขึ้น มีการเพิ่มรายละเอียดบนถนนมากขึ้น เช่น จุดกลับรถ เลนรถสาธารณะ
- Maps : สแกน และบอกเส้นทางด้วย AR ได้ (ไม่มีในไทย)
สรุปสิ่งใหม่ใน iOS 15
การโทร FaceTime ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น พร้อมด้วย SharePlay สำหรับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
ในการคุยกับเพื่อน ๆ ผ่าน Facetime จะมีระบบเสียงตามตำแหน่งที่จะทำให้เสียงพูดขณะโทร FaceTime เหมือนกับว่ามาจากตำแหน่งที่บุคคลนั้นอยู่บนหน้าจอ ไมโครโฟนโฟกัสเสียงพูดได้ดีขึ้น โดยจะแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง
แชร์ประสบการณ์ร่วมกันด้วย SharePlay ขณะพูดคุยกับเพื่อนๆ ด้วย FaceTime ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงใน Apple Music ดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ไปพร้อมกัน หรือการแชร์หน้าจอเพื่อดูแอปต่าง ๆ ด้วยกัน
SharePlay ใช้งานได้ทั้งบน iPhone, iPad Mac และ ยังสามารถใช้งาน Apple TV ได้ด้วย ผู้ใช้จึงสามารถดูรายการหรือภาพยนตร์บนหน้าจอขนาดใหญ่ไปพร้อม ๆ กับการคุย FaceTime
โดย SharePlay จะควบคุมการเล่นของทุกคนให้ตรงกัน และจะรองรับการชมเนื้อหาต่าง ๆ ใน Disney+, ESPN+, HBO Max, Hulu, MasterClass, Paramount+, Pluto TV, TikTok, Twitch และอีกมากมาย
ไม่เพียงแต่ผู้ใช้ iOS iPadOS และ macOS เท่านั้น ผู้ใช้จากแพลทฟอร์มอื่นสามารถเข้าร่วมการโทร FaceTime จากเว็บเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ Android และ Windows จากลิ้งค์การเชิญที่ได้รับ
เครื่องมือช่วยโฟกัส
“โฟกัส” ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะคัดกรองการแจ้งเตือนและแอปโดยพิจารณาจากสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการโฟกัส เราสามารถตั้งค่าอุปกรณ์เพื่อให้ตนเองจดจ่อกับเรื่องปัจจุบันได้เต็มที่ โดยสามารถสร้างโฟกัสในแบบของตัวเอง หรือเลือกโฟกัสที่แนะนำให้โดยอาศัยระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ ซึ่งจะแนะนำว่าควรอนุญาตให้บุคคลใดหรือแอปใดให้แจ้งเตือนเราได้บ้าง หากเรามีหลายอุปกรณ์ฟีเจอร์นี้จะถูกปรับใช้ในอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ของเราด้วย
ประสบการณ์ใหม่สำหรับการแจ้งเตื อน
ในการแจ้งเตือนมีการสรุปการแจ้งเตือนให้ เลือกแจ้งเตือนเฉพาะสิ่งที่สำคัญในช่วงเวลานั้น ๆ และจะจัดลำดับความสำคัญที่จะแสดงการแจ้งเตือนที่ผู้
ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ Live Text, การค้นหาด้วย Spotlight อันล้ำสมัย และอีกมากมาย
ใช้ Live Text เพื่อนำข้อความหรือข้อมูลจากรูปภาพมาใช้ต่อได้ เช่น เก็บบันทึกหมายเลขโทรศัพท์จากภาพถ่ายของหน้าร้านและสามารถเลือกเพื่อกดโทรได้ทันที
รู้จีกสิ่งที่อยู่ในภาพด้วย Virtual Look Up เพื่อจะได้ทราบข้อมูลอย่างเช่น ชื่อพันธุ์ของสัตว์และพืช ชื่อสถานที่ ชื่อผลงานศิลปะในภาพได้ทันที
การค้นหาผ่าน Spotlight ที่ชาญฉลาดขึ้น ที่จะทำให้เราค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เช่น รูปภาพได้ง่ายกว่าเดิม และตอนนี้ Spotlight ยังสามารถค้นหารูปภาพบนเว็บ และแสดงผลลัพธ์ในแบบใหม่หมดที่มาพร้อมข้อมูลน่าสนใจสำไม่ส่าจะเป็นข้อมูลของนักแสดง นักดนตรี รายการทีวี และภาพยนตร์ ที่เรากำลังค้นหา
ในแอปรูปภาพ (Photos) ในส่วนของ “ความทรงจำ” สามารถเพิ่มความทรงจำลงที่น่าประทับใจลงไปในภาพด้วยการเพิ่มเพลงที่เหมาะกับภาพและวิดีโอ และด้วย Memory Mixes จะช่วยให้เราเลือกฟิลเตอร์และเพลงที่เหมาะกับรูปภาพได้ด้วย
โฉมใหม่ของประสบการณ์การท่องเว็บด้วย Safari
แอป Safari มีการดีไซน์ใหม่ที่ช่วยให้เข้าถึงส่วนควบคุมได้ง่ายขึ้นด้วยมือเดียว และแสดงคอนเทนต์อย่างโดดเด่นที่กลางจอ
Safari มี Tab Bar ขนาดกระทัดรัด ไม่กินพื้นที่ ลอยอยู่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อให้ผู้ใช้สลับไปมาระหว่างแต่ละแถบได้ง่าย มาพร้อม Tab Groups ที่ให้ผู้ใช้บันทึกแถบต่าง ๆ เก็บไว้ แล้วสามารถเปิดดูได้ทั้งใน iPhone, iPad หรือ Mac
ปรับปรุงแอปแผนที่โฉมใหม่
เพิ่มรายละเอียดในแผนที่ไม่ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญในเมืองต่าง ๆ มีการเพิ่ม สีถนน สีตึก สีสะพาน และสีของสิ่งก่อสร้างที่สำคัญในแผนที่ มีโหมดกลางคืนเพื่อมอบมุมมองใหม่ในการดูแผนที่
มอบประสบการณ์การขับขี่ในเมืองแบบ 3 มิติ บน iPhone และ Apple CarPlay ด้วยรายละเอียดบนท้องถนนแบบใหม่ที่จะช่วยให้ผเรามองเห็นและเข้าใจรายละเอียดสำคัญต่าง ๆ บนท้องถนนได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่น เลนเลี้ยว เกาะกลางถนน เลนบนถนน สี่แยกไฟแดง ช่องทางจักรยาน และทางม้าลาย
ส่วนผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็สามารถหาสถานีที่อยู่ใกล้ได้ง่ายขึ้น และปักหมุดสายที่ใช้ประจำได้ โดยแอปจะติดตามเราขณะที่เราโดยสารด้วยขนส่งสาธารณะ จากนั้นจะแจ้งเตือนให้เราทราบเมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องลงจากรถ สามารถใช้ฟีเจอร์นี้บน Apple Watch ได้ด้วย
Apple Wallet รองรับกุญแจใหม่ๆ และบัตรที่เป็นข้อมูลส่วนตัว
ด้วยเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ นอกจากกุญแจดิจิทัลของรถ BMW แล้วยังรองรับกุญแจหลายประเภทมากขึ้น เช่นกุญแจบ้าน กุญแจคอนโด กุญแจออฟฟิศ ที่เพียงแค่พก iPhone ติดตัวไว้ก็สามารถปลดล็อคได้ในการแตะเพียงครั้งเดียว
คุณสมบัติใหม่ ๆ ด้านความเป็นส่วนตัว
ฟีเจอร์ “การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมล” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ส่งทราบว่าอีเมลนั้นถูกเปิดอ่านแล้วหรือไม่ พร้อมกับซ่อนที่อยู่ IP Address ของผู้ใช้
การ “รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป” จะแสดงภาพรวมว่าแอปใช้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพ กล้อง ไมโครโฟน และรายชื่อตามที่ผู้ใช้อนุญาตอย่างไรบ้างในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และมีการติดต่อโดเมนอื่น ๆ อย่างไร
ใช้งาน Siri โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการสั่งคำสั่งทั่ว ๆ ไปได้แล้ว เช่น การตั้งปลุก การเตือนความจำ
แอปสภาพอากาศ (Weather) โฉมใหม่
แอปสภาพอากาศมีดีไซน์แบบใหม่ที่จะแสดงข้อมูลสภาพอากาศได้ละเอียดมากขึ้น แสดงสิ่งต่าง ๆ ด้วยอนิเมชันที่สวยงาม มีฟีเจอร์แผนที่สภาพอากาศแบบเต็มจอเพื่อดูข้อมูลที่ละเอียด
มาพร้อมภาพพื้นหลั
แอปโน้ตใหม่
แอปโน้ตเพิ่มแท็กที่ผู้ใช้สร้างเองได้ ซึ่งจะช่วยให้จัดประเภทโน้ตได้ง่ายและรวดเร็ว และสมาชิกของโน้ตที่แชร์ไว้สามารถใช้การกล่าวถึง ใช้ @ เพื่อกล่าวถึงผู้ร่วมแชร์โน้ต อย่างเช่น @Nooknick991 เพื่อแจ้งให้อีกคนทราบเกี่ยวกับการอัปเดตที่สำคัญได้ มาพร้อมมุมมอง “กิจกรรม” ใหม่ ที่จะแสดงประวัติการแก้ไขล่าสุดในโน้ตที่แชร์ไว้
อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจ
- Siri เพิ่ม Announce Notifications บน AirPods ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์สิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เพียงแค่สั่งการ Siri และยังทำอะไร ๆ ได้อีกมากมาย
- Shared with You ทำงานทั่วทั้งระบบเพื่อหาบทความ เพลง รายการทีวี รูปภาพ และอื่น ๆ ที่แชร์ไว้ในการสนทนาของแอปข้อความ (Messages) และนำมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นในแอปอย่างรูปภาพ, Safari, Apple News, เพลง, พ็อดคาสท์ และ Apple TV อย่างสะดวกสบาย ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สอดคล้องกับสถานการณ์หรือการพูดคุยได้อย่างรวดเร็ว
- iCloud+ มาพร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียมใหม่ ๆ เช่น Hide My Email, การรองรับ HomeKit Secure Video, iCloud Private Relay โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยสมาชิก iCloud ปัจจุบันจะได้รับการอัปเกรดเป็น iCloud+ โดยอัตโนมัติภายในปีนี้
- แอปสุขภาพ ผู้สามารถใช้แชร์ข้อมูลสุขภาพกับคนในครอบครัว ผู้ดูแล หรือทีมผู้ดูแล พร้อมด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับค่าสุขภาพส่วนตัวต่าง ๆ
- Walking Steadiness ในแอปสุขภาพ เป็นค่าการวัดใหม่ที่จะส่งเสริมให้ผู้คนหันมาตั้งใจจัดการกับความเสี่ยงในการล้มอย่างจริงจัง มีคำแนะนำสำหรับการเดิน เพื่อปรับให้ท่าเดินและการเคลื่อนไหวของแต่ละคนดีขึ้น
- อุปกรณ์ HomeKit เช่น HomePod, HomePod mini และอุปกรณ์ HomeKit จากค่ายอ่าน ๆ สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ เพียงแค่พูดว่า “หวัดดี Siri”
- คุณสมบัติ Live Translate ในแอปแปลภาษษ ที่จะทำให้การสนทนาต่างภาษามีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ หรือจะแตะที่ข้อความเพื่อแผลภาษาได้ทันที
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 15
ทุกรุ่นที่ใช้งาน iOS 14 ได้สามารถอัปเดต iOS 15 ได้เช่นกัน นั่นหมายความว่า iPhone 6s, 6s Plus ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 ก็ยังสามารถอัปเดตได้
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone SE
(รุ่นที่ 2) - iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone SE (รุ่นที่ 1)
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPod touch
(รุ่นที่ 7)
iOS 15 จะอัปเดตได้เมื่อไหร่?
iOS 15 ปล่อยให้นักพัฒนาได้อัปเดตแล้วที่ developer.apple.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับเวอร์ชันทดสอบสำหรับบุคคลทั่วไปจะปล่อยให้ลองในเดือนกรกฎาคม 2021 ส่วนการเปิดให้ใช้งานพร้อมกันทั่วโลกนั้นจะเป็นช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2021 นี้