in ,

สรุปไฮไลท์สิ่งใหม่ของ Adobe Creative Cloud จากงาน Adobe MAX

เทคโนโลยีใหม่และไฮไลท์ของ Creative Cloud จากงาน Adobe MAX จะมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้างไปชมกันค่ะ!

Adobe Creative Cloud

ปัจจุบัน งานครีเอทีฟมีความสำคัญต่อธุรกิจทุกขนาดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ และไร้ขีดจำกัด

เพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว งาน Adobe MAX ปีนี้ ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ และนวัตกรรมต่างๆ ใน Creative Cloud ซึ่งจะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือใหม่ๆ และวิธีการแปลกใหม่ในการพัฒนาต่อยอดงานครีเอทีฟ พบกับเทคโนโลยีไฮไลท์ที่เปิดตัวในงานนี้ ซึ่งจะมีดังนี้ :

Photoshop และ Illustrator ขยายไปสู่เว็บแล้ว

เพื่อให้สามารถเข้าถึงโปรเจ็กต์ได้จากทุกที่ เพียงแค่ใช้ URL ก็สามารถเชิญให้ใครก็ตามเข้ามาดูและแสดงความเห็นบนไฟล์ Photoshop หรือ Illustrator ของเรา โดยที่คนรีวิวไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือสมัครใช้บริการ Creative Cloud แต่อย่างใด นอกจากนี้ สมาชิก Creative Cloud ยังสามารถทำการแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ กับไฟล์ Photoshop หรือ Illustrator ภายในเบราว์เซอร์โดยตรง แผนการขยาย Creative Cloud ไปสู่เว็บเริ่มต้นแล้วด้วย Photoshop on the Web รุ่น Public Beta  ส่วน Illustrator on the Web เริ่มเปิดให้ทดลองใช้งานในรุ่น Private Beta

Creative Cloud Spaces และ Canvas เพิ่มศักยภาพการทำงานครีเอทีฟร่วมกัน

เนื่องจากทีมครีเอทีฟแยกกันอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น ทีมงานครีเอทีฟจึงต้องการวิธีการทำงานร่วมกันและสอดคล้องกันที่ดีกว่า  ด้วยเหตุนี้จึงตอบโจทย์ความต้องการด้วย Creative Cloud Spaces และ Canvas  ทั้งนี้ Spaces เป็นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งทุกคนในทีมงานจะสามารถเข้าถึงและจัดระเบียบไฟล์ ไลบรารี และลิงค์ต่างๆ เพื่อให้เราสามารถจัดการการเข้าถึงและประสานงานจากส่วนกลางได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ส่วน Canvas เป็นวิธีใหม่ในการแสดงผลสำหรับงานครีเอทีฟทั้งหมดภายในโปรเจ็กต์ เพื่อทำการตรวจสอบร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และสำรวจไอเดียใหม่ๆ ร่วมกัน โดยทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบเรียลไทม์และอยู่ในเบราว์เซอร์  Creative Cloud Spaces และ Canvas เปิดให้ทดลองใช้งานในรุ่น Private Beta และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า

Frame.io และอนาคตของการทำงานวิดีโอร่วมกัน

แพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟของ Frame.io เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรวบรวมคำติชมจากทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตวิดีโอ ตั้งแต่ผู้กำกับ ไปจนถึงผู้กำกับบท และฝ่ายที่มีหน้าที่อนุมัติโปรเจ็กต์ขั้นสุดท้าย การผสานรวมแพลตฟอร์มของ Frame.io เข้ากับ Creative Cloud นับเป็นการเปิดหนทางใหม่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในงานวิดีโอ

ปลดปล่อยศักยภาพด้านการสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรมใหม่

นอกจากที่จะมีอัปเดตการทำงานบนเว็บไซต์ รวมถึงการทำงานร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานร่วมกันได้แล้ว ในปีนี้ โปรแกรมต่างๆ ในเครือ Adobe ก็ได้ปล่อยอัปเดตที่น่าสนใจ ที่จะทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว และปลดปล่อยศักยภาพของเราได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Photoshop เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและลูกเล่นมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เราเพิ่มความสะดวกในการกำหนดพื้นที่มาสก์ใน Photoshop เพียงแค่วางเมาส์ไว้เหนือวัตถุ และฟีเจอร์ Hover Auto-Masking (ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei  AI engine ของเรา) จะทำการมาสก์วัตถุดังกล่าวโดยอัตโนมัติ  ส่วนฟีเจอร์ Mask All Objects จะเลือกวัตถุหรือบุคคลในภาพโดยอัตโนมัติ  นอกจากนี้ เราได้ขยายและปรับแต่ง Neural Filters ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Sensei สำหรับการแก้ไขภาพที่ซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนแปลงการแสดงสีหน้า หรือการย้อมสีให้กับภาพขาว-ดำ โดยคุณสามารถใช้ลูกเล่นต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง  นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ Landscape Mixer ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนภาพทิวทัศน์จากฤดูร้อนเป็นฤดูหนาว หรือเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าให้กลายเป็นทะเลทราย

Illustrator ฟีเจอร์ใหม่สำหรับทุกพื้นผิว พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

Adobe กำลังสร้างไลบรารีขนาดใหญ่สำหรับวัสดุ Substance 3D ที่ใช้งานได้ในแอพ Creative Cloud เช่น Illustrator และ Photoshop

ใน Illustrator บน iPad นำเสนอพรีวิวเทคโนโลยีสำหรับ Vectorize ซึ่งเป็นพัฒนาการขั้นถัดไปของ Image Tracing ซึ่งจะช่วยให้สามารถแปลงภาพให้เป็นกราฟิกเวคเตอร์ที่คมชัด ด้วยความแม่นยำและการควบคุมที่ดีขึ้น ส่วนบนเดสก์ท็อปได้ปรับปรุงเอฟเฟ็กต์ 3D และเพิ่มไลบรารีขนาดใหญ่สำหรับวัสดุ Adobe Substance 3D

วิดีโอ เพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และลูกเล่น

เพื่อลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการรอคอยสำหรับขั้นตอนการเรนเดอร์วิดีโอ Adobe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Multi-frame Rendering ใน After Effects ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเรนเดอร์ได้ถึง 4 เท่า  และไม่ต้องเสียเวลาสร้างคำบรรยายสำหรับวิดีโออีกต่อไป เพราะมีฟีเจอร์ Speech-to-Text แบบอัตโนมัติใน Premiere Pro  นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นสนุกๆ ของ Body Tracker ใน Character Animator เปิดกล้องเว็บแคม เริ่มต้นทำท่าทางต่างๆ และหุ่นภาพเคลื่อนไหวของเราก็จะทำท่าตามไปด้วย

ภาพถ่าย Lightroom ช่วยให้เราทุกคนกลายเป็นช่างภาพที่เก่งขึ้น

บางครั้ง เราอาจชอบภาพถ่ายภาพใดภาพหนึ่ง ยกเว้นส่วนเล็กๆ ในภาพนั้น เราได้ปรับโฉมเครื่องมือ Selective Adjustment ใน Lightroom เพื่อให้สามารถทำการเลือกพื้นที่ได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย และทำการแก้ไขที่เฉพาะเจาะจงสำหรับส่วนเล็กๆ ของภาพ แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่าช่างภาพคนอื่นจะแก้ไขภาพถ่ายของคุณในลักษณะใด ด้วย Community Remix คุณจะสามารถแชร์ภาพถ่ายของคุณ แล้วเรียนรู้และรับแรงบันดาลใจจากศิลปินคนอื่นๆ ที่เข้ามาแก้ไขภาพของคุณ

3D และการออกแบบ สร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำมากขึ้น

คอลเลกชั่น Substance 3D ของ Adobe มอบพลัง 3D ที่ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยเครื่องมือที่สามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การสร้างภาพด้านการตลาดที่สวยงาม ไปจนถึงการปั้นแต่งวัตถุ 3D จากภาพร่าง ในอนาคตงานสร้างสรรค์ 3D จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ขณะที่ครีเอเตอร์พยายามมองหาหนทางใหม่ๆ ที่เป็นไปได้  คอลเลกชั่น Substance 3D ประกอบด้วยวัสดุและผิวสัมผัส 3D หลายพันรายการ ซึ่งเราสามารถนำไปใช้กับงานสร้างสรรค์

อื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่การวาดภาพและระบายสี ไปจนถึงการออกแบบหน้าจอ

 

นอกเหนือจากทั้งหมดที่กล่าวมา Adobe ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์อื่นๆ อีกหลายสิบรายการ ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเวลาและขยายขีดความสามารถด้านการสร้างสรรค์ เช่น เส้นไกด์สำหรับเปอร์สเปคทีฟ และเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวใน Fresco ซึ่งเป็นแอปสำหรับการวาดภาพและระบายสีแบบมัลติแพลตฟอร์มของ Adobe นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มวิดีโอที่เล่นได้ และแอนิเมชั่น Lottie ให้กับชิ้นงานต้นแบบใน Adobe XD ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการออกแบบ การสร้างต้นแบบ และการแชร์สำหรับนักออกแบบประสบการณ์

ปลั๊กอินใหม่ของ Adobe XD ช่วยให้คุณค้นหาแอนิเมชั่น Lottie สำหรับใช้ในการออกแบบเว็บไซต์และแอป

เสริมศักยภาพให้กับสายงานครีเอทีฟ

นอกจากไอเดียสร้างสรรค์ และผลงานที่เราได้ออกมาแบบมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือการเผยแพร่ผลงานของเราไปให้บุคคลในโลกออนไลน์ของเราได้เห็น เพื่อสร้างโอกาสในการงานได้อีกมากมาย และ Adobe ก็ให้ความสำคัญกับส่วนนี้เหมือนกัน รวมถึงลิขสิทธิ์ในผลงานของเราเองด้วย ซึ่งจะป้องกันการนำผลงานของเราไปดัดแปลงใหม่ หรือขายต่อในตลาด

Behance มองหาโอกาส และสำรวจงานในโลกครีเอทีฟ

แนะนำช่องทางใหม่ที่จะช่วยให้สมาชิกกว่า 26 ล้านคนของ Behance สามารถสร้างรายได้จากผลงานของตนเอง โดยสมาชิก Creative Cloud จะสามารถนำเสนอบริการสมาชิกเพื่อให้แฟนๆ ได้รับสิทธิ์พิเศษในการเข้าถึงไลฟ์สตรีม ไฟล์ต้นฉบับ และอื่นๆ บน Behance โดยที่ Behance ไม่ได้หักค่าส่วนแบ่งใดๆ จากรายได้ของเรา และเรายังสามารถเพิ่มปุ่ม “Hire Me” ไว้ในโปรไฟล์ของคุณ เพื่อให้ผู้สนใจสามารถติดต่อว่าจ้างคุณได้โดยตรง

Content Authenticity Initiative และการแก้ปัญหาโดยใช้ NFT

เมื่อสองปีที่แล้ว Adobe ได้ริเริ่มโครงการ Content Authenticity Initiative (CAI) เพื่อแก้ปัญหาการบิดเบือนข้อมูลของ visual และเพื่อให้ครีเอเตอร์ได้รับเครดิตจากผลงานของตนเอง วันนี้ Adobe ได้นำเสนอฟีเจอร์สำหรับการใส่ Content Credentials ในโปรแกรมต่างๆ เช่น Photoshop  ข้อมูลประจำตัว (Credentials) ที่ปลอดภัยนี้ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อผู้สร้างภาพ เวลาและสถานที่ที่ถ่ายภาพ  นอกจากนั้น มีการใช้โทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (Non-Fungible Token – NFT) เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถเสนอขายผลงานในตลาดใหม่ได้อย่างปลอดภัย  ทั้งนี้ Content Credentials จะป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่หวังดีแอบอ้างหรือขโมยผลงานของเราและนำไปขายในตลาด NFT  Adobe ร่วมมือกับตลาด NFT หลายราย เช่น KnownOrigin, OpenSea, Rarible และ SuperRare เพื่อให้มีการแสดงข้อมูล Content Credentials

งาน Adobe MAX ปีนี้นับเป็นก้าวแรกของการพัฒนาเพื่อขยายการใช้งาน Creative Cloud ไปสู่เว็บ และการทำงานครีเอทีฟร่วมกัน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก เราก็สามารถทำงานไปพร้อมๆ กันได้ Adobe พร้อมรับฟังคำติชมและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเสริมศักยภาพให้กับงานสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อให้เรามีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ของงานครีเอทีฟในอนาคต

 

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย iMod Crew