พาชมเปรียบเทียบเสปค ระหว่าง iPhone 13 และ iPhone 14 จะมีความแตกต่างอย่างไร ที่น่าสนใจกันบ้าง มารับชมไปพร้อมกันได้เลย
เปรียบเทียบสเปค iPhone 13 vs iPhone 14
วันเปิดตัว
iPhone ทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวในงาน Apple เดือนกันยายนเช่นเดียวกัน ระยะเวลาห่างกัน 1 ปี
- iPhone 13 เปิดตัวในงาน “California Streaming” วันที่ 15 กันยายน 2564
- iPhone 14 เปิดตัวในงาน “Far out.” วันที่ 8 กันยายน
ขนาดของตัวเครื่อง
ขนาดของตัวเครื่องเรียกว่ามีสัดส่วนที่เท่ากันทุกด้าน เว้นแต่เพียงน้ำหนักและความหนา (ซึ่งหากดูจากสเปคขนาดแล้ว เคสของ iPhone 13 อาจจะใส่ใน iPhone 14 แล้วมีความแน่น ความคับจนเกินไป)
iPhone 13 | iPhone 14 | |
ความสูง | 146.7 มม. | 146.7 มม. |
ความกว้าง | 71.5 มม. | 71.5 มม. |
ความหนา | 7.65 มม. | 7.80 มม. |
น้ำหนัก | 173 ก. | 172 ก. |
หน้าจอเท่าเดิม คุณสมบัติคงเดิม
iPhone 13 และ iPhone 14 ใช้หน้าจอขนาดเท่าเดิมที่ 6.1″ และมีคุณสมบัติคงเดิม
iPhone 13 | iPhone 14 |
Super Retina XDR | Super Retina XDR |
2532 x 1170 Pixel (460 ppi) | 2532 x 1170 Pixel (460 ppi) |
จอภาพ HDR | จอภาพ HDR |
True Tone | True Tone |
ขอบเขตสีกว้าง (P3) | ขอบเขตสีกว้าง (P3) |
การแตะค้างแบบสั่น | การแตะค้างแบบสั่น |
อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 (ทั่วไป) | อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 (ทั่วไป) |
ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 1,200 นิต (HDR) | ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 1,200 นิต (HDR) |
ชิปประมวลผล
iPhone 14 ใช้ชิปประมวลผล A15 Bionic เหมือนกับ iPhone 13 แต่จำนวน Core ของ GPU ไม่เท่ากัน (iPhone 14 ใช้ชิปประมวลผลแบบเดียวกับ iPhone 13 Pro)
iPhone 13 | iPhone 14 |
A15 Bionic | A15 Bionic |
CPU 6-core | CPU 6-core |
GPU 4-core | GPU 5-core |
Neural Engine 16‑core | Neural Engine 16‑core |
กล้องหลัง
กล้องหลังของทั้ง iPhone 13 และ iPhone 14 มีความละเอียดเท่ากันอยู่ที่ 12MP แต่ความสามารถในการถ่ายของ iPhone 14 นั้น สามารถทำได้ดีขึ้น ด้วยระยะของรูรับแสงที่เปลี่ยนไป
ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Photonic Engine ที่ใช้ประโยชน์ของการประมวลผลจาก Deep Fusion
เก็บรายละเอียดพื้นผิวที่มีความละเอียด ตลอดจนการแสดงสีสันที่ดียิ่งขึ้น และเก็บข้อมูลในภาพถ่ายได้มากขึ้นด้วย
iPhone 13 | iPhone 14 |
กล้องคู่ความละเอียด 12MP (กล้องหลักและอัลตร้าไวด์) |
กล้องคู่ความละเอียด 12MP (กล้องหลักและอัลตร้าไวด์) |
กล้องหลัก: ƒ/1.6 | กล้องหลัก: ƒ/1.5 |
อัลตร้าไวด์: ƒ/2.4 | อัลตร้าไวด์: ƒ/2.4 |
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล | ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล |
ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า | ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า |
ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า | ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า |
แฟลช True Tone พร้อมคุณสมบัติสโลว์ซิงค์ | แฟลช True Tone |
– | Photonic Engine |
Deep Fusion | Deep Fusion |
HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย | HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย |
โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก | โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก |
การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ | การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ |
โหมดกลางคืน | โหมดกลางคืน |
คุณสมบัติสไตล์ภาพถ่าย | คุณสมบัติสไตล์ภาพถ่าย |
กล้องหน้า
กล้องหน้าของ iPhone 14 สามารถถ่ายโหมดภาพยนต์สูงสุดที่ระดับ 4K ได้แล้ว มีระยะการถ่ายภาพที่ทำได้กว้างขึ้น และเป็นครั้งแรกที่กล้องหน้านั้นรองรับการโฟกัสอัตโนมัติ
iPhone 13 | iPhone 14 |
TrueDepth 12MP | TrueDepth 12MP |
ƒ/2.2 | ƒ/1.9 |
Retina Flash | Retina Flash |
– | Photonic Engine |
– | Auto Focus |
Deep Fusion | Deep Fusion |
HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย | HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย |
คุณสมบัติสไตล์ภาพถ่าย | คุณสมบัติสไตล์ภาพถ่าย |
โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก | โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก |
การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ(แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์) | การจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ(แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์) |
โหมดกลางคืน | โหมดกลางคืน |
โหมดภาพยนตร์ (1080p ที่ 30 fps) | โหมดภาพยนตร์สูงสุด 4K HDR ที่ 30 fps |
วิดีโอ QuickTake | วิดีโอ QuickTake |
Animoji และ Memoji | Animoji และ Memoji |
การบันทึกวีดีโอ
หากเทียบกันแล้วสเปคการถ่ายวีดีโอของทั้ง 2 รุ่น แล้ว ถือว่าไม่ได้ต่างกัน เช่น การวีดีโอสโลว์โมชั่นความละเอียด และเฟรมต่าง ๆ
สิ่งที่โดดเด่นออกมาของ iPhone 14 คือ ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Action Mode ที่ทำงานร่วมกับระบบกันสั่น ช่วยให้เราถ่ายวีดีโอได้นิ่งขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น
iPhone 13 | iPhone 14 |
โหมดภาพยนตร์ สำหรับการบันทึกวิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น (1080p ที่ 30 fps) | โหมดภาพยนตร์สำหรับการบันทึกวิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น (4K HDR สูงสุด 30 fps) |
บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps | บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps |
บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps | บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps |
บันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 60 fps | บันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 60 fps |
– | โหมดแอ็คชั่น |
ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า | ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า |
ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 3 เท่า | ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 3 เท่า |
การซูมเสียง | การซูมเสียง |
วิดีโอ QuickTake | วิดีโอ QuickTake |
รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่น
ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps |
รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่น
ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps |
ไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืน | ไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืน |
วิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว | วิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว |
บันทึกเสียงสเตอริโอ | บันทึกเสียงสเตอริโอ |
แบตเตอรี่
iPhone 14 สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 13 เมื่อเทียบการเล่นเสียงแล้ว ถือว่าใช้งานได้นานขึ้นรวมกว่า 5 ชั่วโมง (ขนาดของแบตเตอรี่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล)
iPhone 13 | iPhone 14 |
การเล่นวิดีโอ : สูงสุด 19 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ : สูงสุด 20 ชั่วโมง |
การเล่นเสียง : สูงสุด 75 ชั่วโมง | การเล่นเสียง : สูงสุด 80 ชั่วโมง |
เซ็นเซอร์
iPhone 14 มีการอัปเกรดเซนเซอร์ตัวเดิมให้ทำงานได้ดีขึ้น เช่นการทำงานร่วมกับ ฟีเจอร์ตรวจวัดการชน หรือ การทำงานของแอป Fitness ที่ Apple ได้บอกเอาไว้ว่า ไม่มี Apple Watch ก็สามารถดูข้อมูลการออกกำลังกายได้แม่นยำมากขึ้น
iPhone 13 | iPhone 14 |
Face ID | Face ID |
บารอมิเตอร์ | บารอมิเตอร์ |
ไจโร 3 แกน | ไจโรแบบช่วงไดนามิกสูง |
อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว | อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบแรง g สูง |
เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ | เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ |
เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ | เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบแบบคู่ |
ฟีเจอร์ความปลอดภัย
iPhone 13 และ iPhone 14 ใช้การยืนยันตัวตนแบบ Face ID และมี SOS ฉุกเฉินทั้งคู่ ซึ่ง iPhone 14 มีฟีเจอร์ใหม่เข้ามา 2 ฟีเจอร์คือ การตรวจจับการชน และ การสื่อสารผ่านดาวเทียม Emergency SOS via Satellite
iPhone 13 | iPhone 14 | |
Face ID | ✅ | ✅ |
SOS | ✅ | ✅ |
การตรวจจับการชนกัน | ❌ | ✅ |
Emergency SOS via Satellite | ❌ | ✅ |
การทนน้ำทนฝุ่น
ทั้ง 2 รุ่นมีระดับการทนน้ำทนฝุ่นเท่ากันคือ IP68
iPhone 13 | iPhone 14 |
IP68 | IP68 |
ทนน้ำถึงระดับความลึก 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที |
ทนน้ำถึงระดับความลึก 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที |
การเชื่อมต่อ และ การชาร์จ
iPhone 14 ใช้ Bluetooth 5.3 ซึ่งแตกต่างจาก iPhone 13 ที่ใช้ Bluetooth 5.0 แต่ทั้งคู่นั้นรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
iPhone 13 | iPhone 14 |
5G | 5G |
Bluetooth 5.0 | Bluetooth 5.3 |
รองรับการชาร์จไว | รองรับการชาร์จไว |
ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 15 วัตต์ | ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 15 วัตต์ |
ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5 วัตต์ | ชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi สูงสุด 7.5 วัตต์ |
สี ความจุ ราคา
iPhone 13 มีทั้งหมด 6 สีให้เลือก ทางฝั่ง iPhone 14 มีทั้งหมด 5 สีให้เลือก โดยมีความแตกต่างของราคาอยู่ที่ 3,000 บาท
สี | iPhone 13 | iPhone 14 |
6 สี | 5 สี | |
เขียว, ชมพู, น้ำเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์, แดง(PRODUCT RED) | ฟ้า, ม่วง, มิดไนท์, สตาร์ไลท์, แดง (PRODUCT RED) | |
ความจุ/ ราคา | 128GB : ฿29,900 | 128GB : ฿32,900 |
256GB : ฿33,900 | 256GB : ฿36,900 | |
512GB : ฿42,900 | 512GB : ฿45,900 |