Apple เปิดตัวเปิดขาย AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ในงาน Event “Far out.” ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้อัปเกรดมาตั้งแต่ปี 2019 มาดูกันว่ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวจะมีฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาบ้าง ไปชมกัน
เปรียบเทียบความต่าง AirPods Pro (รุ่นที่ 2) กับ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) เลือกรุ่นไหนดี ?
ก่อนอื่นเรามาดูความต่างของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) กับ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) ก่อนว่าทั้ง 2 รุ่นมีจุดไหนแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ขนาด
AirPods Pro (รุ่นที่ 1) | AirPods Pro (รุ่นที่ 2) | |
ตัวหูฟัง | สูง: 30.9 มม. | สูง: 30.9 มม. |
กว้าง: 21.8 มม. | กว้าง: 21.8 มม. | |
หนา: 24.0 มม. | หนา: 24.0 มม. | |
น้ำหนัก: 5.4 กรัม | น้ำหนัก: 5.3 กรัม | |
เคสชาร์จ | สูง: 45.2 มม. | สูง: 45.2 มม. |
กว้าง: 60.6 มม. | กว้าง: 60.6 มม. | |
หนา: 21.7 มม. | หนา: 21.7 มม. | |
น้ำหนัก: 45.6 กรัม | น้ำหนัก: 50.8 กรัม |
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ยังคงใช้ดีไซน์เดียวกันกับ AirPods Pro รุ่นแรก โดยขนาดของทั้งตัวหูฟังและเคสชาร์จนั้นมีขนาดเท่ากัน แต่จะแตกต่างกันที่น้ำหนัก ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากน้ำหนักของเคสชาร์จ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ที่มีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย เป็นไปได้ว่าอาจมาจากการที่ตัวเคสชาร์จใส่ชิป U1 เพิ่มเข้ามาเพื่อให้สามารถรองรับการใข้งานร่วมกับฟีเจอร์ Find My ได้ และมีลำโพงเพิ่มเข้ามาด้วย รวมถึงตัวแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม
ตัวเครื่องและฟังก์ชันการสั่งการ
AirPods Pro (รุ่นที่ 1) | AirPods Pro (รุ่นที่ 2) | |
ชิปหูฟัง | H1 | H2 |
ชิปเคสชาร์จ | ❌ | U1 |
จับคู่อย่างรวดเร็ว | ✅ | ✅ |
สลับอุปกรณ์อัตโนมัติ | ✅ | ✅ |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0 | Bluetooth 5.3 |
เซ็นเซอร์ | เซ็นเซอร์คู่แบบออปติคอล | เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนัง |
ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่ง | ✅ | ✅ |
ไมโครโฟนที่หันเข้าด้านใน | ✅ | ✅ |
การสั่งการ | บีบที่ก้าน | บีบที่ก้าน, สัมผัสเพื่อปรับระดับเสียง |
หูฟังทนน้ำ IPX4 | ✅ | ✅ |
เคสทนน้ำ IPX4 | ❌ | ✅ |
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนังสั้นกว่า AirPods Pro รุ่นแรก และมีจจุกหูฟังซิลิโคนเพิ่มให้ 4 คู่ โดยเพิ่มขนาดเล็กพิเศษเข้ามา เพื่อให้พอดีกับหูหลายขนาดมากขึ้น คือ XS, S, M, Lก้านของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) กับรุ่นแรกเป็นแบบเดียวกัน สามารถบีบที่ตัวก้านหูฟังเพื่อสั่งการได้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน AirPods Pro (รุ่นที่ 2) คือ สามารถสัมผัสที่ก้านเลื่อนขึ้น-ลงเพื่อปรับระดับเสียงได้AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ใช้ชิป H2 ส่วน AirPods Pro (รุ่นที่ 1) ใช้ชิป H1 แต่เรื่องฟังก์ชันพื้นฐานก็ยังใช้งานได้เหมือน เช่น การจับคู่อย่างรวดเร็ว สลับอุปกรณ์ที่มี Apple ID เดียวกันอัตโนมัติ รองรับ Hey Siri และฟีเจอร์เสียงต่าง ๆ เหมือนกัน แต่สื่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ตัวเคสชาร์จของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) มีการใส่ชิป U1 เพิ่มเข้ามา และเพิ่มลำโพงในตัวเข้ามาด้วย เพื่อให้สามารถใข้งานร่วมกับฟีเจอร์ Find My ได้AirPods Pro (รุ่นที่ 2) และเคสชาร์จ MagSafe สามารถทนเหงื่อและน้ำที่ระดับ IPX4 แต่ตัวเคสชาร์จของ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) ไม่สามารถทนเหงื่อและน้ำได้
ระบบเสียง
AirPods Pro (รุ่นที่ 1) | AirPods Pro (รุ่นที่ 2) | |
Dolby Atmos | ✅ | ✅ |
Spatial Audio พร้อมการติดตามศีรษะ | ✅ | ✅ |
ตัดเสียงรบกวน ANC | ✅ | ✅ |
โหมดฟังเสียงภายนอก | ฟังเสียงภายนอก | ฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ |
EQ แบบปรับได้เอง | ✅ | ✅ |
ไดรเวอร์ High-excursion | ✅ | ✅ |
ตัวขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูง | ✅ | ✅ |
ระบบช่องระบายอากาศรักษาแรงดัน | ✅ | ✅ |
โดยรวมแล้ว AirPods Pro (รุ่นที่ 2) และ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) รองรับระบบเสียงหลัก ๆ ของ Apple ได้เหมือนกัน แต่โหมดฟังเสียงภายนอกของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) จะเป็นโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะแวดล้อมภายนอกขณะที่เราใช้งานอยู่ในขณะนั้น
แบตเตอรี่และการชาร์จ
AirPods Pro (รุ่นที่ 1) | AirPods Pro (รุ่นที่ 2) | |
ฟังนานสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง | 4.5 ชม. | 6 ชม. |
ฟังนานสุดเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ | 24 ชม. | 30 ชม. |
ชาร์จ 5 นาทีฟังได้ 1 ชม. | ✅ | ✅ |
เคสชาร์จ MagSafe | ✅ | ✅ |
ใช้ที่ชาร์จ Apple Watch | ❌ | ✅ |
เคสชาร์จ รองรับชาร์จไร้สาย Qi | ✅ | ✅ |
เคสชาร์จผ่านสาย Lightning | ✅ | ✅ |
ลำโพงในตัว | ❌ | ✅ |
ช่องคล้องสาย | ❌ | ✅ |
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) มีการเพิ่มระยะเวลาของแบตเตอรี่เข้า จึงทำให้สามารถฟังต่อการชาร์จ 1 ครั้งได้นานขึ้นเป็น 6 ชม. และถ้าใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ก็สามารถฟังได้นานสุด 30 ชม. แต่ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) ฟังต่อการชาร์จ 1 ครั้งได้เพียง 4.5 ชม. และใช้ร่วมกับเคสชาร์จได้นานสุด 24 ชมส่วนระบบการชาร์จอย่างอื่นนั้นทั้ง AirPods Pro (รุ่นที่ 2) และ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) มีเหมือนกัน คือ Fast Fuel ชาร์จ 5 นาทีฟังได้ 1 ชม., เคสชาร์จเป็นแบบ MagSafe เหมือนกันทั้งคู่, รองรับชาร์จไร้สายบนที่ชาร์จไร้สาย Qi เป็นต้นนอกจากนี้ เคสชาร์จของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่างการใช้ที่ชาร์จของ Apple Watch ร่วมกันได้ รวมถึงมีลำโพงไว้ส่งเสียงในตัวเพื่อรองรับการใช้งานกับฟีเจอร์ Find My และมีช่องคล้องสายในตัวด้วย
ราคาเปิดตัว
AirPods Pro (รุ่นที่ 1) | AirPods Pro (รุ่นที่ 2) | |
ราคาตอนเปิดตัว | 9,490 บาท | 8,990 บาท |
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) กับ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) เลือกรุ่นไหนดี?
เนื่องจากราคาเปิดตัวของ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) มีราคาถูกกว่า แต่ด้วย AirPods Pro (รุ่นที่ 1) เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว Apple จึงมีการปรับลดราคาลงเหลือ 8,992 บาท แต่ปัจจุบันหน้าเว็บไซต์ของ Apple ได้มีการเลิกขาย AirPods Pro (รุ่นที่ 1) ไปแล้ว
ดังนั้นหากใครที่สนใจ AirPods Pro (รุ่นที่ 1) มากกว่า และคิดว่า AirPods Pro (รุ่นที่ 2) แพงไปก็สามารถหาซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายได้เลย เพราะล่าสุดหลาย ๆ ร้านก็ลดราคา AirPods Pro (รุ่นที่ 1) กันแล้วหลังจากรุ่นที่ 2 เปิดตัว
แต่ถ้าหากใครมีกำลังทรัพย์เพียงพอผู้เขียนก็ยังแนะนำให้ซื้อ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ดีกว่า เพราะด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ Apple เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมแบบสัมผัส หรือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงเคสชาร์จก็สามารถใช้ที่ชาร์จของ Apple Watch ได้ด้วยแล้วนั้นถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปข้อมูลสเปกสินค้าและคำแนะนำการซื้อจากประสบการณ์ของผู้เขียน ทั้งนี้การตัดสินใจซื้อก็ขึ้นอยู่กับเหตุผล ปัจจัย กำลังทรัพย์ และความชอบของแต่ละคนด้วย ข้อมูลนี้จึงเป็นแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อเท่านั้นค่ะ