Apple ตอบโต้ EC ตัดสิน App Store ผูกขาดตลาดสตรีมเพลงออนไลน์ Spotify ลอยตัว มียอดดาวน์โหลด 1.19 พันล้านครั้งบนระบบ iOS โดยที่ไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนให้ Apple เลย
Apple โต้ EC ตัดสิน App Store ผูกขาดตลาดเพลงดิจิทัล ขณะที่ Spotify ลอยตัว
วันนี้ 5 มีนาคม 2024 , คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศการตัดสินว่า App Store นั้นเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดเพลงดิจิทัล โดยที่ Apple ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปนี้และกำลังวางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ พร้อมออกแถงการณ์ใน Newsroom ตอบโต้การตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปและพูดถึง Spotify ที่เติบโตมหาศาลเพราะ App Store
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดสินของ EC
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ตัดสินว่า Apple ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของ EU โดยใช้ App Store ในการจำกัดการแข่งขันในตลาดเพลงดิจิทัล โดย EC กล่าวว่า Apple บังคับให้ผู้พัฒนาแอปเพลงใช้ระบบการชำระเงินภายในแอปของ Apple ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากนักพัฒนาแอป และห้ามผู้พัฒนาแอปเพลงแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับตัวเลือกการชำระเงินอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการจ่ายเงินผ่าน App Store
- EC สั่งให้ Apple เปลี่ยนแปลงนโยบาย App Store และจ่ายค่าปรับสูงสุด 10% ของยอดขายทั่วโลก โดยที่ Apple ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของ EC ในครั้งนี้
- Apple ยืนกรานว่า App Store นั้น สนับสนุนการแข่งขัน ช่วยให้ผู้บริโภคปลอดภัย ช่วยให้ศิลปินได้รับค่าตอบแทนจากจุดยืนนี้
- Apple วางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
Spotify vs Apple กับการตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป
Spotify ถูกยกมาเป็นประเด็นหลักในการตัดสินของ EC ในครั้งนี้ Spotify ครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 56% ของตลาดสตรีมเพลงในยุโรป แถมยังมีส่วนแบ่งบน iOS มากกว่า Android แต่ Spotify ไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ ให้ Apple ที่ช่วยให้ Spotify กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก
Apple กล่าวว่า App Store ช่วยให้ Spotify และบริการสตรีมมิ่งเพลงอื่น ๆ เข้าถึงผู้ใช้ iPhone และ iPad หลายร้อยล้านคนทั่วโลก แต่ Spotify ไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ แก่ Apple สำหรับการเข้าถึง App Store เลย
Apple ทำอะไรให้ Spotify บ้าง?
Spotify มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 1.19 แสนล้านครั้งบนอุปกรณ์ Apple แถมได้รับประโยชน์มากมายจากสิ่งที่ Apple มอบให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น
- Apple ทำให้ Spotify ทำงานได้อย่างลงตัวกับ Siri, CarPlay, Apple Watch, AirPlay และวิดเจ็ต
- Apple ทำการตลาดและการโปรโมทบน App Store ให้ Spotify
- Spotify ได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจาก Apple โดยการให้ Spotify เข้าถึง API ของ Apple มากกว่า 250,000 รายการ และเฟรมเวิร์กมากกว่า 60 รายการ
- Apple ช่วยให้ Spotify ทดสอบแอปเวอร์ชันเบต้าผ่าน TestFlight
- Apple คอยตรวจสอบและอนุมัติแอป Spotify เวอร์ชันต่าง ๆ มากกว่า 421 เวอร์ชัน
- Apple ส่งวิศวกรไปช่วยเหลือทีม Spotify ที่สตอกโฮล์ม
- อนุญาตให้ Spotify ใส่ลิงก์ในแอปเพื่อนำผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บสำหรับสร้าง/จัดการบัญชี
จุดยืนของ Apple
Apple ชี้จุดยืนว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดเพลงดิจิทัลที่หลากหลาย บริษัทสนับสนุนผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงทุกขนาด และมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับศิลปินและนักแต่งเพลง โดยบอกว่า App Store มุ่งมั่นที่จะเป็นสื่อกลางที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่น่าทึ่งสำหรับนักพัฒนา
App Store มีระบบการแข่งขันที่เท่าเทียม มีการตรวจสอบแอปอย่างละเอียด สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้มั่นใจและช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงผู้ใช้กว่าพันล้านเครื่อง
Apple บอกว่า 86% ของนักพัฒนาไม่เคยจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ Apple แต่จะจ่ายให้ก็ต่อเมื่อมีการขายแอปแบบมีค่าใช้จ่าย, ขายสินค้า บริการดิจิทัลในแอปได้เท่านั้น
นักพัฒนามีช่องทางที่ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับ Apple ได้หลายทาง เช่น ขายสินค้าที่จับต้องได้ การขึ้นโฆษณาในแอป การแชร์แอปฟรี และการขายการสมัครสมาชิกบนเว็บ เป็นต้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา App Store ได้ช่วยให้นักพัฒนาทั้งรายใหญ่และรายย่อยสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเข้าถึงผู้คนทั่วโลก และ Spotify ก็เป็นหนึ่งในนั้น
Apple สรุปว่า Spotify “ไม่รู้จักพอ”
Spotify เขียนกฎ App Store ใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเอง มีการแทรกราคาสมัครสมาชิกในแอปโดยไม่ใช้ระบบชำระเงินของ App Store ในขณะเดียวกันก็ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีของ Apple โดยไม่ต้องจ่ายเงิน
จากข้อเท็จจริงนี้ชี้ว่า Spotify ไม่พอใจกับกฎ App Store ปัจจุบัน และต้องการได้ประโยชน์จาก App Store โดยไม่ต้องจ่ายเงิน และ Apple ตอบโต้การกระทำนี้โดยใช้ประโยคที่ว่า “Spotify ไม่รู้จักพอ”
Apple จะทำอย่างไรต่อไป ?
Apple บอกว่าบริษัทได้ดำเนินกิจการในยุโรปมานานกว่า 40 ปี เกิดการจ้างงานมากกว่า 2.5 ล้านตำแหน่ง และ Apple ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เตรียมยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ยืนยันที่จะสนับสนุนคนทำเพลงและสร้างการแข่งขันที่ยุติธรรม มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ และจะพัฒนา App Store ต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Apple Newsroom