Nooknick Yanika
อัตราการยกเลิกการสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่งเริ่มสูงขึ้น เป็นผลกระทบจากการประกาศขึ้นราคาของผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้า บวกกับกระแสเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ลูกค้าแห่ยกเลิกบริการสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น เหตุจากการขึ้นราคาแพ็กเกจ
- ลูกค้าบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลักมีการยกเลิกการเป็นสมาชิกกว่า 6.3% ในเดือนพฤศจิกายน 2023 (ของปี 2022 อยู่ที่ 5.1%)
- เหตุเกิดมาจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายเจ้าพากันขึ้นราคา
- หลายบริษัทได้ลองใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ เช่น เสนอแพ็กเกจที่มีราคาต่ำแต่มีโฆษณาคั่น
NewsNation รายงานว่า การรักษาลูกค้าในบริการสตรีมมิ่งเริ่มเป็นเรื่องที่ยากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการรายใหญ่ ๆ โดยมีการยกเลิกของลูกค้าบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลักเพิ่มขึ้นเป็น 6.3% ในเดือนพฤศจิกายน 2023 จาก 5.1% ในปี 2022 เป็นผลมาจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเจ้าหลักได้แห่ประกาศการเปลี่ยนแปลงราคาและการขึ้นราคา
Amazon Prime Video มีแผนจะใส่โฆษณาลงในเนื้อหา เพื่อดันให้ผู้ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ประมาณ 2.99 ดอลลาร์/เดือน ส่วน Netflix ขึ้นราคาแพ็กเก็จ “พื้นฐาน” และ “พรีเมียม” โดยมีราคาแพงขึ้นประมาณ 2 ดอลลาร์
แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Peacock, Paramount+, Hulu, Disney+ และ Apple TV+ ก็มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นในปี 2023 เช่นกัน
หลายบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ ขายแพ็กเกจที่มีราคาต่ำแต่มีโฆษณาคั่น โดยข้อมูลจาก Netflix กล่าวว่าประมาณ 30% ของสมาชิกที่เข้ามาใหม่นั้น เลือกที่จะสมัครแพ็กเกจแบบมีโฆษณา ในราคา 7 ดอลลาร์ และสมาชิกที่ซื้อแผนพรีเมียมก็มีแนวโน้มที่จะหันไปสมัครแพ็กเกจที่มีโฆษณาคั่นมากขึ้น
กระแสเงินเฟ้อ กดดันให้ผู้บริโภคเริ่มคิดหนักกับการขึ้นราคาบริการต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ทั้งบริษัทและผู้บริโภคจะต้องปรับตัวไปพร้อม ๆ กัน
ที่มา : Thehill
