iMod Crew
เปิดขายในไทยแล้ว iPad (รุ่นที่ 9) เฉพาะรุ่น Wi-Fi ในราคาเริ่มต้น 11,400 บาท พร้อมความจุที่ได้มากขึ้น ชิปประมวลผลใหม่ กล้องหน้าที่ดีกว่าเดิม ใครกำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ เราไปชมรีวิวกันเลย !
รีวิว iPad (รุ่นที่ 9) ชิป A13 Bionic กล้องหน้าดีขึ้น ความจุเพิ่มขึ้น ในราคา 11,400 บาท
ดีไซน์ของ iPad (รุ่นที่ 9)
ในส่วนของด้านดีไซน์ iPad (รุ่นที่ 9) ยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิมเหมืนกับ iPad (รุ่นที่ 8) โดยดีไซน์จะยังคงมี Touch ID ที่ปุ่ม Home และจะมีขนาดหน้าจอที่ 10.2 นิ้ว ช่องต่อยังคงเป็นแบบ Lightning ที่ต่างไปนั้นจะเป็นเรื่องของสี iPad (รุ่นที่ 9) จะมีให้เลือกอยู่สองสีคือสีเงิน และ สีเทาสเปซเกรย์ โดยสีของขอบหน้าจอจะใช้สีดำทั้งคู่ ซึ่งเดิมทีสีเงินของ iPad (รุ่นที่ 8) นั้นขอบหน้าจอจะใช้สีขาว
สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง
- iPad (รุ่นที่ 9) จำนวน 1 เครื่อง
- สาย USB-C เป็น Lighting จำนวน 1 เส้น
- อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 20 วัตต์ จำนวน 1 ชิ้น
- เอกสารประกอบการใช้งาน
จอภาพ
จอภาพของ iPad (รุ่นที่ 9) เป็นจอภาพ Retina แบบ Multi-Touch แบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) ความสว่าง 500 นิต ด้วยขนาดจอที่กว้างพร้อมกับจอภาพสีแบบ sRGB ที่เพิ่มเข้ามาใน iPad (รุ่นที่ 9) ทำให้สีสันสดใสและรายละเอียดดียิ่งขึ้นเหมาะมากสำหรับการดูภาพยนตร์ รวมไปถึงการวาดรูป หรือ ทำโปรเจ็กต่าง ๆ
ลองวาดภาพด้วยแอป Procreate แล้วนั้นสามารถวาดได้อย่างลื่นไหล น้ำหนักของ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ไม่มีการดีเลย์ แต่ความรู้สึกตอนในตอนวาดนั้นจะรู้สึกเหมือนมีช่องว่างอยู่ เพราะตัวหน้าจอยังมีช่องว่างระหว่างกระจก
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างนึงคือจะมีการแสดงผลแบบ True Tone ซึ่งจะช่วยปรับจอภาพให้เหมาะสมกับอุณหภูมิของสีของห้อง ทำให้เวลาเราดูภาพยนต์หรือใช้งาน iPad ได้แบบสบายตานั่นเอง
ชิปประมวลผล A13 Bionic เร็วขึ้น 20%
iPad (รุ่นที่ 9) มาพร้อมกับชิปประมวล A13 Bionic แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 11 ทำให้ประสิทธิภาพ CPU, GPU, Neural Engine เร็วกว่า iPad (รุ่นที่ 8) ถึง 20% เลย ทำให้การใช้งานของ iPad (รุ่นที่ 9) ตอบสนองไวและมีประสิทธิภาพดีขึ้น เดี๋ยวเราไปทดสอบการใช้งานแบบต่าง ๆ กันดู
เมื่อลองตัดต่อวิดีโอด้วยแอป iMovie โดยการ ลองเพิ่มวิดีโอ ใส่เพลง ใส่ตัวหนังสือ ใส่เอฟเฟ็กต์ต่างๆ พบว่าลื่นไหลไม่พบการกระตุก ทำเสร็จแล้วสามารถแชร์ลง
เมื่อลองเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีกระตุกเลย แถมยังได้ภาพที่ขนาดใหญ่ ทำให้การเล่นเกมนั้นดูสนุกมากขึ้น
กล้องของ iPad (รุ่นที่ 9) กล้องหน้าดีขึ้น 10X
ในส่วนของกล้องหลัง จะเป็นกล้องไวด์ความละเอียด 8MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่าบันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25fps และ 30 fps สามารถแสกนเอกสารและรองรับการดูแบบสมจริงจากแอป AR ได้ด้วย
ภาพและวิดีโอที่ได้ถือว่าพอใช้ได้ในความละเอียด 8MP แต่ในระยะการซูมแบบ x5 ภาพจะมีความแตกอยู่เล็กน้อย
จุดไฮไลท์ของ iPad (รุ่นที่ 9) จะมาอยู่ที่กล้องหน้า FaceTime HD แบบอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 ซึ่งเดิมทีใน iPad (รุ่นที่ 8) ความละเอียดจะอยู่ที่ 1.2MP ถือว่าได้ความละเอียดของกล้องดีขึ้นถึง 10 เท่าเลย สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
กล้องหน้าความละเอียดเพิ่มขึ้นนี้ทำให้เราเซลฟี่หรือถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ภาพที่ได้ออกมาคมชัดมาก และถ่ายแบบอัลตร้าไวด์สามารถเก็บภาพได้มุมกว้าง สามารถเก็บบรรยากาศรอบๆ ได้
และด้วยความที่กล้องหน้าเป็นแบบอัลตร้าไวด์ทำให้ใน iPad (รุ่นที่ 9) มาพร้อมกับคุณสมบติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” หรือ “Center Stage” จัดให้ผู้สนทนาอยู่ตรงกลางเฟรมเสมอ เพิ่มการโฟกัสในการคุยผ่านวิดีโอคอลได้มากขึ้น โดยในขณะที่ผู้ใช้ขยับไปมา กล้องจะแพลนซูมตามการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในสายตาเสมอ สามารถใช้งานร่วมกับแอปวิดีโอคอลยอดฮิต เช่น ZOOM ได้สบาย ๆ
อุปกรณ์เสริม iPad (รุ่นที่ 9)
iPad (รุ่นที่ 9) ยังคงใช้งานกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ความรู้สึกในการเขียนให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ใช้งานได้กับ Smart Keyboard ที่มีน้ำหนักเบา รองรับการพิมพ์ เหมาะมากกับการใช้พิมพ์งานต่าง ๆ
iPad (รุ่นที่ 9) กับ iPadOS 15
iPad (รุ่นที่ 9) มาพร้อมกับชิปประมวล A13 Bionic ทำให้มี Neural Engine ที่ทรงพลังมากขึ้น ทำให้เราสามารถใช้ iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการล่าสุดสำหรับ iPad ซึ่งจะมีคุณสมบัติเด่น ๆ ดังนี้
- Multitasking ออกแบบใหม่ สามาถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
- จัดการวิดเจ็ตได้บนหน้าจอโฮม
- Quick Note ที่เราสามารถจดโน๊ตแบบรวดเร็วได้
- FaceTime แบบใหม่
- โหมด Focus
- Safari ออกแบบใหม่
- LiveText ที่เราสามารถเลือกรูปที่มีข้อความมาแปลงเป็นข้อความได้
- Swift Playgrouds
- โหมดประหยัดพลังงาน
- 10.เล่นแอปสำหรับ iPhone บน iPad แบบตั้ง iPad ในแนวนอนได้
ความจุมากกว่าเดิม 2 เท่า!
iPad รุ่นที่ 9 มาพร้อมความจุใหม่ที่มากกว่าเดิม 2 เท่า ให้เราเก็บสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องไว้ ไม่ต้องกลัวความจำเต็ม โดยมีความจุ 2 ขนาด คือ 64GB และ 256GB
ราคาและการจัดจำหน่าย
iPad รุ่นที่ 9 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สี สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์
64GB
Wi-Fi ราคา ฿11,400
Wi-Fi+cellular ฿16,400
256GB
Wi-Fi ราคา ฿16,900
Wi-Fi+cellular ฿21,900
สามารถสั่งซื้อ iPad (รุ่นที่ 9) เฉพาะรุ่น Wi-Fi ได้ที่ Apple Store Online และหน้าร้าน Apple Store
และร้านตัวแทนจำหน่าย
เปรียบเทียบสเปก iPad (รุ่นที่ 9) และ iPad (รุ่นที่ 8)
ข้อมูลก่อนหน้านั้นเป็นจุดสังเกตความต่างของตัวเครื่อง แต่ด้านสเปก ดูสรุปได้ที่นี่
| iPad (รุ่นที่ 9) | iPad (รุ่นที่ 8) | |
| หน้าจอ | จอภาพ Retina 10.2 นิ้ว | จอภาพ Retina 10.2 นิ้ว |
| ความละเอียด 2160 x 1620 ที่ 264 ppi | ความละเอียด 2160 x 1620 ที่ 264 ppi | |
| ความสว่างสูงสุด 500 นิต (ทั่วไป) | ความสว่างสูงสุด 500 นิต (ทั่วไป) | |
| เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ | เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ | |
| sRGB | – | |
| การแสดงผลแบบ True Tone | – | |
| ชิป | A13 Bionic | A12 Bionic |
| Neural Engine | Neural Engine | |
| RAM 3GB | RAM 3GB | |
| กล้องหลัง | Wide 8MP ƒ/2.4 | Wide 8MP ƒ/2.4 |
| ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า | ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า | |
| HDR สำหรับภาพถ่าย | HDR สำหรับภาพถ่าย | |
| วิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps หรือ30 fps | วิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 30 fps | |
| กล้องหน้า | Ultra-Wide 12MP ƒ/2.4 | FaceTime HD 1.2MP ƒ/2.4 |
| ซูมออก 2 เท่า | – | |
| ฟีเจอร์ Center Stage | – | |
| ไดนามิกกว้างขึ้นสำหรับวิดีโอที่มี
อัตราความเร็วของเฟรมสูงสุด 30 fps |
– | |
| วิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps | วิดีโอระดับ HD 720p | |
| อุปกรณ์เสริม | Apple Pencil (รุ่นที่ 1) | Apple Pencil (รุ่นที่ 1) |
| Smart Keyboard | Smart Keyboard | |
| สี | สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์ | สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีทอง |
| ความจุ | 64GB | 256GB | 32GB | 128GB |
| อื่น ๆ | พอร์ต Lightning | พอร์ต Lightning |
| Touch ID | Touch ID | |
| ราคา | Wi-Fi | Wi-Fi |
| 64GB : ฿11,400 | 32GB : ฿10,900 | |
| 256GB : ฿16,900 | 128GB : ฿13,900 | |
| Wi-Fi + Cellular | Wi-Fi + Cellular | |
| 64GB : ฿16,400 | 32GB : ฿15,400 | |
| 256GB : ฿21,900 | 128GB : ฿18,400 | |
| เลิกขายแล้ว |
วิดีโอรีวิว iPad รุ่นที่ 9
