Zakura Kim
Apple ปล่อย iOS 17 ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดตอย่างเป็นทางการแล้ว เรามาชมกันว่าฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไฮไลท์เด่น ๆ ของ iOS 17 มีอะไรบ้าง
iOS 17 ปล่อยอัปเดตแล้ว มาดูไฮไลท์เด่น ๆ และฟีเจอร์ใหม่ ๆ กันเลย
iOS 17 พร้อมให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดตแล้ว เข้าไปอัปเดตกันได้เลยที่หน้า การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) รายการอัปเดตซอฟต์แวร์
1. Contact Poster ปรับแต่งหน้าจอรายชื่อให้สวยสะดุดตา
โปสเตอร์รายชื่อ (Contact Poster) ผู้ใช้สามารถออกแบบและปรับแต่งการแสดงรูปภาพและชื่อของเรา รวมถึงบุคคลในรายชื่อที่เราโทรหา ให้สวยโดดเด่น สร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับการโทรหรือรับสาย โดยเลือกจากรูปภาพหรือ Momoji ก็ได้ สามารถเลือกปรับแต่งฟอนต์ให้สวยงามได้อีกด้วย
2. NameDrop ส่งรายชื่อ ข้อมูลติดต่อง่าย ๆ
NameDrop เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจที่ได้รับการอัปเดตใน iOS 17 เราสามารถแชร์ข้อมูลการติดต่อด้วย NameDrop เพียงแค่ถือ iPhone ไว้ใกล้ ๆ กัน ก็สามารถแชร์ข้อมูลติดต่อได้อย่างง่ายดาย
3. Live Sticker สร้างสติกเกอร์น่ารัก ๆ จากรูปในเครื่อง
เพิ่มประสบการณ์การสื่อสารและการพูดคุยให้สนุกขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างสติกเกอร์ใหม่จากรูปภาพได้ (Live Sticker) ไม่ว่าจะเป็นรูปสัตว์ คน หรือสิ่งของ พร้อมปรับแต่งเอฟเฟกต์ให้ดูน่ารักมากขึ้น จากนั้นก็ส่งสติกเกอร์ให้กับเพื่อน ๆ หรือจะแปะสติกเกอร์เพื่อ Reaction สิ่งที่ชอบในห้องแชทได้
4. StandBy Mode แสดงข้อมูลเต็มจอขณะชาร์จ MagSafe
โหมด StandBy ทำให้การวางชาร์จ iPhone เปลี่ยนไป! ระหว่างที่ชาร์จ iPhone บนแท่นชาร์จ แล้ววาง iPhone ในแนวนอน iPhone ของเราจะเข้าสู่โหมด StandBy เปลี่ยนหน้าจอล็อค iPhone ให้แสดงข้อมูลต่าง ๆ ได้ตามที่เราตั้งค่า เช่น วิดเจ็ต ปฏทิน นาฬิกา รูปภาพ สภาพอากาศ การเตือนความจำ และอื่น ๆ
5. ส่งข้อมูลผ่าน AirDrop วิธีใหม่
แชร์สิ่งต่าง ๆ
และ AirDrop ยังสามารถ่ายโอนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่นอกระยะ AirDrop อยู่ไกลกัน ก็สามารถส่งข้อมูลได้อย่างปลอดภัย แต่ผู้รับและผู้ส่งต้องลงชื่อเข้าใช้ iCloud ไว้ด้วย
นอกจากนี้ AirDrop ยังรองรับการการแชร์ SharePlay ด้วย เพียงนำ iPhone 2 เครื่องมาไว้ใกล้กัน ก็เริ่มเล่นเพลงหรือมีเดียต่าง ๆ ได้ทันที
6. วิดเจ็ตแบบโต้ตอบ
วิดเจ็ตบนหน้าจอโฮม iPhone สามารถโต้ตอบได้แล้ว เช่น สามารถสั่งเปิดปิดไฟ เช็คลิสต์รายการเตือนความจำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
7. ค้นหา Apple Watch ง่าย ๆ ด้วย Ping My Watch
ใน Control Center เพิ่มเมนู “Ping My Watch” เพื่อให้ผู้ใช้กดค้นหา Apple Watch ได้ง่าย ๆ เหมือนกับการค้นหา iPhone บน Apple Watch ด้วย Ping My iPhone
8. โหมดภาพถ่ายบุคคล พร้อมการควบคุมระยะโฟกัสและระยะชัดลึก
ผู้ใช้สามารถเลือกปรับหรือสลับโฟกัสในรูปภาพที่ถ่ายด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคลได้ ทั้งภาพที่เพิ่งถ่ายเสร็จหรือภาพในแอป Photos รองรับตั้งแต่ iPhone 13 ขึ้นไป
9. กล้องถ่ายรูป มีเส้นระนาบ
แอปกล้อง เพิ่มการตั้งค่าเปิดเส้นระนาล ได้ ช่วยให้การถ่ายรูปและวิดีโอตรงมากขึ้น เนื่องจากมีเส้นระนาบเป็นไกด์ไลน์บอกเวลาถ่าย ทำให้ภาพถ่ายตรงและดูสวยงาม
10. Check in แจ้งเตือนเมื่อถึงจุดหมายปลอดภัย
ฟีเจอร์ใหม่ Check in เป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คอิน เพื่อแจ้งเตือนไปยังเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวให้ทราบว่าถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยแล้ว
ถ้าหากไม่มีความคืบหน้าในการเดินทาง รายชื่อที่เราเลือกแจ้งเตือนไว้ จะได้รับข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ระดับพลังงานแบตเตอรี่ และสถานะของสัญญาณมือถือ ซึ่งข้อมูลูกเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ปลอดภัยแน่นอน
11. Safari เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ผู้ใช้สามารถล็อคแถบ “ส่วนตัว (Private)” ได้แล้ว หากจะเข้าใช้งานแถบส่วนตัวนี้ ผู้ใช้จะต้องสแกนใบหน้าหรือป้อนรหัสเพื่อปลดล็อกก่อน ป้องกันผู้อื่นเข้าถึงแถบส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ Safari ยังเพิ่มตัวเลือกการล้างประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ด้วย ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะล้างประวัติในชั่วโมงที่แล้ว วันนี้ วันนี้และเมื่อวาน หรือจะล้างทั้งหมดก็ได้
12. จับภาพหน้าจอทั้งหมด แล้วบันทึกเป็น PDF ได้แล้ว
ผู้ใช้สามารถจับภาพหน้าจอหรือแคปหน้าจอแบบทั้งหมดยาว ๆ แล้วบันทึกเป็นไฟล์ PDF เพื่อนำไปใช้งานต่อได้เลย
13. แยกเสียงริงโทน ตามซิมหรือเบอร์ที่ใช้งานได้แล้ว
หากใช้งานหลายซิม เราสามารถตั้งเสียงริงโทนให้แตกต่างกันได้ เวลาที่มีคนโทรมาจะได้รู้ว่าโทรเข้ามาที่เบอร์ไหน
14. Live Wallpaper กลับมาใน iOS 17 แล้ว
หลังจากที่ Live Wallpaper ได้ถูกนำออกไปตอนปล่อยอัปเดต iOS 16 แต่ใน iOS 17 Apple ก็ได้นำฟีเจอร์นี้กลับมาใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถเลือกรูปภาพแบบ Live Photo มาสร้างเป็นภาพพื้นหลัง (Wallpaper) หน้าจอล็อกแบบเคลื่อนไหวได้เลย
15. ลบรหัสยืนยันอัตโนมัติ
เมื่อมี SMS ที่เป็นรหัสการตรวจสอบยืนยันเข้ามาเยอะ ๆ มันอาจจะทำให้เครื่องรก หากเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้จะมีการลบรหัสผ่านยืนยัน (OTP) ออกไปอัตโนมัติเมื่อเราใช้รหัสนั้นเรียบร้อยแล้ว
16. Live Text จับข้อความภาษาไทยในภาพได้แล้ว
ฟีเจอร์ Live Text จับข้อความภาษาไทยในรูปภาพได้แล้ว! ตรวจจับได้แม่นยำ ไม่มีพลาด มีประโยชน์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย
17. หูฟัง AirPods ได้รับการปรับปรุงใหม่
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ได้รับการปรับโหมดการฟังแบบใหม่ ช่วยให้คุณสมบัติเสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อมสามารถผสานการฟังเสียงภายนอกและการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ AirPods AirPods Pro (รุ่นที่ 1 และ 2), AirPods (รุ่นที่ 3) เพิ่มฟีเจอร์การเปิดและปิดเสียงระหว่างโทรที่ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการบีบก้านหูฟัง ส่วน AirPods Max กดปุ่ม Digital Crown ได้เลย
ในส่วนของการเชื่อมต่อหูฟังกับ iPhone หน้าการเชื่อมต่อยังรองรับ Dark Mode ด้วย ซึ่งจะแสดงโทนสีตามการตั้งค่าของ iPhone
18. เปลี่ยนการเรียก Siri ใหม่ ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Siri สามารถเปิดใช้งานได้เพียงพูดว่า “Siri” ผู้ใช้สามารถใช้หลายคำสั่งติดต่อกันได้โดยไม่ต้องเรียก Siri หลายครั้ง นอกจากนี้ Siri ในภาษาไทยยังมีเสียงใหม่สดใสกว่าเดิม มีตัวเลือกเสียงผู้หญิงและเสียงผู้ชายด้วย
19. Listen to Page ให้ Siri ช่วยอ่านข้อมูลในเว็บให้
“Listen to Page” เมื่อเรากดใช้งาน Siri จะอ่านหน้าเว็บไซต์ที่เปิดอยู่ให้เราฟัง โดยจะอ่านข้อความทั้งหมดที่อยู่บนเว็บไซต์ เราไม่ต้องมานั่งเลือกคลุมดำตัวหนังสือแล้วกดอ่านออกเสียงเหมือนก่อนหน้านี้
นอกจากกดให้อ่านแล้ว เรายังสามารถกดพัก (Pause) หรือหากออกจากเว็บไซต์นี้ไปแล้วกลับมาใหม่ก็สามารถกดฟังต่อ (Resume) ได้ด้วย
20. จับเวลาพร้อมกันหลายตัวได้แล้วในแอป Clock
ใน iOS 17 เราสามารถใช้งานจัวจับเวลาได้หลาย ๆ อันพร้อมกัน ซึ่งตัวจับเวลาแต่ละตัวจะมีชื่อของตัวจับเวลากำกับไว้ เมื่อการจับเวลาเสร็จสิ้นจะมีรายการรวมตัวจับเวลาที่เสร็จสิ้นล่าสุดที่เราใช้ด้านล่าง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น จับเวลาตอนทำอาหาร จับเวลาการแข่งขันต่าง ๆ เป็นต้น
21. แอปบันทึก (Journal) ใหม่ จดบันทึกเรื่องราวประจำวัน
แอปบันทึก (Journal) บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ประจำวันคล้ายกับการจดไดอารี่ มีคำแนะนำให้เรากดไดอารี่โดยอ้างอิงจากสถานที่ กิจกรรม การออกกำลังกายที่เราทำในแต่ะละวันขึ้นมา
22. ติดตามความรู้สึก ในแอป Health
แอปสุขภาพ (Health) ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า สุขภาวะทางจิต ให้ผู้ใช้บันทึกอารมณ์และความรู้สึกในแต่ละเวลา พร้อมมีแบบทดสอบเพื่อเช็คสุขภาพจิตของผู้ใช้ว่าเข้าข่ายภาวะโรคซึมเศร้าหรือไม่ และมีอารมณณ์แปรปรวนมากแค่ไหน ให้ผู้ใช้นำข้อมูลไปวิเคราะห์และจัดการกับสุขภาพจิตของตนเองได้
23. แอปสภาพอากาศ มีข้อมูลดวงจันทร์
แอปสภาพอากาศ (Weather) ใน iOS 17 เพิ่มการดูข้อมูลดวงจันทร์ ดูข้างขึ้น ข้างแรม เวลาที่ดวงจันทร์จะขึ้น และดูปฏิทินดวงจันทร์แบบทั้งเดือนได้
24. การช่วยการเข้าถึงมีประโยชน์สำหรับผู้บกพร่องมากขึ้น
การช่วยการเข้าถึงใน iOS 17 ได้รับการปรับแต่งให้ผู้ใช้ที่พิการทางสายตาและผู้พิการทางการได้ยิน สามารถใช้งาน iPhone ได้สะดวกมากขึ้น
มีฟีเจอร์ Live Speech ที่ช่วยให้การพูดชุดเจนขึ้น โดยผู้บกพร่องทางการออกเสียงหรือพูด สามารถพิมพ์ข้อความ เพื่อให้ iPhone พูดตามที่พิมพ์
ฟีเจอร์ Personal Voice ที่สามารถสร้างเสียงที่มีลักษณะกับเสียงของเราได้ ช่วยให้ผู้ที่เสี่ยงจะสูญเสียความสามารถในการพูดของตนเอง (ALS) สร้างเสียงที่เหมือนตนเองเอาไว้ แล้วนำไปรวมกับ Live Speech เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้เสียงตนเองในการติดต่อสื่อสารได้
ฟีเจอร์ Point to Speech อ่านออกเสียง สำหรับผู้พิการทางสายตา ใช้งานด้วยแอปแว่นขยายบน iPhone โดยผู้พิการทางสายตาจะต้องใช้นิ้วเลื่อนไปชี้แต่ละจุด เพื่อให้ระบบ LiDAR ตรวจจับและอ่านข้อความในจุดนั้น ๆ ให้ฟัง
25. Apple Maps ใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์ได้แล้ว
แอปแผนที่ (Apple Maps) เพิ่มคุณสมบัติแผนที่แบบออฟไลน์ ผู้ใช้สามารถค้นหาพื้นที่และดาวน์โหลดแผนที่หรือตำแหน่งที่ต้องการดูหรือนำทางแบบออฟไลน์ได้แล้ว
นอกจากนี้แอปแผนที่ยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากกว่าเดิมในการค้นหาเส้นทางเดินป่า และมีข้อมูล แบบเรียลไทม์ ในการดูสถานีรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมใช้
26. Apple Maps รองรับข้อมูลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น
แอป Apple Maps ก็ได้รับการอัปเกรดใหม่ ทำงานบน iPhone และ CarPlay ให้ผู้ใช้ตั้งค่าเครือข่ายสถานีการชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเลือกได้หลายสถานี
หลังจากที่ผู้ใช้เลือกสถานีแล้ว แอป Apple Map จะแสดงข้อมูลความพร้อมในการชาร์จตามเวลาจริง เช่น แสดงข้อมูลจำนวนตู้ชาร์จทั้งหมดที่มีอยู่ในสถานี แสดงจำนวนตู้ชาร์จที่ว่างหรือไม่ว่างแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ Apple Maps ยังแสดงเฉพาะตัวเลือกสถานีที่รองรับกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ใช้งานอยู่ด้วย
27.ฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ที่สร้างร่วมกันได้ใน Apple Music
สามารถชวนเพื่อน ๆ เข้าร่วมเพลย์ลิสต์ ให้ทุกคนสามารถจัดการเพลงในเพลย์ลิสต์ได้ รวมถึงมีส่วนร่วมในการแสดงความรู้สึกต่อเพลงที่กำลังฟังอยู่ได้ด้วย
28. ฝากข้อความเสียงและวิดีโอใน FaceTime
FaceTime ใน iOS 17 รองรับการฝากข้อความเสียง และอัดวิดีโอให้กับเพื่อน ๆ ครอบครัวหรือคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับสาย FaceTime ของเราได้แล้ว และยังสามารถใช้เอฟเฟกต์วิดีโออย่างโหมดภาพถ่ายบุคคลและแสงไฟสตูดิโอ ซึ่งทำให้เราดูดีขึ้น มีลูกเล่น ทำให้น่าดูมากขึ้น
29. FaceTime รองรับบน Apple TV
สามารถใช้ iPhone เป็นกล้องเว็บแคม แล้วเริ่มโทรด้วยแอป FaceTime บน Apple TV หรือจะส่งต่อการโทรจาก iPhone ไปที่ทีวีก็ได้ ช่วยให้การโทรแบบวิดีโอชัดเจนขึ้นบนหน้าจอทีวีใหญ่ ๆ
30. แชร์ AirTag ได้สูงสุด 5 คน
สามารถแชร์ AirTag ให้กับเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวได้แล้ว โดยแชร์ได้สูงสุดถึง 5 คน ทุกคนที่ได้รับการแชร์จะเห็นตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งของทั้งหมด และยังสามารถใช้คุณสมบัติดูตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งของได้อย่างแม่นยำเมื่อดูผ่านแอป Find My
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 17
เมื่อเช็คอุปกรณ์ที่รองรับแล้ว จากนั้นก็อัปเดตเป็น iOS 17 ได้เลย! อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญก่อนการอัปเดตด้วยนะ!
