in ,

วิธีป้องกันไม่ให้ Meta นำข้อมูลไปเทรน AI ให้ฉลาดขึ้น โดยไม่ได้ขออนุญาต!

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Meta จะนำข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ไปสอน AI หากไม่ทำอะไรเลย จะถือว่ายินยอมให้นำข้อมูลไปใช้ทั้งหมด ลองไปดูวิธีป้องกัน Meta กันว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

วิธีป้องกันไม่ให้ Meta นำข้อมูลไปเทรน AI ให้ฉลาดขึ้น โดยไม่ได้ขออนุญาต!

หลังจากมีประเด็นเรื่องที่ Meta จะนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไปสอน Generative AI โดยไม่ได้รับอนุญาต หากผู้ใช้ไม่มีการทำ Action อะไร จะถือเป็นการยินยอมให้ Meta นำข้อมูลไปใช้เลย

Meta นำข้อมูลส่วนตัวมาจากไหนบ้าง?

Meta จะนำข้อมูลส่วนตัวของเราที่กรอกลงไปตอนสมัคร Facebook, Instagram มาใช้แล้ว ยังนำข้อมูลมาจากแหล่งภายนอกด้วย อาทิ หน่วยงานที่ติดต่อกับ Meta รวมถึงข้อมูลทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตที่ Meta สามารถเข้าถึงได้

โดยข้อมูลทั้งหมดที่ Meta ได้ไปจะไม่ใช่แค่ประวัติส่วนตัวเท่านั้น ยังรวมถึง รูปภาพบน IG, การคอมเมนต์บน FB, ข้อความ, เสียงพูด/คำพูด, การเปิดดูโพสต์, การเลือกดูเนื้อหา หรือตำแหน่งที่เราอยู่ด้วย

Meta นำข้อมูลไปใช้ทำอะไร?

เมื่อ Meta ได้ข้อมูลทั้งหมดของเราแล้วก็จะนำไปสอน generative AI เพื่อผลิตหรือสร้างเนื้อหาโดยอัตโนมัติ เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หรือสร้างรูปภาพที่เกิดจาก AI

ลักษณะจะคล้ายกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง Microsoft, OpenAI, Google ก็จะรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่สามจำนวนมากเพื่อฝึกฝนโมเดลและซอฟต์แวร์ AI

CNBC รายงานว่า Meta ได้เผยในบล็อกโพสต์ของบริษัทเสริมว่า “การใช้ข้อมูลสาธารณะและข้อมูลที่ได้รับใบอนุญาตถือเป็นผลประโยชน์ของเรา และเรามุ่งมั่นที่จะมีความโปร่งใสเกี่ยวกับฐานกฎหมายที่เราใช้ในการประมวลผลข้อมูลนี้”

ดังนั้นหมายความว่าถ้าผู้ใช้ไม่ดำเนินการใดๆ กับข้อข้อมูลของตัวเอง ก็จะถือเป็นการยินยอมเปิดเผยข้อมูลให้กับ Meta นำไปใช้ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น

วิธีกรอกแบบฟอร์มปฏิเสธ Meta ไม่ให้เข้าถึงข้อมูล

Meta ได้อัปเดตแบบฟอร์มในศูนย์ช่วยเหลือของ Facebook บนเว็บไซต์ที่ใช้ชื่อว่า “สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลสำหรับ Generative AI” โดยเอกสารนี้ระบุว่าเป็น “แบบฟอร์มสำหรับส่งปัญหาหรือคัดค้านการใช้ข้อมูลบุคคลที่สามของคุณเพื่อฝึกฝนโมเดล Generative AI คุณสามารถใช้สิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนตัวของคุณเพื่อฝึกฝนโมเดลที่อาจมาจากบุคคลที่สาม”

โดยถ้าใครต้องการส่งแบบฟอร์มเพื่อปฏิเสธ Meta ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลให้คลิกที่ลิงก์นี้ จากนั้นเลือกตัวเลือกตามความประสงค์ของแต่ละบุคคลได้เลย

  • ข้อ 1 ขอเข้าถึง, ดาวน์โหลด, หรือแก้ไขข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดจากบุคคลที่ใช้สำหรับ Generative AI (อาจหมายถึง ขอดู/แก้ไขแล้วปล่อยให้ Meta ใช้ต่อ)
  • ข้อ 2 ขอลบข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดที่ Meta ดึงมาจากแหล่งอื่นที่นำไปใช้สอน generative AI
  • ข้อ 3 ขอคัดค้านหรือจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวจากแหล่งอื่นที่นำไปใช้สอน generative AI ของ Meta

ส่วนตัวผู้เขียนเลือกตัวเลือกที่ 2 นะคะ เพราะไม่รู้ว่า Meta จะเอาข้อมูลมาจากส่วนไหนบ้าง เอาไปใช้นานแล้วหรือยัง ถ้าเป็นตัวเลือกที่ 3 ขอคัดค้านหรือข้อจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวของเราที่ก็ไม่มีระบุเช่นกันว่าสามารถจำกัดอะไรบ้าง จึงเลือกลบข้อมูลซึ่งอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

เมื่อเลือกแล้วให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป

(ผู้เขียนแนะนำให้ตรวจสอบลิงก์ให้ดีก่อนว่าเป็นแบบฟอร์มจาก Facebook จริง ๆ ป้องกันการหลอกขโมยข้อมูลส่วนตัว)

จากนั้นจะมีแจ้งเตือนจาก Facebook เข้ามาว่ากำลังตรวจสอบคำขอที่เราส่งไป ซึ่งเป็นข้อความอัตโนมัติของ Facebook หลังจากนั้นก็ให้รออีเมลต่อไป ซึ่งใช้อาจเวลาอีกประมาณ 3-4 วัน

จากประเด็นนี้ AI มีทั้งข้อดี ข้อเสีย หรือความเสี่ยงที่จะถูกเก็บข้อมูลส่วนตัวไปอยู่แล้ว แน่นอนว่าในโลกอินเทอร์เน็ตเราหนีไม่พ้นการนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ ถ้าไม่โดนจาก Meta ก็ต้องโดนจากช่องทางอื่นอยู่ดี แต่ถึงอย่างไรเราก็ลดความเสี่ยงได้ด้วยตัวเราเองดีกว่ายินยอมโดยที่เราไม่ทำอะไรเลย

ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับความยินยอมหรือสิทธิส่วนบุคคลด้วยนะคะ สะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นได้เลย หากมีอะไรอัปเดตเพิ่มเติมทีมงาน iMoD จะรีบมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Pornpimol Kulab

Faculty of Mass Communication,
Chiangmai University