Zakura Kim
บางคนอาจจะพบปัญหาด้านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่รู้สึกว่าเน็ตอืด เน็ตช้า เรามาชมเหตุผลกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตช้าลง
7 เหตุผลที่ทำให้อินเทอร์เน็ตช้า เน็ตอืด บนสามาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์
1. มีคนแอบใช้ Wi-Fi
ไม่แน่ว่าบางครั้งอาจจะมีคนอื่นที่แอบมาใช้ Wi-Fi ของเรา อาจจะเป็นเพราะรหัสผ่านของเราคาดเดาง่าย วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือ การเปลี่ยนรหัสผ่าน Wi-Fi ที่คาดเดาได้ยากมากขึ้น ลองใช้ตัวเลข ตัวอักษรและสัญลักษณ์อื่น ๆ ตั้งเป็นรหัสผ่าน เพื่อให้การเข้ามาใช้ทำได้ยากมากขึ้น
นอกจากนี้เราเตอร์หรือตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi บางตัวมาพร้อมกับแอปที่สามารถแสดงอุปกรณ์ที่กำลังเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ หากเราพบว่ามีอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักแอบมาเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของเรา ก็สามารถทำการบล็อกได้เลย
2. ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบจำกัด
หากเราเลือกใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบจำกัดจำนวน 4GB/5G เมื่อเราใช้งานจนหมดบริการแล้ว สัญญาณก็จะสลับให้เราไปใช้อินเทอร์เน็ตที่ความเร็ว 128 kbps หรือ 384 kbps ทำให้เรารู้สึกได้ว่าอินเทอร์เน็ตช้าลง
ถ้าหากว่าเราต้องใช้อินเทอร์เน็ตนอกสถานที่ โดยไม่ได้อาศัยการเชื่อมต่อ Wi-Fi อยู่เป็นประจำ ก็อาจจะต้องอัปเกรดแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตให้เป็นแบบ Ulimited 4G/5G เพื่อจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างสบายใจ
หรือกรณีใช้แพ็คเกจ Wi-Fi บางครั้งเราอาจจะเลือกใช้แพ็คเกจที่ความเร็วในอัปโหลดและดาวน์โหลดต่ำเกินไป เนื่องจากราคาถูก หากเราอยากใช้อินเทอร์เน็ตที่ความเร็วมากขึ้น ก็อาจจะปรึกษากับผู้ให้บริการและอัปเกรดแพ็จเกจดู
3. เราเตอร์เก่าเกินไป
ถึงแม้ว่าเราจะเลือกใช้แพ็คเกจ Wi-Fi ที่รวดเร็วแล้ว แต่การใช้งานยังคงดูช้าแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเตอร์ของเราไม่ได้มาตรฐานหรือเราเตอร์อาจจะเก่าเกินไป ไม่รองรับกับ Wi-Fi เวอร์ชันใหม่ ๆ
วิธีแก้ปัญหา เราจะต้องซื้อเราเตอร์รุ่นใหม่ที่รองรับกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เขาใช้และรองรับเวอร์ชัน Wi-Fi ด้วย เช่น Router WiFi 6, Router WiFi 6E (ที่กำลังจะมา) เป็นต้น
4. อยู่ไกลจากเราเตอร์
ถ้าเราอยู่ในระยะที่ห่างจากเราเตอร์มากเกินไป ก็ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตช้าหรือการเชื่อมต่อหลุด ๆ ติด ๆ ได้ วิธีแก้ไขที่เร่งด่วนง่าย ๆ ก็คือ ให้เราย้ายไปอยู่ในระยะใกล้กับเราเตอร์หรืออยู่ในระยะที่เราเตอร์สามารถปล่อยสัญญาณได้
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าเราต้องการใช้ Wi-Fi ในจุดที่อยู่ไกลเราเตอร์ เช่น เราเตอร์อยู่ในห้องรับแขก และเราอยากจะใช้ Wi-Fi ในห้องครัวที่อยู่ห่างจากห้องรับแขกได้ด้วย ก็แนะนำว่าให้เราซื้อตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi มาติดไว้ในห้องครัว เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ราบรื่น
5. อุปกรณ์ไม่รองรับเทคโนโลยีใหม่
อุปกรณ์ที่เก่าเกินไปก็อาจจะไม่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi ใหม่ ๆ อย่างสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์บางรุ่นก็อาจจะรองรับความถี่แค่ 2.4GHz ไม่รองรับ 5GHz ก็อาจจะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตช้า วิธีแก้ไขคืออาจจะต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่รองรับ หากมีความจำเป็นจะต้องใช้งานหรือทำงานออนไลน์ตลอด
ถ้าเป็นแล็ปท็อปบางรุ่นหรือคอมพิวเตอร์แบบ PC ก็สามารถอัปเกรด LAN CARD ให้ใหม่และรองรับกับ Wi-Fi เวอร์ชันใหม่ ๆ ได้
6. ปัญหาของซอฟต์แวร์
บางครั้งปัญหาอินเทอร์เน็ทช้าก็อาจจะมาจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ แนะนำให้อัปเดตอุปกรณ์ของเราให้ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพื่อความปลอดภัยและได้รับการแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ปัญหาก็อาจจะเกิดจากอุปกรณ์ของเราติดไวรัสหรือมีโปรแกรมที่อันตรายที่ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตช้าลงด้วย โดยเฉพาะบนคอมพิวเตอร์ เราอาจจะต้องหาโปรแกรม Antivirus ดี ๆ มาช่วยจัดการ
นอกจากนี้ ถ้าเราพบว่าอยู่ดี ๆ อินเทอร์เน็ตช้าลงผิดปกติ โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็น เราก็อาจจะใช้วิธีรีเซ็ตอุปกรณ์ รีเซ็ตเครือข่าย หรือถ้าไม่หายอาจจะรีเซ็ตเนื้อหาและการตั้งค่าอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อน วิธีนี้ยังช่วยกำจัดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายและลบข้อมูลของอุปกรณ์เราด้วย แนะนำให้สำรองข้อมูลไว้ด้วยนะ
7. มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่อง
ปัจจุบันอุปกรณ์ที่เราใช้ในบ้านส่วนใหญ่มักจะเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ใช้งานการสั่งการผ่านอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ชีวิตสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าหากเรามีอุปกรณ์หลายเครื่องที่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และใช้พร้อม ๆ กัน ก็อาจจะทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลงได้
เราสามารถตั้งค่า “คุณภาพของบริการ” บนเราเตอร์ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของแอปและอุปกรณ์ที่ใช้งานให้มาก่อนอุปกรณ์อื่นที่ไม่ได้ใช้แบนด์วิดท์เยอะ
แต่ถ้าหากเรามีเราเตอร์ใหม่ที่รองรับ 2 ความถี่คือ 2.4GHz และ 5GHz ก็สามารถสลับอุปกรณ์ที่ใช้ความถี่ต่ำแต่อยู่ในระยะไกลให้ใช้ความถี่ 2.4GHz ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็เชื่อมต่อกับ 5GHz
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้อินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานช้าลง พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้น ใครที่พบปัญหาอยู่ก็ลองเช็คดูนะคะ หากแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้หรือไม่ชำนาญด้านนี้ ก็อาจจะต้องลองติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายหรือสัญญาณดูนะคะ
ที่มา idropnews
