ถึงแม้ว่า iPhone รุ่นใหม่ ๆ จะมีคุณสมบัติทนน้ำ แต่เมื่อเครื่องโดนน้ำแล้ว น้ำอาจจะไปปิดเสียงลำโพงอยู่และอาจจะซึมเข้าไปด้านในได้ หากไม่มีการไล่น้ำออกจากลำโพง เรามาชมวิธีไล่น้ำง่าย ๆ 3 วิธีด้วยกัน
รวม 3 วิธีไล่น้ำออกจากลำโพง iPhone อัปเดตปี 2023
เมื่อเครื่องเปียกน้ำ ก่อนไล่น้ำ ควรเช็คเครื่องก่อนและปฏิบัตดังนี้
- ถอดเคสออกจาก iPhone ให้เรียบร้อยก่อน
- หากเครื่องเพิ่งตกน้ำหรือโดนน้ำกระเซ็นใส่ ใช้ผ้านุ่มเช็ด iPhone ให้แห้งก่อน
- หากน้ำชา กาแฟ น้ำผลไม้ ไวน์ หรือน้ำอื่น ๆ หกใส่ iPhone ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดก่อน โดยห้ามใช้น้ำแรงดันสูง หรืออาจจะใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ด
- ห้ามเสียบชาร์จ iPhone ที่กำลังเปียก ควรทิ้งเครื่องไว้โดยไม่ต้องชาร์จ 5 ชั่วโมงขึ้นไป
- อย่าเพิ่งนำถาดซิมออก เมื่อ iPhone เปียก
- ตรวจสอบช่อง Lightning และส่วนของลำโพงด้านล่างว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่ เพื่อไม่ให้มีสิ่งกีดขวางระหว่างไล่น้ำออก
วิธีที่ 1 ใช้แอป Sonic ช่วยไล่น้ำ
ดาวน์โหลดแอป Sonic สำหรับไล่น้ำออกจากลำโพง [ดาวน์โหลดแอปที่นี่] เมื่อติดตั้งแอปเรียบร้อยแล้ว ให้เอียง iPhone ลงด้านล่างเล็กน้อย
- เปิดแอป Sonic และปรับระดับเสียงให้ดังสุด
- ปรับความถี่ โดยเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ ความถี่ที่แนะนำอยู่ที่ 160Hz – 200Hz แล้วแตะ Play
- ถ้าหากน้ำยังไม่หยดออก ให้แตะไอคอนหยดน้ำ เพื่อใช้ความถี่ที่เหมาะสมเพื่อไล่น้ำออก
วิธีที่ 2 ใช้คำสั่งลัดไล่น้ำ
วิธีนี้เราจะใช้คำสั่งลัด Josh0678 [แตะที่นี่เพื่อเปิดคำสั่งลัด] แนะนำเปิดคำสั่งลัดใน Safari แล้วเลือก รับคำสั่งลัด > เพิ่มคำสั่งลัด > เปิดแอปคำสั่งลัด (Shortcuts) ขึ้นมา แล้วแตะที่คำสั่งลัด Water Eject
แตะ Begin Water Ejection จากนั้นก็รอให้คำสั่งลัดทำงาน เล่นเสียงความถี่ที่ช่วยไล่น้ำออกจากลำโพง สามารถเล่นคำสั่งลัดได้เรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะหยดออกจากลำโพง
วิธีที่ 3 ใช้เว็บไซต์ช่วยสร้างโทนเสียงไล่น้ำ
วิธีนี้ง่ายมาก ๆ เราสามารถเปิดเว็บไซต์ความถี่เสียงช่วยไล่น้ำออกจากลำโพงได้ แนะนำ 2 เว็บไซต์ด้วยกัน คือ
เปิดเว็บไซต์ผ่านเบราเซอร์ Safari จากนั้นก็แตะเล่นเสียงความถี่เพื่อไล่น้ำออกจากลำโพงได้เลย สำหรับเว็บไซต์ OnlineToneGenerator แนะนำให้ปรับความถี่ 160Hz – 200Hz และปรับระดับเสียงลำโพงให้ดัง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่สามารถช่วยไล่น้ำออกลำโพง iPhone ได้ ในกรณีที่ iPhone ตกน้ำ เปียกน้ำ สิ่งสำคัญคือเราควรทำให้เครื่องแห้งด้วยการเป่าลมที่ไม่ใช้ความร้อน และอาจจะนำ iPhone ไปเก็บในกล่องพร้อมกับซิลิกาเจลประมาณ 24 ชั่วโมง
ถ้าหากปฏิบัติตามวิธีที่แนะนำดังกล่าวแล้ว ลำโพง iPhone ของเรายังคงฟังดูเสียงมาไม่เต็ม ก็อาจจะติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple หรือนำเครื่องไปตรวจสอบที่ Apple Store หรือตัวแทนที่รับบริการได้
ที่มา iGeekBlog