วันนี้ผมจะมาขอรีวิวเคสที่แพงที่สุดในชีวิตน้อย ๆ ของผมเท่าที่เคยได้จับมาเลย นั่นก็คือ Patchworks Alloy X Wood นั่นเอง สำหรับวัสดุของมันก็ไม่ใช่อะไรครับ ทองคำ และ ทองคำขาว นั่นเอง ส่วนราคาก็คงไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ ไฮโซแท้ ๆ แน่นอน เพราะมันคือทองคำ 24k หรือก็คือทองคำ 99.99% นั่นเอง
“Patchworks Alloy X Wood” สามารถสั่งซื้อได้ที่ Mr.Caseman By Rajah Phoenix
Patchworks Alloy X Wood (24K Yellow Gold, 24K White Gold) ราคาอยู่ที่ 15,900 บาท
Patchworks Alloy X Wood (Silver, Titanium, Black) ราคาอยู่ที่ 4,500 บาท
เรามาแกะกล่องพร้อมกันทีเดียวเลยแล้วกันนะครับ สำหรับรุ่นทองคำ (24K Yellow Gold) และรุ่นทองคำขาว (24K White Gold) ส่วนฝาปิดกันรอยด้านหลังทำมาจากไม้แท้ 100% ครับ ซึ่งเป็นงานฝีมือชั้นสูงมาก ๆ กว่าจะฝานออกมาให้ได้เป็นแผ่นบาง ๆ ขนาดนี้ และสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมครับ
24K White Gold Alloy X Wood with Japanese Walnut
24K Yellow Gold Alloy X Wood with African Zebra Wood
ด้านในมีคู่มือผลิตภัณฑ์ให้อย่างเรียบร้อย บอกวิธีการติดตั้งถือว่าสะดวกมาก
กล่องบรรจุภัณฑ์อีกชั้นหนึ่ง เป็นสินค้า Limited Edition ที่ทำมาเพียงไม่กี่ชิ้นบนโลก
ชัด ๆ อีกภาพกับลาย Limited Edition ประจำปี 2012/2013
มารู้จักทองคำและทองคำขาว 24K กัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าวัสดุเคลือบของมันนั้นทำมาจากทองคำและทองคำขาว ซึ่งหน่วย K ของมันจะมีความหมายดังต่อไปนี้
24K คือ ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% (ใช้ทำอะไรไม่ได้เลย อ่อนมาก ยกเว้นสแตมป์และทองคำแท่งในบางประเทศ)
23.16K คือ ทองคำบริสุทธิ์ 96.5% (มาตรฐานสำหรับใช้ทำทองคำแท่งที่นิยมในประเทศไทย)
18K คือ ทองคำบริสุทธิ์ 75% (นิยมใช้ทำเครื่องประดับ เพราะแข็งแรงมาก)
18K Yellow Gold สีเหลือง (ทอง 75% + เงิน 16% + ทองแดง 9%)
18K Pink Yellow Gold สีเหลืองอมชมพู (ทอง 75% + เงิน 12.5% + ทองแดง 12.5%)
18K Pink Or Rose Gold สีกุหลาบ (ทอง 75% + เงิน 9% + ทองแดง 16%)
18K Red Gold สีเหลืองอมแดงหรือคนไทยเรียกนาก (ทอง 75% + เงิน 4.5% + ทองแดง 20.5%)
18K White Gold สีขาว (ทอง 75% + เงิน 5% + พาลาเดียม 20%)
14K Light Yellow Gold สีเหลืองอ่อน (ทอง 58.5% + เงิน 26.5% + ทองแดง 15%)
9K Yellow Gold สีเหลืองปนเขียว (ทอง 37.5% + เงิน 21% + ทองแดง 21% + พาลาเดียม 18% + สังกะสี 2.5%)
สำหรับทอง 24K ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงสุด ราคาขายจะคิดเป็นกรัม แพงกว่าทอง 96.5% ประมาณ 50-70% หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับความยากของลายในบางกรณี แต่ตอนขายคืนจะได้เท่าราคาตลาดของทองปกติครับ
… ข้อมูลซะยาวเลย ทั้ง ๆ ที่เคสมีทองคำอยู่นิดเดียว …
กล่องภายในหรูหรามากครับ มีไขควงและน็อตให้พร้อมเลย
ชื่นชมความงามของเคสทองคำก่อนครับ มันเหลืองและสวยมากจริง ๆ บวกกับลายไม้ธรรมชาติแท้ยิ่งทำให้ดูดีมากขึ้น ส่วนทองคำขาวจะสีออกเหมือนเงินเลยครับ แต่ว่ามันเงามากกว่า
เอกสารมีใบรับรองพร้อมลายเซ็นต์จาก CEO (อะไรจะขนาดนั้น) มี S/N ระบุเรียบร้อย และการ์ดสำหรับตรวจสอบครับ
อันนี้เป็นล็อตของตัวนี้ครับ เป็นของปี 2012 เดือนธันวาคม
กันรอยด้านหลังเป็นไม้แท้ ๆ ครับ ซึ่งเคสทองคำและทองคำขาวจะได้ไม้คนละชนิดกัน สำหรับตัวนี้จะเป็น African Zebra Wood ได้ถึงสองชิ้นด้วยกัน ติดง่ายและสวยครับ
ด้านในเป็นกำมะหยี่สำหรับกันกระแทกเหมือนพวก Bumper แบบแข็งทั่ว ๆ ไปครับ
ขันน็อตและติดตั้งลงไปแล้วครับ ช่างดูหรูหราและงดงามมากจริง ๆ นี่ผมกำลังจะกลายเป็นไฮโซไปแล้วหรือนี่ OMG!
สำหรับใครที่คิดว่ามันแพงเคสบ้าอะไรตั้งหมื่นกว่าบาท (ซึ่งมันก็แพงจริง ๆ นั่นแหล่ะ) ลองคิดกลับดูว่าปกติเคสที่เราซื้อกันนั้นตกอันละพันกว่าบาท พอใช้ไปซัก 1-2 ปี ไอโฟนตกรุ่น หรือเคสก็เก่าไปตามกาลเวลามันก็หมดค่าจนแทบเป็นศูนย์ (ลงทุนไป 1,000 ราคาเหลือ 0)
แต่สำหรับเคสตัวนี้ราคาก็น่าจะเหลืออยู่บ้างนะ เพราะมันมีค่าในตัวของมันเอง เอาไปหลอมเป็นเศษทองก็น่าจะมีมูลค่าอยู่ แต่ที่ผมไม่รู้คือทองจริง ๆ มันมีน้ำหนักอยู่เท่าไหร่นี่น่ะสิ (มันหลอมได้ไหมก็ไม่รู้ และปริมาณเท่าไหร่ใครพอคาดคะเนได้ช่วยบอกที ^^)
ด้านล่างเป็นแบบน็อตจำนวนสองตัว ส่วนช่องด้านล่างทำออกมาได้ดีครับ
มุมด้านข้างจะเป็นลายไม้ตัดเข้ากับเคสครับ จับแล้วให้ความรู้สึกที่ดีมาก
ในส่วนของหัวเคสนั้นจะเป็นปุ่มสำหรับล็อคเครื่องครับ มีการทำให้เว้าลงด้วยเพื่อที่จะได้กดได้ง่ายขึ้น
ด้านข้างอีกฝั่วก็เช่นกันครับ มีการเว้าลงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้สามารถปรับเสียงได้ง่าย เหนือขึ้นไปจะมีรูไว้ให้ห้อยของเล็กน้อยครับ หรือใครจะใช้กับสายห้อยคอก็สวยดีนะ (เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นคนใช้กันเลย)
ผิวพื้นไม้ด้านหลังค่อนข้างที่จะทนครับ แถมยังช่วยกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
ถ่ายเปรียบเทียบกับด้านหลังที่เป็นทองคำขาวครับ โดยส่วนตัวผมว่าแบบทองธรรมดาดูสวยกว่า
คราวนี้มาดูรุ่นถูกลงมาบ้าง ราคา 4,500 วัสดุไม่ได้ทำมาจากทองคำหรือทองคำขาวครับตัวนี้ เป็นแค่อลูมิเนียมธรรมดา ๆ แต่ราคาถูกกว่าหมื่น หรือคิดกลับกันก็คือทองคำในนั้นมีมูลค่าประมาณหมื่นนึงนั่นเอง
กล่องด้านในไม่มีใบรับรองและลายเซ็นต์ CEO ครับ เลยทำให้ดูธรรมดาขึ้นมาหน่อย
แบบอลูมิเนียมตัวนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันครับ เพราะทำมาจากอลูมิเนียมชนิดเดียวกับที่ใช้บนอากาศยาน ที่ให้น้ำหนักเบาและแข็งแรงมาก อันนี้ก็แล้วแต่แล้วกันนะครับ ว่าใครจะชอบวัสดุแบบไหน
สรุป : ด้วยความที่เป็นงาน Handmade เลยทำให้ดูมีคุณค่า และด้วยวัสดุของมันยิ่งทำให้มีค่าหนักขึ้นไปอีก โดยรวมนับว่าสวยมากครับ ถ้าอันละพันสองพันนี่คงซื้ออย่างไม่คิดอย่างแน่นอน แต่ปัญหาก็คือราคามันหมื่นกว่าบาทนี่น่ะสิ เลยทำให้คิดหนักไปเยอะมาก ๆ เลย แต่มันก็โอเคอยู่นะถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ ^^
ขอขอบคุณ : Mr.Caseman By Rajah Phoenix ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถดูสถานที่ซื้อได้ที่
Mr.Caseman Shop [ by Be trend ]
- Siam Paragon
iStudio [ by Copperwired ]
- J-Avenue
- Silom Complex
- Gaysorn
- All Season
.Life [ by Copperwired ]
- Siam Paragon
- Central Lardprao
- Central Rama 9