8 มี.ค. 2022 – Apple เปิดตัว iPad Air 5 ในงาน Peek Performance ดีไซน์เดิม ชิป M1 กล้องหน้า 12MP เลนส์ Ultra Wide รองรับ ฟีเจอร์ Center Stage และรองรับ 5G
iPad Air 5 ใช้ดีไซน์เดิม ชิป M1สุดแรง กล้องหน้า Ultra Wide รองรับ 5G
ไฮไลท์
- หน้าจอ 10.9” Liquid Retina HD
- ดีไซน์เดิม เหมือน iPad Air 4
- หน้าจอเต็มขอบ ไร้ปุ่มโฮม
- ชิป M1 เร็วกว่า iPad Air 4 60%
- สแกนนิ้ว (Touch ID) ที่ปุ่มด้านบน
- กล้องหน้า 12MP เลนส์ Ultra-Wide
- รองรับฟีเจอร์ Center-Stage
- มี 5 สี ม่วง น้ำเงิน ชมพู สตาร์ไลท์ ม่วง เขียว สเปซเกรย์
- รองรับ 5G ในรุ่น Cellular
- รองรับ Apple Pencil 2
- รองรับ Magic Keyboard และ Smart Keyboard folio
- พอร์ต USB-C
- ความจุ 64GB / 256GB เหมือนเดิม
iPad Air 5 กับประสิทธิภาพอันก้าวกระโดดด้วยชิป M1
Apple จับชิป M1 มาใส่ไว้ใน iPad Air 5 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับแอปและเวิร์กโฟลว์ที่ต้องใช้พลังงานประมวลผลหนัก ๆ พร้อมทั้งยังประหยัดพลังงานทำให้มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ชิป M1 ที่อยู่ใน iPad Air 5 มี CPU แบบ 8-core มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นก่อนหน้า และมี GPU แบบ 8-core ที่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกเร็วขึ้นถึง 2 เท่า
มี Neural Engine แบบ 16-core บวกกับความสามารถของ CPU และ GPU จึงเป็นขุมพลังที่ขับเคลื่อนคุณสมบัติการเรียนรู้ของระบบขั้นสูงซึ่งช่วยมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้น
ประสิทธิภาพของชิป M1 ช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรต่อมิอะไรด้วย iPad Air ได้มากกว่าที่เคย ตั้งแต่การตัดต่อวิดีโอระดับ 4K หลายสตรีมพร้อม ๆ กัน ไปจนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนัก ๆ การออกแบบในรูปแบบ 3 มิติ และการสัมผัสประสบการณ์ AR ที่สมจริงยิ่งขึ้น
ดีไซน์แบบเดิม แต่มีสีใหม่
iPad Air 5 ยังคงใช้ดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนกับ iPad Air 4 ซึ่งก็คือดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมด พร้อมจอภาพ Liquid Retina 10.9″ และ Touch ID ที่ปุ่ม Power ที่ด้านบนตัวเครื่อง
หน้าจอมีความสว่างถึง 500 นิต พร้อมด้วยการเคลือบสารกันแสงสะท้อน ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 การแสดงผลแบบ True Tone และการเคลือบหน้าจอแบบป้องกันแสงสะท้อน ลำโพงสเตอริโอแนวนอนมอบเสียงสเตอริโอที่มีมิติเสียงกว้าง (เหมือน iPad Air รุ่นเดิม)
iPad Air 5 ใหม่ใช้มาในตัวเครื่องหลากหลายสีสันได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และ “สีน้ำเงิน” ที่เป็นสีใหม่
อัปเกรดกล้องหน้า
iPad Air 5 ได้รับการอัปเกรดกล้องไปใช้กล้องหน้าแบบ Ultra Wide ความละเอียด 12MP ที่รองรับคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” หรือ ฟีเจอร์ Center Stage ที่จะแพนตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อจัดให้ผู้ใช้อยู่ในเฟรมเสมอ
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์ หรือการเข้าร่วมคลาสเรียนออนไลน์ ก็ช่วยให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
กล้องหลังเป็นเลนส์ไวด์ ความละเอียด 12MP สามารถถ่ายภาพที่คมชัดและวิดีโอระดับ 4K ได้ สามารถสแกนเอกสาร และเพลิดเพลินกับประสบการณ์ AR ได้ด้วย
การเชื่อมต่อรวดเร็ว รองรับ 5G
เชื่อมต่อได้เร็วกว่าที่เคย เพราะ iPad Air 5 รองรับ 5G ที่ความเร็วสูงสุดถึง 3.5Gbps จะดาวน์โหลดหรืออัปโหลดระหว่างการเดินทางก็ทำได้ลื่นไหลกว่าเดิม
iPad Air 5 ยังรองรับ Wi-Fi 6 ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงไฟล์ การสำรองข้อมูล การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงการชมภาพยนตร์กับครอบครัวก็ไม่มีสะดุด หากเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ความเร็วสูง
พอร์ต USB-C เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จึงสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps ต่อวินาที ดังนั้น การอิมพอร์ตรูปภาพและวิดีโอขนาดใหญ่จึงรวดเร็วมากขึ้น จะเชื่อมต่อกับกล้อง อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และจอภาพความละเอียดสูงสุดถึง 6K ก็ทำได้
อุปกรณ์เสริม
iPad Air 5 รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2, Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio ซึ่งมาพร้อมสีสันอันสวยงามที่เข้ากันกับตัวเครื่อง ได้แก่ สีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลู ช่วยปกป้องและเสริมความสวยงามเข้าไปอีก
ราคาและการวางจำหน่าย
ราคา iPad Air 5 รุ่น Wi-Fi (ราคาไทย)
- ความจุ 64GB ราคา ฿20,900
- ความจุ 256GB ราคา ฿25,900
ราคา iPad Air 5 รุ่น Wi-Fi + Cellular (ราคาไทย)
- ความจุ 64GB ราคา ฿25,900
- ความจุ 256GB ราคา ฿30,900
ล่าสุดยังไม่ทราบวันเปิดขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
อ่านข้อมูลของ iPad Air 5 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ apple.com