อยากเล่นเกมสนุก ๆ ไม่ต้องจ่ายแพง! แนะนำคีย์บอร์ดเกมมิ่งสำหรับคนที่มีงบไม่เกิน 3,000 บาท คัดมาให้ 5 แบบ ศึกษาข้อมูลและเลือกซื้อตามชอบได้เลย!
คีย์บอร์ดเล่นเกม (Gaming Keyboard) สำหรับคนงบน้อยที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024
เกมเมอร์ฝีมือฉกาจอย่างเราไม่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดราคาแพงที่สุดก็ได้ เพียงเลือกคีย์บอร์ดให้เหมาะกับเรา และได้คุณภาพ มีการตอบสนองที่ตอบโจทย์การเล่นเกม เพียงแค่นี้ก็ทำให้การเล่นเกมของคุณสนุกขึ้นแล้ว! ทีมงานมาแนะนำคีย์บอร์ดราคาประหยัดมาแนะนำ
Logitech G213 Prodigy: คีย์บอร์ดเกมมิ่งราคาประหยัดแบบมีสายที่ดีที่สุด
คีย์บอร์ดเกมมิ่งรุ่นนี้เป็นแบบมีสานย โดดเด่นด้วยสัมผัสการกดปุ่มที่ยอดเยี่ยม มีไฟ RGB ปรับแต่งได้หลายโซน
มารพร้อมปุ่มควบคุมสื่อบนตัวเครื่อง
Logitech G213 เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดแบบเต็มขนาด จ่ายในราคาสบายกระเป๋า แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบาย
ราคา : ~ 1,400 บาท (ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/8zhmKMiSRI )
ข้อดี
- ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ Logitech อื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น
- มีปุ่มควบคุมสื่อโดยเฉพาะ : มีปุ่มควบคุมสำหรับเล่นเพลง, ปรับระดับเสียง, ฯลฯ
- โหมดเกม: มีโหมดเกมที่ช่วยปิดการใช้งานปุ่มลัด (shortcut) ที่อาจรบกวนการเล่นเกม
ข้อเสีย
- ที่รองข้อมืออาจใหญ่เกินไป: ที่รองข้อมือที่ติดมากับคีย์บอร์ดอาจจะใหญ่เกินไปสำหรับบางคน และไม่สามารถถอดออกได้
- ขนาดโดยรวมของคีย์บอร์ดอาจจะใหญ่ เนื่องจากมีปุ่มควบคุมสื่อมาด้วย
หากใครเป็นแฟน Logitech แต่ชอบคีย์บอร์ดแบบไร้สาย ลองดูรุ่นถัดไป
Logitech G613: คีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายราคาประหยัดที่ดีที่สุด
Logitech G613 ใช้สวิตช์ Romer-G Tactile ซึ่งมีระยะการกดที่สั้นมาก เหมาะสำหรับเกมส์แอ็คชั่นที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ก็อาจจะทำให้พิมพ์ผิดได้ง่ายเวลาพิมพ์งานทั่วไป
ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย Lightspeed จาก Logitech ทำให้ G613 มีความหน่วงต่ำมาก แม้จะเป็นคีย์บอร์ดราคาประหยัด
G613 มีการการประกอบที่ค่อนข้างดี ตัวคีย์บอร์ดแข็งแรง ไม่ยวบยาบ เวลาพิมพ์แรง ๆ เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size มีปุ่มสำหรับตั้งค่า Macro และควบคุมเครื่องเล่นเพลงเยอะ
ข้อพิจารณาคือ ที่พักรองข้อมือถอดออกไม่ได้ ทำให้กินพื้นที่บนโต๊ะค่อนข้างเยอะ สำหรับคนทีมีโต๊ะตัวเล็กอาจจะรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป
ราคา : ~ 1,900 บาท (ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/9zaJWIKUWJ )
ข้อดี
- ประสบการณ์การพิมพ์ที่ดี: ปุ่มกดมีสัมผัสที่สบาย พิมพ์ได้อย่างลื่นไหล
- ความหน่วงต่ำมาก: เทคโนโลยีไร้สาย Lightspeed ทำให้ตอบสนองได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกม
- ตั้งค่า Macro ได้: สามารถตั้งค่าปุ่มให้สั่งงานหลายคำสั่งได้สะดวก
ข้อเสีย
- ไม่มีไฟแบ็คไลท์: ไม่มีไฟส่องสว่างใต้ปุ่มกด อาจจะมองไม่เห็นปุ่มในที่แสงน้อย
- กินพื้นที่โต๊ะค่อนข้างเยอะ: ขนาดคีย์บอร์ดใหญ่ เนื่องจากเป็นแบบ Full-size และมีที่พักรองข้อมือแบบถอดไม่ได้
SteelSeries Apex 3 TKL RGB: คีย์บอร์ดเกมมิ่ง RGB ราคาประหยัดที่ดีที่สุด
SteelSeries Apex 3 TKL มาจากซีรี่ส์เดียวกับ SteelSeries Apex 3 แม้ว่าจะมีไฟ RGB แบบแบ่งเป็นโซน ไม่ใช่แบบ Per-key แต่ก็ให้แสงสีสวยงามไม่แพ้กัน
คีย์บอร์ดรุ่นนี้เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ชอบดีไซน์ของ SteelSeries Apex 3 แต่ต้องการขนาดที่เล็กกว่า โดยยังคงประสิทธิภาพการเล่นเกมและให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดี
เพื่อให้ได้ราคาที่ย่อมเยา SteelSeries เลือกใช้สวิตช์เมมเบรนแทนสวิตช์แบบ Mechanical ถือว่าเป็นสวิตช์เมมเบรนที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งสำหรับคีย์บอร์ดเกมมิ่งเลยทีเดียว ปุ่มกดมีความไว ตอบสนองรวดเร็ว มีปุ่มนูนเล็กน้อยด้านใต้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับสวิตช์ Mechanical แบบ Tactile
คีย์บอร์ดตัวนี้เงียบมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากรบกวนคนรอบข้างขณะพิมพ์งานหรือเล่นเกม
นอกจากสวิตช์เมมเบรนจะช่วยให้พิมพ์ได้เงียบแล้ว แกนของปุ่มกดยังเป็นแบบใส ช่วยให้แสงไฟ RGB แบบแบ่งโซนส่องผ่านได้สวยงาม แม้ว่าจะปรับไฟไม่ได้ละเอียดแบบ Per-key สามารถปรับแต่งไฟ RGB ได้ในซอฟต์แวร์ของ SteelSeries
ราคา : ~ 2,300 บาท (ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/7KZYLfJNMT )
ข้อดี
- ปรับระดับความสูงได้: มีขาตั้งด้านล่าง ปรับระดับความสูงของคีย์บอร์ดได้ตามต้องการ
- ราคาคุ้มค่า: เป็นคีย์บอร์ดราคาประหยัด
- สวิตช์เงียบ: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคีย์บอร์ดเงียบ ไม่รบกวนผู้อื่น
- ไฟ RGB สวยงาม: แม้ว่าจะเป็นไฟแบบแบ่งโซน แต่ก็ให้สีสันสดใส น่ามอง
ข้อเสีย
- สายไม่สามารถถอดได้: สายเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดแบบติดตาย ไม่สามารถถอดออกได้
- น้ำหนักเบาไปหน่อย: น้ำหนักคีย์บอร์ดอาจจะเบาไปสำหรับบางคน ทำให้รู้สึกไม่ค่อยแน่น
RK ROYAL KLUDGE RK61: คีย์บอร์ดเกมมิ่งราคาประหยัดที่ปรับแต่งได้มากที่สุด
RK ROYAL KLUDGE RK61 เข้ามาตอบโจทย์ปัญหาโต๊ะคอมเต็ม ด้วยรูปแบบคีย์บอร์ดไซส์ 60% ที่กะทัดรัด
แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ RK61 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ทรงพลัง ถือเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาดเล็กที่ดีที่สุดในงบประมาณนี้ เพราะมาพร้อมกับสวิตช์แบบ Mechanical ที่มีไฟ RGB มีสวิตช์แบบ hot-swappable (สามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้โดยไม่ต้องบัดกรี) ทำให้สามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดตามต้องการได้ในอนาคต
คีย์บอร์ดแบบ 60% ไม่มีปุ่มกดสำหรับแป้นตัวเลข (numpad) ปุ่มลูกศร ปุ่มฟังก์ชันพิเศษ (เช่น Delete หรือ Page Up) และแถว FN
สำหรับคนที่เคยชินกับคีย์บอร์ดขนาดเต็ม การเปลี่ยนมาใช้แบบ 60% อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักระยะ แต่ข้อดีของคีย์บอร์ดรุ่นนี้คือสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนคีย์แคปและสวิตช์ได้เองตามต้องการ
ราคา : ~ 1,700 บาท (ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/8KS5XxD7ts )
ข้อดี
- ขนาดเล็กกะทัดรัด: เหมาะสำหรับการพกพาไปเล่นเกมนอกสถานที่
- สวิตช์แบบ Mechanical: ให้สัมผัสการกดที่แม่นยำและเสียงคลิ๊ก ๆ เวลาพิมพ์
- มี 2 สี: สีดำและสีขาว
ข้อเสีย
- ราคาใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดขนาดเต็ม: แม้จะมีขนาดเล็กแต่ราคาอาจจะใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดแบบ Full size
- ขนาดเล็ก ต้องใช้เวลาปรับตัว: การใช้งานคีย์บอร์ดแบบ 60% อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะคุ้นเคย เนื่องจากไม่มีปุ่มกดบางอย่าง เช่น ปุ่มกดแป้นตัวเลข (numpad) ปุ่มลูกศร ปุ่มฟังก์ชันพิเศษ
Royal Kludge Rk96: คีย์บอร์ด Full size ราคาประหยัดที่ดีที่สุด
จริง ๆ แล้ว RK98 ไม่ใช่คีย์บอร์ดแบบ Full-size 100% แต่เป็นแบบ 96% เพราะมีปุ่มกดน้อยกว่าคีย์บอร์ดแบบ Full-size ทั่วไป 6 ปุ่ม ซึ่งปุ่มที่หายไปคือ ปุ่มสำหรับเลื่อนหน้าเว็บเพจ (Page Up/Page Down) แต่สำหรับการใช้งานเกมทั่วไป ปุ่มเหล่านี้ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่
ขนาดของคีย์บอร์ดกว้างขวาง ทำให้เกมเมอร์สามารถวางมือพิมพ์ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ ยังมีที่พักรองข้อมือแถมมาด้วย ช่วยให้สามารถใช้งาน RK98 เป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ปวดเมื่อยข้อมือ
Royal Kludge RK98 มีสวิตช์หลากหลายแบบให้เลือก สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ ด้วยแผ่น PCB แบบ hot-swappable และตัวเครื่องที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย เพื่อรองรับการโมดิฟายเพิ่มเติม
สวิตช์และปุ่มที่ติดมากับคีย์บอร์ดรุ่นนี้มีคุณภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับทั้งการเล่นเกมและงานทั่วไป แม้ว่าบางครั้งเสียงกดปุ่ม Spacebar อาจจะดังไปหน่อย แต่สามารถแก้ไขได้โดยการติดเทปใสบาง ๆ บริเวณก้นของปุ่ม Spacebar เพื่อช่วยลดเสียงได้
ราคา : ~ 2,600 บาท (ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/50BdfhSZlZ )
ข้อดี
- ให้ประสบการณ์การพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม: สัมผัสการกดปุ่มที่แม่นยำ พิมพ์ได้อย่างลื่นไหล
- ขนาด Full-size แต่ไม่เทอะทะ
- Hot-swappable PCB: สามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้โดยไม่ต้องบัดกรี
- มีที่พักรองข้อมือแถมมาด้วย: ช่วยให้ใช้งานได้สบายมากขึ้น
ข้อเสีย
- บางปุ่มมีเสียงกดดัง: อาจจะมีเสียงรบกวนเวลากดปุ่มบางปุ่ม โดยเฉพาะปุ่ม Spacebar สามารถแก้ไขได้โดยการติดเทปใสบาง ๆ บริเวณก้นของปุ่ม
การเลือกคีย์บอร์ดเกมมิ่งราคาประหยัดแทนคีย์บอร์ดทั่วไปมีข้อดีหลายอย่าง นอกจากความชอบแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความทนทาน ขนาด และคุณสมบัติ RGB เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับการเล่นเกมในระยะยาวค่ะ
ที่มา – gamerant