Zakura Kim
สำหรับผู้ใช้ AirPods ที่พบว่าแบตเตอรี่หมดเร็ว มีเวลาใช้งานน้อยลง หรืออยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องเก็บแบตเตอรี่ไว้ใช้งานนาน ๆ ไม่มีอุปกรณ์ชาร์จขนะนั้น เรามาชมเคล็ดลับช่วยประหยัดแบตเตอรี่หูฟัง AirPods ให้ใช้ได้นานมากขึ้นกัน
10 ทริค ช่วยประหยัดแบตเตอรี่หูฟัง AirPods ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น
จากข้อมูลของ Apple ระบุถึงเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ AirPods แต่ละรุ่นไว้ดังนี้ โดยตั้งระดับเสียงไว้ที่ 50%
- AirPods รุ่นที่ 1 : ฟังต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จใช้ได้ 24 ชั่วโมง
- AirPods รุ่นที่ 2 : ฟังต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จใช้ได้ 24 ชั่วโมง
- AirPods รุ่นที่ 3 : ฟังต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จใช้ได้ 30 ชั่วโมง
- AirPods Pro : 4. ฟังต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จใช้ได้ 24 ชั่วโมง
- AirPods Max : ฟังต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง เคสไม่สามารถชาร์จได้
11 ทริค ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่หูฟัง AirPods ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น
1. ไม่เปิดเสียงดังเกินไป
การปรับระดับเสียงหูฟังให้ดังขึ้น ก็ย่อมใช้แบตเตอรี่มากขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าหากเราอยากจะเซฟแบตเตอรี่หูฟังไว้ใช้งาน แนะนำให้ปรับระดับเสียงให้ต่ำลง นอกจากจะช่วยประหยัดแบตแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพการได้ยินด้วย
2. ใส่ AirPods ในเคสชาร์จ เมื่อไม่ได้ใช้งาน
เมื่อใดก็ตามที่เราไม่ได้หยิบหูฟัง AirPods มาสวมใส่ ก็ควรเก็บหูฟังไว้ในเคสเพื่อชาร์จ ไม่ควรทิ้ง AirPods ไว้นอกเคสชาร์จโดยไม่ได้ใช้งาน เพราะหูฟังจะใช้พลังงานแบตเตอรี่โดยไม่จำเป็น การเก็บไว้ในเคสจะทำให้หูฟังชาร์จตัวเองและช่วยถนอมแบตเตอรี่ด้วย
3. อย่าเปิดฝาเคสทิ้งไว้ โดยไม่จำเป็น
เวลาที่เราเปิดฝาเคส AirPods ไว้ ไฟแสดงสถานะก็จะแสดงขึ้นมาด้วย ซึ่งหูฟังจะอยู่ในสถานะที่พร้อมเชื่อมกับอุปกรณ์อื่น เช่น iPhone, iPad หรือ Mac ดังนั้นการเปิดฝาเคสโดยไม่ได้ใช้งานก็ทำให้เปลืองแบตเตอรี่ได้เช่นกัน ควรปิดไว้เมื่อไม่ได้ต้องการเชื่อมต่อใช้งาน
4. ปิดการใช้ Hey Siri บน AirPods
สำหรับ AirPods รุ่นที่ 2 ขึ้นไปที่รองรับการสั่งการ Siri นั้น เวลาที่เราตั้งค่าเปิดใช้งาน Hey Siri หรือหวัดดี Siri ไมโครโฟนของ AirPods จะคอยฟังการเรียกเสมอ ถ้าหากใครที่ไม่จำเป็นได้ใช้งานก็สามารถตั้งค่าปิดได้ ช่วยประหยัดแบตได้มากขึ้น
5. ปิดการใช้ระบบเสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio)
หน้าเว็บไซต์เปรียบเทียว AirPods ของ Apple ระบุว่าเมื่อเราเปิดใช้งานฟีเจอร์เสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) บน AirPods รุ่นที่ 3 การใช้งานจะสามารถใช้ได้สูงสุด 5 ชั่วโมง จากปกติ 6 ชั่วโมง (AirPods Pro และ AirPods Max ก็ลดลงด้วยเช่นกัน) ดังนั้นถ้าเราอยากจะเก็บแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนานก็สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้
6. ปิดการตรวจจับเสียงรบกวนและโหมดการฟังเสียงภายนอก
คล้าย ๆ กับการเปิดใช้ระบบเสียงตามตำแหน่ง เมื่อเราเปิดใช้งานการตรวจจับเสียงรบกวนและโหมดการฟังเสียงพายนอก ก็ทำให้ใช้พลังงานแบตเตอรี่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน ถ้าหากเราปิดใช้งาน 2 โหมดนี้ จะช่วยเพิ่มเวลาการฟังอีกประมาณ 30 นาที
7. ใช้งาน AirPods ข้างเดียว สำหรับการโทร
หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องประหยัดแบตเตอรี่ AirPods สำหรับการสนทนาสายโทรศัพท์ เราอาจจะเลือกใช้ AirPods เพียงข้างเดียว และเก็บอีกหนึ่งข้างไว้ในเคสชาร์จ เผื่อไว้สำหรับใช้งานต่อ เมื่อแบตเตอรี่ของหูฟังข้างใดข้างหนึ่งหมด
8. หลีกเลี่ยงการวางในที่ร้อน อุณหภูมิสูงหรือในที่เย็นจัด
แบตเตอรี่ของ AirPods จะทำงานได้ปกติเมื่อใช้งานในอุณหภูมิที่ไม่สูงหรือร้อนเกินไป รวมถึงไม่เย็นจัดด้วย ซึ่งอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปนั้นจะส่งผลต่ออายุของแบตเตอรี่โดยตรง เหมือนกับอุปกรณ์ของ Apple อื่น ๆ ที่มีแบตเตอรี่ ดังนั้นอย่าวาง AirPods ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
ในกรณีที่เราชาร์จ AirPods ด้วย MagSafe หรือวางชาร์จแบบไร้สาย แล้วพบว่าเคส AirPods ร้อน แนะนำให้นำออกจากแท่นชาร์จ และปล่อยทิ้งไว้สักพักจนกว่าเคสจะเย็นลง
9. อัปเดตเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
หากเราพบว่าแบตเตอรี่ของ AirPods หมดเร็วจนเกินไป แนะนำให้ลองเช็คดูก่อนว่าได้อัปเดตเฟิร์มแวร์ของ AirPods เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือไม่ เนื่องจากการปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์นั้น อาจจะมาพร้อมการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดที่เป็นสาเหตุของการทำให้แบตเตอรี่หมดไว
10. เลิกจับคู่ AirPods แล้วเชื่อมต่อใหม่
แต่ถ้าหากลองทำทุกขั้นตอนที่กล่าวมาแล้ว หูฟัง AirPods ยังคงแบตเตอรี่หมดไว แนะนำให้เราลบ AirPods ออกจากบลูทูธเพื่อเลิกจับคู่ก่อน จากนั้นก็ลองเชื่อมต่อบลูทูธใหม่อีกครั้ง
สำหรับใครที่พบปัญหาแบตเตอรี่ของหูฟัง AirPods หมดไว และลองแก้ไขปัญหาตามวิธีที่ทีมงานได้แนะนำไปแล้ว แต่ปัญหาก็ยังคงกลับมาเหมือนเดิม ก็อาจจะลองติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบปัญหาอย่างละเอียดอีกครั้งนะคะ
ที่มา idownloadblog
